การดำเนินงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3
คำสำคัญ:
การดำเนินงาน , ประกันคุณภาพภายใน , สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาศรีสะเกษบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ1) ศึกษาสภาพการดําเนินงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 2) เปรียบเทียบสภาพการดําเนินงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นทีการศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 จําแนกตามตำแหน่ง ประสบการณ์การทำงาน และขนาดของสถานศึกษา 3) ศึกษาข้อเสนอแนะและแนวทางเกี่ยวกับการดําเนินงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นทีการศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 ตัวอย่างที่ใช้ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 3 จำนวน 306 คนโดยแบ่งเป็น ผู้บริหารสถานศึกษาจำนวน 96 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่ม แบบแบ่งชั้นภูมิตามสัดส่วน และครูจำนวน 210 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่ม แบบแบ่งชั้นภูมิตามสัดส่วน เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที และการทดสอบเอฟ
ผลการวิจัยพบว่า
- การดำเนินงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ศรีสะเกษ เขต 3 โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก
- ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต่อการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 เมื่อจำแนกตาม ตำแหน่ง ประสบการณ์การทำงานและขนาดสถานศึกษา ปรากฏว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นต่อการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 โดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
- ข้อเสนอแนะและแนวทางเกี่ยวกับการดําเนินงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 ผู้บริหารและครู ได้ให้แนวทางไว้ว่า 1) ด้านการวางแผนการปฏิบัติงาน ควรสร้างความรู้ความเข้าใจให้เกิดความตระหนักถึงคุณค่าของการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา อย่างแท้จริงโดยบุคลากรทุกคนจะต้องได้รับการพัฒนาองค์ความรู้ทักษะที่เกี่ยวกับการประกันคุณภาพ การศึกษาเพื่อให้เกิดความตระหนักถึงคุณค่าของการประกันคุณภาพ 2) ด้านการปฏิบัติตามแผน ควรให้มีการสนับสนุนงบประมาณและทรัพยากรในการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาอย่างเป็นระบบและสนับสนุนและมีประสิทธิภาพพร้อมงานเป็นกลไกที่สำคัญซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาให้เกิดความสำเร็จตามเป้าหมายโดยมีการควบคุมใช้งบประมาณตามแผนที่ได้กำหนดวางไว้เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด 3) ด้านการตรวจสอบสถิติควรมีแนวทางการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลในการปฏิบัติงานในการดำเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาอย่างเป็นระบบ 4) ด้านการนำผลการประเมินมาปรับปรุงพัฒนางานควรมีการนำผลการประเมินมาปรับปรุงพัฒนาการประกันคุณภาพการศึกษา
เอกสารอ้างอิง
คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, สำนักงาน. การพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, 2560
ณรงค์ชัย ศิริไพศาล. การปฏิบัติงานการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยหาดใหญ่, 2560.
ปียานันต์ บุญธิมา. การพัฒนารูปแบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา โรงเรียนวัดห้วยม้าโก้ง ด้วยแนวคิดแบบไคเซ็น. กรุงเทพ: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ, 2561.
มยุรี ธานีโต. ปัญหาและแนวทางพัฒนาการดำเนินการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนกลุ่มเครือข่ายที่ 39 สังกัดกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยบูรพา, 2561.
วันทนา เนื้อน้อย. การดำเนินงานระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 1. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา, 2560.
สุพิชญา กลั่นนุรักษ์. การดําเนินงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาของโรงเรียนขนาดกลางในกลุ่มเกาะแก้วสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยอง เขต 1. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยบูรพา, 2559.
Newby, Earl F. Total Quality Management and Elementary School. Pro Quest-Dissertation Abstracts International,1998.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจความถูกต้องทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกอย่างน้อย 2 คน ความคิดเห็นในวารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนมิใช่ความคิดเห็นของผู้จัดทำ จึงมิใช่ ความรับผิดชอบของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี และบทความในวารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี สงวนสิทธิ์ตามกฎหมายไทย การจะนำไปเผยแพร่ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากกองบรรณาธิการ