การพัฒนาการจัดประสบการณ์เรียนรู้แบบไฮสโคปโดยใช้เกมการศึกษา เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงเหตุผลสำหรับเด็กปฐมวัย
คำสำคัญ:
การจัดประสบการณ์เรียนรู้แบบไฮสโคป, เกมการศึกษา , การคิดเชิงเหตุผลบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาการจัดประสบการณ์เรียนรู้แบบไฮสโคปโดยใช้เกมการศึกษาเพื่อส่งเสริม
การคิดเชิงเหตุผลสำหรับเด็กปฐมวัย ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบการคิดเชิงเหตุผลของเด็กปฐมวัย ก่อนเรียน
และหลังเรียนด้วยการจัดประสบการณ์เรียนรู้แบบไฮสโคปโดยใช้เกมการศึกษา และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของเด็กปฐมวัยที่มีต่อการจัดประสบการณ์เรียนรู้แบบไฮสโคปโดยใช้เกมการศึกษา ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนอนุบาลอุบลราชธานี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 ได้มาจากการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม โดยใช้ห้องเรียนเป็นกลุ่ม ได้ห้องอนุบาลปีที่ 3/7 จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แผนการจัดประสบการณ์เรียนรู้แบบไฮสโคปโดยใช้เกมการศึกษาเพื่อส่งเสริมการคิดเชิงเหตุผลสำหรับเด็กปฐมวัย จำนวน 12 แผน แบบประเมินการคิดเชิงเหตุผลสำหรับเด็กปฐมวัย แบบเลือกตอบ ชนิด 3 ตัวเลือก จำนวน
12 ข้อ แบบสอบถามความพึงพอใจของเด็กปฐมวัยที่มีต่อการจัดประสบการณ์เรียนรู้แบบไฮสโคปโดยใช้เกมการศึกษา จำนวน
5 ข้อ สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบที
ผลการวิจัยพบว่า
- 1. ผลการพัฒนาการจัดประสบการณ์เรียนรู้แบบไฮสโคปโดยใช้เกมการศึกษาเพื่อส่งเสริมการคิดเชิงเหตุผลสำหรับ
เด็กปฐมวัย มีประสิทธิภาพที่ระดับ 83/83.89 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ - 2. ผลการเปรียบเทียบการคิดเชิงเหตุผลของเด็กปฐมวัย ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยการจัดประสบการณ์เรียนรู้
แบบไฮสโคปโดยใช้เกมการศึกษา พบว่าหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 - 3. ผลการศึกษาความพึงพอใจของเด็กปฐมวัยที่มีต่อการจัดประสบการณ์เรียนรู้แบบไฮสโคปโดยใช้เกมการศึกษา โดยรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมาก โดยมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 2.85 คิดเป็นร้อยละ 95.07 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ .41
เอกสารอ้างอิง
กัญญาณัฐ คงสา และขวัญใจ จริยาทัศน์กร. “การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 3/3 โรงเรียน
เทศบาล 4 (อุดมวิทย์สมใจ) โดยใช้กิจกรรมเกมการศึกษา,” วารสารการจัดการทางการศึกษาปฐมวัย. 3, 2 (กรกฎาคม-
ธันวาคม 2564): 12.
คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, สำนักงาน ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561-2580. กรุงเทพฯ: สำนักงาน
คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, 2561.
เจริญตา จาดเจือจันทร์. การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดไฮ-สโคป เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย.
วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์, 2556.
ณัฐญา นันทราช. การพัฒนาทักษะการคิดพื้นฐานของเด็กปฐมวัยโดยการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบไฮสโคปด้วยกิจกรรมเกม
การศึกษา. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 2563.
บุญชม ศรีสะอาด. การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพฯ: บริษัท สุวีริยาสาส์น จำกัด, 2556.
ภควดี จันทรักษ์. การพัฒนาเกมการศึกษารูปแบบออนไลน์ประกอบชุดฝึกปฏิบัติเพื่อส่งเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับ
เด็กปฐมวัย. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี, 2567.
มาริษา สาฆ้อง. “การพัฒนาความคิดรวบยอดและการคิดเชิงเหตุผลของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบมโนทัศน์
ร่วมกับเทคนิคผังกราฟิก,” วารสารสังคมศาสตร์วิจัย. 12, 1 (มกราคม-มิถุนายน 2564): 155.
รุสนี เจะเตะ, ปรีดา เบ็ญคาร และอภิรัตน์ดา ทองแกมแก้ว. “ผลการจัดกิจกรรมตามแนวคิดไฮสโคปร่วมกับเกมการศึกษาที่มีผลต่อ
ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 2,”. เอกสารประกอบการประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติ
และนานาชาติ; 17 กรกฎาคม 2563; สงขลา. สงขลา: มหาวิทยาลัยหาดใหญ่, 2563, หน้า 1431-1443.
ศึกษาธิการ, กระทรวง. คู่มือหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 สำหรับเด็กอายุ 3 - 6 ปี. กรุงเทพฯ: โรงพิมพชุมนุม
สหกรณการเกษตรแห่งประเทศไทย, 2560.
. แนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ระดับปฐมวัย. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน, 2565.
อนุบาลอุบลราชธานี, โรงเรียน. รายงานผลการประเมินตนเองของโรงเรียนอนุบาลอุบลราชธานี (SAR) ประจำปีการศึกษา 2565
ระดับการศึกษาปฐมวัย. อุบลราชธานี: โรงเรียนอนุบาลอุบล, 2565.
อินทร์ดี อริยชัยเปรมวดี และชิดชไม วิสุตกุล. “การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามแนวคิดไฮสโคปเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และ
ความกล้าแสดงออกของเด็กปฐมวัย,” วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์. 8, 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2566): 855-866.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจความถูกต้องทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกอย่างน้อย 2 คน ความคิดเห็นในวารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนมิใช่ความคิดเห็นของผู้จัดทำ จึงมิใช่ ความรับผิดชอบของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี และบทความในวารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี สงวนสิทธิ์ตามกฎหมายไทย การจะนำไปเผยแพร่ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากกองบรรณาธิการ