การพัฒนาแนวทางการทำงานเป็นทีมสำหรับสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ

ผู้แต่ง

  • ประหยัด ชำนาญ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

คำสำคัญ:

การพัฒนาแนวทาง, การทำงานเป็นทีม

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบและตัวชี้วัดของการทำงานเป็นทีม 2) ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์การทำงานเป็นทีมของสถานศึกษาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ 3) พัฒนาแนวทางการทำงานเป็นทีมสำหรับสถานศึกษาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ การวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 ศึกษาองค์ประกอบและตัวชี้วัดและประเมินความเหมาะสมโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 7 คน ระยะที่ 2 ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหารและครูสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ จำนวน 260 คน ระยะที่ 3 ประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของแนวทาง โดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

            ผลการวิจัยพบว่า

  1. องค์ประกอบและตัวชี้วัด การทำงานเป็นทีมสำหรับสถานศึกษาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ประกอบด้วย 7 องค์ประกอบ 34 ตัวชี้วัด และมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด
  2. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการทำงานเป็นทีมของสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหาร
    ส่วนจังหวัดชัยภูมิ โดยรวมมีสภาพปัจจุบันอยู่ในระดับปานกลาง และมีสภาพที่พึงประสงค์อยู่ในระดับมาก
  3. ผลการพัฒนาแนวทางการทำงานเป็นทีมของสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ประกอบด้วย
    7 องค์ประกอบ 40 แนวทาง มีผลการประเมินความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด และความเป็นไปได้อยู่ในระดับมาก

เอกสารอ้างอิง

กรมวิชาการ. (2544). หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.
ขัตติยา ด้วงสําราญ. (2552). รูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์สำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก. วิทยานิพนธ์ กศ.ด. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ชมนาด พงศ์พนรัตน์. (2547). ยุทธศาสตร์การพัฒนาข้าราชการพลเรือน. นนทบุรี: สถาบันพัฒนาข้าราชการพลเรือน.
ทิศนา แขมมณี. (2545). ศาสตร์การสอน. กรุงเทพฯ: สํานักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ธีระ รุญเจริญ. (2550). ความเป็นมืออาชีพในการจัดและบริหารการศึกษายุคปฏิรูปการศึกษา. กรุงเทพฯ: แอล. ที. เพรส.
ปรีชา กองจินดา. (2549). แนวทางการพัฒนาองค์การแห่งการเรียนรู้ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 และเขต 2. วิทยานิพนธ์ ค.ม. พระนครศรีอยุธยา:
มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา.
ไพโรจน์ บาลัน. (2551). ทักษะการบริหารทีม. กรุงเทพฯ: แอคทีฟพรินท์.
วิโรจน์ สารรัตนะ. (2542). การบริหาร หลักการ ทฤษฎี และประเด็นทางการศึกษา. กรุงเทพฯ: อักษรพิพัฒน์.
สุนทร พลวงค์. (2551). การพัฒนาการทํางานเป็นทีมของบุคลากรในสังกัดกองการศึกษา เทศบาลตําบลท่าสะอาด อําเภอเซกา จังหวัดหนองคาย. การศึกษาอิสระ ค.ม. มหาสารคาม:
มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
สุนันทา เลาหนันท์. (2551). การสร้างทีมงาน. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: แฮนด์เมดสติกเกอร์แอนด์ดีไซน์.
สุรวุฒิ ยัญญลักษณ์. (2550). การพัฒนาสมรรถนะเพื่อเพิ่มประสิทธิผลขององค์กรข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. วิทยาจารย์, 8, 83–84.
อนนท์ ตุลารักษ์. (2556). การติดต่อสื่อสารเพื่อการประสานงาน. กรุงเทพฯ: ศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาทรัพยากรบุคคล.
อนันต์ พันนึก. (2554). การวิจัยและพัฒนาโปรแกรม พัฒนาสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. วิทยานิพนธ์ ปร.ด. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
อนุชา แก้วหลวง. (2548). รายงานการวิจัยเรื่อง ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานเป็นทีมอาจารย์ สถาบันเทคโนโลยีราชมลคล วิทยาเขตพายัพ (เจ็ดยอด). วิทยานิพนธ์ บธ.ม.
เชียงใหม่: สถาบันเทคโนโลยีราชมลคลล้านนาวิทยาเขตพายัพ.
อาภรณ์ ภู่วิทยพันธุ์. (2550). กลยุทธ์การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์. กรุงเทพฯ: เอช อาร์ เซ็นเตอร์.
Austin, A. E. and Baldwin,G. B. (1991). Faculitycollaboration : Enhancing the quality of scholarship and teaching. Washington: School of Education and Human
Development.
Luthans, Fred. (1995). Organizational Behavior. (7th ed). New York: McGraw-Hill.
Mayo, Elton. (1933). The Human Problems of an Industrial Civilization. New York: Macmillan.
Parker, G. M. (1990). Team Players and Teamwork: The New Competive Business Strategy. Sanfancisco, Calif: Jossey-Bass.
WoodCock, Mike. (1989). Team Development Manual. Worcester: Billing and Sons.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-04-13

รูปแบบการอ้างอิง

ชำนาญ ป. (2020). การพัฒนาแนวทางการทำงานเป็นทีมสำหรับสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 17(76), 77–89. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/SNGSJ/article/view/160328

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย