การจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ในระบบนิเวศโดยธุรกิจรับซื้อของเก่า กรณีศึกษา : สหพันธ์การค้า จังหวัดปราจีนบุรี
คำสำคัญ:
ขยะอิเล็กทรอนิกส์; ธุรกิจรับซื้อของเก่าบทคัดย่อ
ความนิยมใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้วิถีชีวิตเป็นไปโดยสะดวก ประกอบหน้าที่การงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ยอดขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์พุ่งสูงขึ้น ขณะเดียวกันก็ส่งผลให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก พ.ศ. 2561 ประเทศไทยมีขยะอิเล็กทรอนิกส์สูงถึง 414,000 ตัน (ไม่นับรวมขยะต่างประเทศที่นำเข้าอย่างผิดกฎหมาย) ได้รับการจัดการอย่างถูกต้องเพียง 83,600 ตัน (กรมควบคุมมลพิษ, 2562) ส่วนที่เหลือตกค้างอยู่ในระบบนิเวศ ปัญหาร้ายแรงจากขยะอิเล็กทรอนิกส์คือ ส่วนประกอบพลาสติกที่ไม่ย่อยสลาย และสารประกอบอันตราย เช่น ตะกั่ว แคดเมียม ฯลฯ โดยที่ประเทศไทยไม่มีกฎหมายจัดการปัญหานี้โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มอาชีพค้าของเก่าเข้ามาช่วยจัดการขยะเหล่านี้ออกจากระบบนิเวศน์ได้ในระดับหนึ่ง จากกรณีศึกษาธุรกิจสหพันธ์การค้า จัดซื้อซีพียูคอมพิวเตอร์เก่ามาทำการคัดแยก พบว่า สามารถแยกชิ้นส่วนส่งขายได้ทั้งหมดโดยไม่มีขยะเหลือเลย (zero wastes) สามารถทำกำไรเฉลี่ยเดือนละ 9,963.53 บาท คิดเป็น 41.72% ต่อยอดรายได้ ซึ่งเป็นอัตราการทำกำไรที่ดีมาก โดยที่การค้าซีพียูเป็นเพียงแค่ 3% ของการค้าทั้งหมด ดังนั้น ประเทศไทยในปัจจุบันพึ่งพาระบบธุรกิจรับซื้อของเก่าเป็นกลไกสำคัญในการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ออกจากระบบนิเวศ
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความทุกบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ถือว่าเป็นลิขสิทธิ์ของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
