การพัฒนาครูในการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงบริหารสำหรับเด็กปฐมวัยโรงเรียนชุมชนยอดแก่งสงเคราะห์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3
คำสำคัญ:
การพัฒนาครู, นวัตกรรมการเรียนรู้, การคิดเชิงบริหารในเด็กปฐมวัย, อบรมเชิงปฏิบัติการ, บันทึกชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัญหาการพัฒนาครูในการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงบริหารของเด็กปฐมวัย 2) ศึกษาแนวทางการพัฒนาครูในการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงบริหารสำหรับเด็กปฐมวัย 3) ศึกษาผลการพัฒนาครูในการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงบริหารของเด็กปฐมวัย กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย จำนวน 5 คน ได้แก่ ครูผู้สอน 4 คน และหัวหน้าฝ่ายงานวิชาการ 1 คน และมีผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 2 คน คือ ผู้อำนวยการโรงเรียน 1 คน และวิทยากร 1 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง แบบประเมินตนเองก่อน-หลังการอบรม มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.94 แบบบันทึกการประชุม แบบบันทึกชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) และแบบบันทึกการสะท้อนผลปฏิบัติงาน (After Action Review: AAR) ที่ได้รับคำแนะนำ ปรับปรุงตรวจสอบความถูกต้อง และความเหมาะสมของเนื้อหาโดยอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์และผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย () ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (
) และการวิเคราะห์สรุปผลข้อมูลเชิงสถิติและเชิงพรรณนา
ผลการวิจัย พบว่า
1. ปัญหาการพัฒนาครูในการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงบริหารสำหรับเด็กปฐมวัย โรงเรียนชุมชนยอดแก่งสงเคราะห์ คือ ครูผู้สอนขาดทักษะในการปฏิบัติเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ทักษะการคิดเชิงบริหารของเด็กปฐมวัย และขาดการนำทักษะไปใช้เพื่อการจัดทำแผนการสอนการคิดเชิงบริหารของเด็กปฐมวัยที่จะส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพต่อการคิดเชิงบริหารของเด็กปฐมวัย พบว่า ก่อนการอบรมเชิงปฏิบัติการ ครูผู้สอนมีความสามารถในการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงบริหารสำหรับเด็กปฐมวัย (Executive Functions: EF) คิดเป็นร้อยละ 57.50 โดยรวม อยู่ในระดับปานกลาง ( = 3.20,
= 0.40) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านความรู้ความเข้าใจ อยู่ในระดับปานกลาง (
= 2.59,
= 0.28) ด้านเจตคติ อยู่ในระดับมาก (
= 4.30,
= 0.61) และด้านทักษะ อยู่ในระดับน้อย (
= 1.51,
= 0.15) ตามลำดับ
2. แนวทางการพัฒนาครูในการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงบริหารสำหรับเด็กปฐมวัยโรงเรียนชุมชนยอดแก่งสงเคราะห์ ได้แก่ 1) กิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) เรื่อง การสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงบริหารของเด็กปฐมวัย (Executive Functions: EF) มี 4 กิจกรรม ได้แก่ 1) สื่อความรู้ประติมากรรมทักษะทางสมองแบบ EF 2) สื่อประสบการณ์สร้างตัวตนของเด็กปฐมวัย 3) ครูผู้สร้างประสบการณ์แก่เด็กปฐมวัยแบบ EF และ 4) ครูสร้างสื่อสำหรับเด็กปฐมวัยแบบ EF จำนวน 1 วัน รวม 6 ชั่วโมง และ 2) กิจกรรมการบันทึกชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) จำนวน 2 วัน รวม 6 ชั่วโมง 3) การสะท้อนผลการปฏิบัติงาน (After Action Review: AAR) จำนวน 1 วัน 6 ชั่วโมง
3. ผลการพัฒนาครูในการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงบริหารสำหรับเด็กปฐมวัยโรงเรียนชุมชนยอดแก่งสงเคราะห์ พบว่า
3.1 จากการอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) พบว่า ครูผู้สอนมีทักษะในการปฏิบัติให้เกิดผลงานเชิงประจักษ์ที่สามารถส่งเสริมการเรียนรู้ทักษะการคิดเชิงบริหารของเด็กปฐมวัยมากยิ่งขึ้น และครูผู้สอนสามารถนำทักษะการจัดทำแผนการสอนการคิดเชิงบริหารของเด็กปฐมวัยไปใช้ได้มากขึ้น หลังการอบรมเชิงปฏิบัติการ ครูผู้สอนมีความสามารถในการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงบริหารสำหรับเด็กปฐมวัย (Executive Functions: EF) คิดเป็นร้อยละ 87.50 โดยรวม อยู่ในระดับมาก (= 4.06,
= 0.27) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ความรู้ความเข้าใจ อยู่ในระดับมาก (
= 3.83,
= 0.35) ด้านเจตคติอยู่ในระดับมาก (
= 4.37,
= 0.25) และด้านทักษะ อยู่ในระดับมาก (
= 3.97,
= 0.32) ซึ่งสูงกว่าก่อนการอบรมเชิงปฏิบัติการ
3.2 จากการบันทึกชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) พบว่า ครูผู้สอนมีความรู้ความสามารถในการจัดการเรียนการสอนโดยใช้การคิดเชิงบริหารในเด็กปฐมวัย ครูผู้สอนได้เรียนรู้ทักษะการใช้ที่ส่งเสริมการคิดเชิงบริหารในเด็กปฐมวัยที่หลากหลาย นำเอาความรู้ที่ได้จากการอบรมการใช้สื่อที่ส่งเสริมการคิดเชิงบริหารในเด็กปฐมวัยมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อเพิ่มทักษะการเรียนรู้แก่ผู้เรียน และนำไปบูรณาการจัดการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี
3.3 จากการสะท้อนผลการปฏิบัติงาน (After Action Review: AAR) ภายหลังการอบรม พบว่า ครูผู้สอนมีความรู้ความสามารถในการจัดการเรียนการสอนโดยใช้สื่อการคิดเชิงบริหารในเด็กปฐมวัย (Executive Functions: EF) เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และสามารถพัฒนานักเรียนให้มีความสนใจการเรียนรู้และเกิดองค์ความรู้ใหม่ ๆ ที่หลากหลาย ครูผู้สอนได้เรียนรู้ทักษะการใช้สื่อนวัตกรรมการคิดเชิงบริหารในเด็กปฐมวัยโดยนำเอาความรู้ที่ได้จากการอบรมเชิงปฏิบัติการและการทำกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพมาใช้ในพัฒนาการจัดการเรียนการสอนเพื่อเพิ่มพูนความรู้ ความสามารถ มีเจตคติที่ดี และทักษะการเรียนรู้ด้วยการคิดเชิงบริหารของเด็กปฐมวัยได้ดียิ่งขึ้น
เอกสารอ้างอิง
กมลรัตน์ คะนองเดช และคณะ. (2563). ผลการจัดประสบการณ์โดยใช้สื่อและของเล่นที่มีต่อทักษะ EF ของเด็กปฐมวัยในโรงเรียนร่วมพัฒนาวิชาชีพครู เขตพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้. ยะลา: มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา.
กรมวิชาการ. (2546). วิถีใหม่แห่งการเรียนรู้แบบร่วมมือ. กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพร้าว.
กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น. (2550). วิสัยทัศน์. เข้าถึงได้จาก http://www.thailocaladmin.go.th. 25 ตุลาคม 2563.
จริยา ทองหอม. (2561). รายงานผลการอบรมเชิงปฏิบัติการการขับเคลื่อนกระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) สู่สถานศึกษาและการปฏิบัติการใช้โปรแกรม Logbook Teacher เพื่อการพัฒนาครูตามแนวทางการประเมินวิทยฐานะ ว 21/2560. นครศรีธรรมราช: โรงเรียนวัดมหาธาตุ.
จิระพร ชะโน. (2562). การคิดเชิงบริหารกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย. เข้าถึงได้จาก http://edu.msu.ac.th/journal/home/journal_file/554.pdf. 10 กรกฎาคม 2564.
เจริญ ภูวิจิตร์. (2564). แนวทางการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาในยุค Next Normal. เข้าถึงได้จาก http://www.nidtep.go.th/2017/publish/doc/20220308-4.pdf. 16 กรกฎาคม 2564.
ดวงเนตร ธรรมกุล. (2557). การพัฒนาโปรแกรมการอบรมเชิงปฏิบัติการเสริมสร้างองค์กรแห่งความสุขด้วย MapHR. เข้าถึงได้จาก http://journal.knc.ac.th/pdf/20-1-2557-2.pdf. 15 กรกฎาคม 2564.
ทีซีที โนเลจ. (2558). การทบทวนหลังปฏิบัติการ: After action review (AAR). เข้าถึงได้จาก https://sites.google.com/a/email.kmutnb.ac.th/tctknowledgemanage/klum-km. 14 กรกฎาคม 2564.
มีเดีย ไทยแลนด์. (2555). นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา. เข้าถึงได้จาก https://mediathailand-ictedu.blogspot.com/2012/07/124.html. 15 กรกฎาคม 2564.
ยโสธารา ศิริภาประภากร. (2563). วิเคราะห์ปัญหาการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีการเรียนการสอน. เข้าถึงได้จาก https://www.academia.edu/44858435. 12 กรกฎาคม 2564.
รักลูก. (2563). EF (Executive Functions) คืออะไร. เข้าถึงได้จาก https://www.rakluke.com/executive-functions-all/ef-for-parents/item/ef-executive-functions.html. 12 กรกฎาคม 2564.
โรงเรียนชุมชนยอดแก่งสงเคราะห์. (2562). หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 (หลักสูตรสถานศึกษา). กาฬสินธุ์: โรงเรียนชุมชนยอดแก่งสงเคราะห์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3.
โรงเรียนนาสาร. (2562). การดำเนินงานชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนนาสาร. สุราษฎร์ธานี: โรงเรียนนาสาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3. (2563). แผนพัฒนาการศึกษา พ.ศ. 2563–2566 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3. กาฬสินธุ์: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2. (2562). การปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ. 2552-2561). มหาสารคาม: กลุ่มนโยบายและแผน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2546). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ.
Kemmis, S. and McTaggart, R. (1988). The Action Research Planner. Geelong Victoria: Deakin University Press.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความทุกบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ถือว่าเป็นลิขสิทธิ์ของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
