Situations, Needs, and Guidelines for Developing Digital Technology to Be Used in Learning Management in Schools under Bueng Kan Primary Educational Service Area Office
Keywords:
Current Situations, Desirable Situations, Needs, Guidelines for Developing, Digital TechnologyAbstract
The objectives of this research were 1) to study current and desirable conditions, 2) to evaluate needs, and 3) to develop guidelines for using digital technology to be used in learning management in schools. The samples consisted of 303 participants: administrators and teachers. The sample size was determined by the percentage criteria. They were randomized by stratified random sampling. The research instruments were a questionnaire asking for the current situations, a questionnaire asking for the desirable situations, a structural interview form, and an evaluation form used to evaluate the appropriateness and the possibility of the guidelines. The statistics used were percentage, mean, standard deviation, and the Modified Priority Need Index (PNImidified).
The research findings were as follows.
- The current situations in the overall were at a high level. The desirable situations in the overall were at the highest level.
- The needs with the values that were higher than the overall value were the access to the digital technology network systems and the designs for learning management, respectively.
- The guidelines for developing included 1) the access to the digital technology network system, the related organizations, and the schools that should provide the digital technology resources sufficiently according to the needs of the schools and plan to get rid of the access to the digital technology network system to keep the cyber world safe, 2) the good attitudes towards the use of the digital technology—the administrators and the teachers should open their minds to accept and understand the benefits of the use of the digital technology, 3) the knowledge skills in the use of the digital technology—the teachers should be ready to develop themselves to have knowledge and understanding in the use of the digital technology by having ability to use the basic digital instruments successfully, 4) the learning management and innovation design—the teachers should design learning activities by adhering learners as a center and analyze the curriculum to design the contents and learning units to be various, accurate, and reliable, 5) the morality and being the digital citizens—the teachers should realize morality, intellectual patents, rights, freedom, and responsibility by using their judgement in thinking and analyzing to check the resources of the data and to protect the personal information. The findings of the evaluation showed that the guidelines for developing in the overall were appropriate at the highest level and possible to be used at a high level.
References
กรณ์สิณี ฐิติกรประภาพงศ์. “การจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศที่ส่งผลต่อการใช้อินเทอร์เน็ตในการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครูในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 2,” Veridian E-Journal, Slipakorn University. 8, 3 (กันยายน-ธันวาคม 2558): 1-13.
เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ, สำนักงาน. รายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปีการศึกษา 2564. (ออนไลน์) 2565 (อ้างเมื่อ 3 พฤษภาคม 2565). จาก https://www.bkn.go.th.
จิรพล ศศิวรเดช. ปัญหาและแนวทางการพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในโรงเรียนวัดพลา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยอง เขต 1. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยบูรพา, 2560.
เจริญ ภูวิจิตร์. การจัดการเรียนรู้ทางออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพในยุคดิจิทัล (Efficiency in Online Learning Management of Digital Age). ออนไลน์ 2564 (อ้างเมื่อ 25 ตุลาคม 2565). จาก http://www.nidtep.go.th/2017/publish/doc/20210827.pdf
ฉัตรพงศ์ ชูแสงนิล. ยุคแห่งเมืองดิจิทัล คลังความรู้ SciMath. (ออนไลน์) 2565 (อ้างเมื่อ 20 พฤษภาคม 2565). จาก https://www.scimath.org , article-technology> itemn
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, กระทรวง. Digital Thailand. กรุงเทพ: กระทรวงฯ, 2559.
บุญชม ศรีสะอาด. การวิจัยเบื้องต้นฉบับปรับปรุงใหม่. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น, 2560.
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, สำนักงาน. แผนพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลของข้าราชการและบุคลากรสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2562–2565. (ออนไลน์) 2565 (อ้างเมื่อ 18 เมษายน 2565). จาก http://www.bga.moe.go.th/2018/wp-content/uploads/2019/09/เล่มแผนพัฒนาทักษะดิจิทัล62-65.pdf.
พิชญ์ สินีมะโน. “ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในยุค Digital Disruption ต่อการศึกษา The Impact Of Digital Disruption to the Education,” วารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม. 8, 1 (มกราคม–เมษายน 2562): 1-6.
ภรณี ศิริวิศาลสุวรรณ. การพัฒนาหลักสูตรเสริมสร้างทักษะชีวิตในยุคดิจิทัลสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2562.
ลักษมี คงลาก และคณะ. การจัดทำ Fact Sheet "ความฉลาดทางดิจิตอล" (Digital Intelligence: DO) และการศึกษาการรังแกกันบนโลกไซเบอร์ของวัยรุ่น. กรุงเทพฯ: สถาบันสื่อเด็กและเยาวชน, 2561.
เลขาธิการสภาการศึกษา, สำนักงาน. แนวปฏิบัติของการสร้างและส่งเสริมการรู้ดิจิทัลสำหรับครู. กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิค, 2562.
วรพจน์ วงศ์กิจรุ่งเรือง. คู่มือพลเมืองดิจิทัลในโครงการ: การพัฒนาทักษะและการเป็นพลเมืองดิจิทัล. กรุงเทพฯ: สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, 2561.
วิภาดา ผลาเลิศ. สภาพการดำเนินงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตามแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด, 2557.
วารินทร์ วิตูล. แนวทางการบริหารจัดการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการปฏิบัติงาน ของบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2. การศึกษาค้นคว้าอิสระครุศาสตรมหาบัณฑิตเชียงราย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย, 2558.
วิชัย วงษ์ใหญ่. Digital Learning. กรุงเทพฯ: ศูนย์ผู้นำนวัตกรรมหลักสูตรและการเรียนรู้, 2562.
วิทยา ดำรงเกียรติศักดิ์. พลเมืองดิจิทัล (Digital Citizenship), (ออนไลน์) 2565 (อ้างเมื่อ 18 เมษายน 2565). จาก http://www.infocommmju.com/icarticle/images/stories/icarticles/ajwittayal/digital/ Digital_Citizenship.pdf.
ศึกษาธิการ, กระทรวง. แผนพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564). (ออนไลน์) 2565 (อ้างเมื่อ 18 เมษายน 2565). จาก http://waa.inter.nstda.or.th/stks/pub/2017/20170313-Education-Development-Plan-12.pdf.
สงบ อินทรมณี. “การบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล,” วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น. 16, 1 (มกราคม–มิถุนายน 2562): 16.
สรานนท์ อินทนนท์. ความฉลาดทางดิจิทัล. กรุงเทพฯ: มูลนิธิส่งเสริมสื่อเด็กและเยาวชน(สสย), 2561.
สุธน ศรีศักดิ์บางเตย. “แนวทางพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในโรงเรียนพระแท่นดงรังวิทยาคาร,” วารสาร มจร พุทธปัญญาปริทรรศน์. 4, 3 (กันยายน-ธันวาคม 2562): 463-464.
สุวิมล ว่องวาณิช. การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพ ฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2558.
อติพร เกิดเรือง. “การส่งเสริมการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เพื่อรองรับสังคมไทยในยุคดิจิทัล,” วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง. 183, 1 (มกราคม - มิถุนายน 2560): 179.
อมรรัตน์ จินดา. สภาพปัญหาและแนวทางการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาสำหรับสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถม ศึกษานครปฐม เขต 2. การค้นคว้าแบบอิสระศึกษาศาสตร มหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยศิลปากร, 2558.
อรุณโรจน์ จิตร์ภิรมย์ศรี. “ปัจจัยด้านความรู้ ทัศนคติ และแนวโน้มต่อการใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่งของผู้ใช้เทคโนโลยีฯ ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล,” วารสารศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการการสื่อสารองค์กรมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. 20, 2 (กรกฎาคม–ธันวาคม 2564): 60.
Agarwal, N. and F. Ahmed. “Developing collective learning extension for rapidly evolving information system courses,” Education and Information Technologies. 22, 1 (January2017): 7-37.
Ribble, M. and G. Bailey. Digital Citizenship in Schools. Eugene, OR: ISTE, Digital Citizenship: Using Technology Appropriately, 2007.
UNESCO. A Policy review: building digital citizenship in Asia-Pacific through safe,effective and responsible use of ICT. (online) 2022 (Cited 25 December 2022). https://unesdoc. unesco.org/notice?id=p::usmarcdef_000246813
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
Copyright (c) 2023 Journal of Graduate School, Pitchayatat, Ubon Ratchathani Rajabhat University
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
Every article is peer-reviewed for academic correctness by at least two external qualified experts. The opinions in the Journal of Graduate School, Pitchayatat, Ubon Ratchathani Rajabhat University (Humanities and Social Sciences) belong to the authors; not belong to the Publisher. Thus, Graduate School of Ubon Ratchathani Rajabhat University cannot to be held responsible for them. The articles in this journal are protected by the copyright of Thailand. No part of each issue may be reproduced for dissemination without written permission from the publisher.