การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้กิจกรรมการเรียนการสอนความคิดสร้างสรรค์ รายวิชาทัศนศิลป์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
คำสำคัญ:
ทัศนศิลป์, ความคิดสร้างสรรค์ , กิจกรรมการเรียนการสอนบทคัดย่อ
การวิจัยมีจุดมุ่งหมาย เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้กิจกรรมการเรียนการสอนความคิดสร้างสรรค์ รายวิชาทัศนศิลป์ สำหรับนักเรียนชั้นปรถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มเป้าหมายในการดำเนินการวิจัย ได้แก่ นักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 18 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง ระยะเวลาในการดำเนินการวิจัย ตลอดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ผ่านกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการตามแนวคิดของ Lewin ทั้ง 3 วงรอบ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการเรียนการสอนความคิดสร้างสรรค์ ทั้ง 6 ขั้นตอน 7 แผน 2) แบบบันทึกภาคสนาม 3) แบบประเมินความคิดสร้างสรรค์ 4) แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิเคราะห์พบว่า
ผลจากการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เกณฑ์การประเมินความคิดสร้างสรรค์ หลังจากการดำเนินการวิจัย พบว่า นักเรียนมีคะแนนความคิดสร้างสรรค์ รายวิชาทัศนศิลป์ ผ่านเกณฑ์การประเมิน ร้อยละ 75 ขึ้นไป ทั้งหมด 18 คน คิดเป็นร้อยละ 100
เอกสารอ้างอิง
ยงยุทธ สินสวาท. การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา ในรายวิชาทัศนศิลป์ (ศ14101). วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2560.
วรรณดี สุทธินรากร. การวิจัยเชิงปฏิบัติการ การวิจัยเพื่อเสรีภาพและการสร้างสรรค์. กรุงเทพฯ: สยามปริทัศน์, 2562.
วราพร เกตุเลขา. การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หน่วยการเรียนรู้คิดอย่างสร้างสรรค์กับงานทัศนศิลป์ และความคิดสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากการเรียนรู้แบบซินเนคติกส์ ร่วมกับการสร้างสรรค์ศิลปะแบบเซอเรียลิสม์. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา, 2557.
วิชาการและมาตรฐานการศึกษา, สำนัก. แนวทางการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ.๒๕๖๑ - ๒๕๘๐). (ออนไลน์) 2563 (อ้างเมื่อ 15 มกราคม 2564). จาก https://drive.google.com/drive/folders/1HkVn1FjeFMaWHoYidREsOjiYaQgr8GKu
ศิริกาญน์ โกสุมภ์ และดารณี คำวัจนัง. แหล่งเรียนรู้เพื่อการปฏิรูปการเรียนรู้และหลักสูตรสถานศึกษา. กรุงเทพฯ: เมธีทิปส์, 2545.
ศึกษาธิการ, กระทรวง. กระทรวงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, 2551.
สมศักดิ์ ภู่วิภาดาวรรธน์. การยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางและการประเมินติดตามสภาพจริง. เชียงใหม่: โรงพิมพ์แสงศิลป์, 2544.
สมหมาย เพ็ญธิสาร. “ทัศนศิลป์กับการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์,” ใน: รายงานสืบเนื่องจากการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติและนานาชาติ. นวัตรกรรมสร้างสรรค์เพื่อการสร้างเสริมพลังทางสังคมด้วยวิถีชีวิตใหม่ (New Normal). ครั้งที่ 4; 21 พฤษภาคม 2564; ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด, 2564. หน้า 17.
สุวิทย์ มูลคำ. กลยุทธ์การสอนคิดสร้างสรรค์ พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: ภาพพิมพ์, 2545.
อารี พันธ์มณี. ความคิดสร้างสรรค์. กรุงเทพฯ: ซัคเซสมีเดีย, 2537.
อารี พันธ์มณี. คิดอย่างสร้างสรรค์. กรุงเทพฯ: ต้นอ้อแกรมมี่, 2545.
อารี พันธ์มณี. ฝึกให้คิดเป็น คิดให้สร้างสรรค์. กรุงเทพฯ: ใยไหม, 2546.
อารี พันธ์มณี. ฝึกให้คิดเป็น คิดให้สร้างสรรค์. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: ใยไหม, 2547.
อุษณีย์ โพธิสุข. เอกสารประกอบการสอน วิธีสอนเด็กปัญญาเลิศ. กรุงเทพฯ: ภาควิชาการศึกษาพิเศษ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร, 2537.
Camara, Del. VISUAL ART: TEACHING CREATIVITY FROM WITHIN. Doctor of Education. California: University of the PacificStockton, 2019.
Guilford, J.P. The Nature of Intelligence. New York: McGraw-Hill Book, 1967.
Karen, G. Pearson. Teaching Visual Art wit the Brain in Mind. Doctor of Education. Boston: Northeastern University, 2019.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจความถูกต้องทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกอย่างน้อย 2 คน ความคิดเห็นในวารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนมิใช่ความคิดเห็นของผู้จัดทำ จึงมิใช่ ความรับผิดชอบของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี และบทความในวารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี สงวนสิทธิ์ตามกฎหมายไทย การจะนำไปเผยแพร่ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากกองบรรณาธิการ