ความสัมพันธ์ระหว่างบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษากับความสำเร็จในการจัดองค์การแห่งการเรียนรู้ ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1
คำสำคัญ:
บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษา, การจัดองค์การแห่งการเรียนรู้บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 2) ศึกษาระดับความสำเร็จในการจัดองค์การแห่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษากับความสำเร็จในการจัดองค์การ
แห่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 และ 4) ศึกษาอิทธิพลบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการจัดองค์การแห่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ศรีสะเกษ เขต 1 ตัวอย่างที่ใช้ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 จำนวน 331 คน โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิและเทียบสัดส่วนตามขนาดของสถานศึกษา จำแนกเป็นผู้บริหารสถานศึกษาจำนวน 40 คน และครูในสถานศึกษาจำนวน 291 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถาม
มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับของแบบสอบถามเท่ากับ .99 สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สันและการวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์การถดถอยพหุคูณ
ผลการวิจัยพบว่า
- บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 โดยรวมอยู่ในระดับ
มากที่สุด (= 4.57, S = .37) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านผู้สร้างความสัมพันธ์กับชุมชน มีระดับความคิดเห็นมากที่สุด
(= 4.71, S = .43) รองลงมาคือ ด้านผู้บริหารงานบุคคล (= 4.70, S = .40) ด้านผู้นำกลุ่มทางวิชาการ (= 4.66, S = .58)
ด้านผู้ประสานงาน (= 4.45, S = .56) และด้านผู้สื่อสาร (= 4.33, S = .57) ตามลำดับ - ความสำเร็จในการจัดองค์การแห่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (= 4.51, S = .38) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการจัดการความรู้ มีระดับความคิดเห็นมากที่สุด (= 4.66, S = .32) รองลงมาคือ ด้านการนำเทคโนโลยีไปใช้ (= 4.53, S = .45) ด้านการเสริมความรู้แก่บุคคล (= 4.51, S = .67) ด้านพลวัตการเรียนรู้ (= 4.45, S = .72) และด้านการปรับเปลี่ยนองค์การ (= 4.39, S = .47) ตามลำดับ
- ความสัมพันธ์ระหว่างบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษา ด้านผู้สื่อสาร (X3) ด้านผู้ประสานงาน (X2) ด้านผู้สร้างความสัมพันธ์กับชุมชน (X5) ด้านผู้บริหารงานบุคคล (X4) และด้านผู้นำกลุ่มทางวิชาการ (X1) มีความสัมพันธ์ทางบวกกับความสำเร็จในการจัดองค์การแห่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 (Y) ด้วยค่าสหสัมพันธ์เพียรสัน .55, .49, .43, .37 และ .33 ตามลำดับ อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 มีความสัมพันธ์กันในระดับ สูงทุกด้าน
- อิทธิพลบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษา ผู้นำกลุ่มทางวิชาการ (t = 1.48 , P = .04) ด้านผู้ประสานงาน (t = 6.40 , P = .00) ด้านด้านผู้สื่อสาร (t = 8.05 , P = .00) ด้านผู้บริหารงานบุคคล (t = 2.42, P = .02) และด้านผู้สร้างความสัมพันธ์กับชุมชน (t = 1.99 ,
P = .05) มีอิทธิพลกับความสำเร็จในการจัดองค์การแห่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
ศรีสะเกษ เขต 1 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05, .01, .01, .05 และ .05 ตามลำดับ
เอกสารอ้างอิง
จุฬาลักษณ์ ยอดยิ่ง. กลยุทธ์การบริหารวิชาการตามแนวคิดความเป็นพลเมืองดิจิทัลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดนครราชสีมา. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา,
ณิกัญญา สายธนู. ความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษากับองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 5. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏ
นครราชสีมา, 2562.
บังอร นาวี. บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการสงเสริมบรรยากาศองค์กรตามความเห็นของครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบรี เขต 3. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัย
ราชภัฏกาญจนบุรี, 2565.
ประมุข ติฐิโต. การบริหารงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของสถานศึกษาในการดำเนินงานด้าน
วิชาการในจังหวัดเพชรบุรี สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต
มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี, 2565.
ไพฑูรย์ สินลารัตน์. การศึกษา 4.0 เราต้องแปลงกับดักให้มีความหวังดี การศึกษา 4.0 เป็นยิ่งกว่าการศึกษา. กรุงเทพฯ:
โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2553.
ภรภัทร อำพันพร. บทบาทของผู้บริหารโรงเรียนในการสงเสริมการใช้แหล่งการเรียนรู้ในชุมชน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 3. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี, 2565.
เลขาธิการสภาการศึกษา. รายงานการวิจัยแนวทางการพัฒนาการศึกษาไทยกับการเตรียมความพร้อมศตวรรษที่ 21.
กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, 2559.
วารุณี นิลงาม. คุณลักษณะผู้บริหารที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมของชุมชนในการบริหารศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สังกัดองค์การ
บริหารส่วนตำบลในจังหวัดฉะเชิงเทรา. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์, 2564.
วิชษารัตน์ ธรรมะรัตน์จินดา. ความสัมพันธ์ระหว่างองค์การแห่งการเรียนรู้กับประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขต
พื้นที่การศึกษาสุพรรณบุรี เขต 2. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2562.
สุรศักดิ์ ทองพรหม. การศึกษาการพัฒนาความเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ตามการรับรู้ของพนักงานครูในโรงเรียนเทศบาล
กลุ่มการศึกษาท้องถิ่นที่ 11. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา, 2552.
Krejcie, Robert V. and M. Morgan. “Determining sample size for research activities,” Educational and
Psychological Measurement. 30, 6 (October 1970): 607-610.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจความถูกต้องทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกอย่างน้อย 2 คน ความคิดเห็นในวารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนมิใช่ความคิดเห็นของผู้จัดทำ จึงมิใช่ ความรับผิดชอบของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี และบทความในวารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี สงวนสิทธิ์ตามกฎหมายไทย การจะนำไปเผยแพร่ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากกองบรรณาธิการ