การพัฒนาแผนที่อิเล็กทรอนิกส์แบบปฏิสัมพันธ์เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว 9 วัด ของจังหวัดอุบลราชธานี

ผู้แต่ง

  • ธเนศ ศรพรหม คณะวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

คำสำคัญ:

แผนที่อิเล็กทรอนิกส์แบบปฏิสัมพันธ์, การออกแบบสัญลักษณ์บนแผนที่, สื่อประชาสัมพันธ์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาอัตลักษณ์สำคัญในการออกแบบสัญลักษณ์ทางแผนที่ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเป็นแนวทางในการออกแบบแผนที่เล็กทรอนิกส์แบบปฏิสัมพันธ์ 2) พัฒนาแผนที่อิเล็กทรอนิกส์แบบปฏิสัมพันธ์เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดอุบลราชธานี 3) ศึกษาความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายที่มีต่อแผนที่อิเล็กทรอนิกส์แบบปฏิสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้น กลุ่มตัวอย่างคือกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ ผู้บริหารท้องถิ่นในพื้นที่กรณีศึกษาจำนวน 9 คน และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดอุบลราชธานีจำนวน 100 คน ซึ่งใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบสอบถามความต้องการของกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 2) แบบประเมินคุณภาพสื่อโดยผู้เชี่ยวชาญ 3) แบบประเมินความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่าง 4) สื่อปฏิสัมพันธ์ต้นแบบแผนที่อิเล็กทรอนิกส์แบบปฏิสัมพันธ์เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว 9 วัด ของจังหวัดอุบลราชธานี สถิติที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานผลการวิจัยปรากฏดังนี้ 1. สถานที่ที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของจังหวัดอุบลราชธานีที่ใช้จัดทำสื่อปฏิสัมพันธ์ต้นแบบมี 9 วัด ได้แก่ วัดหนองบัว วัดมหาวนาราม (วัดป่าใหญ่) วัดมณีวนาราม (วัดป่าน้อย) วัดทุ่งศรีเมือง วัดเลียบ วัดหลวง วัดสุปัฏนารามวรวิหาร วัดศรีอุบลรัตนาราม และวัดใต้ และกระบวนการการทำงานของแผนที่อิเล็กทรอนิกส์แบบปฏิสัมพันธ์ประกอบไปด้วย 1) ศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับวัดและแหล่งท่องเที่ยวภายในจังหวัด 2) เก็บข้อมูลถ่ายภาพสถานที่จริงและสัมภาษณ์หัวหน้าชุมชนของแหล่งท่องเที่ยวนั้น 3) ออกแบบและพัฒนาชิ้นงาน 4) แก้ไขชิ้นงานตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ 5) ผลงานเสร็จสมบูรณ์ 2. ผู้วิจัยได้พัฒนาสื่อแผนที่อิเล็กทรอนิกส์แบบปฏิสัมพันธ์ขึ้นโดยมีลักษณะโต้ตอบกับผู้ใช้งานอย่างอิสระ สามารถเลือกดูข้อมูล ภาพถ่ายของสถานที่ท่องเที่ยวและเส้นทางการเดินทางได้อย่างสะดวกในรูปแบบของสื่อออฟไลน์ 3. จากการประเมินคุณภาพของสื่อโดยผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน พบว่าสื่อมีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุดที่คะแนนเฉลี่ย 4.60 เนื้อหาและรูปแบบมีความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย สามารถนำไปใช้ในการศึกษากลุ่มตัวอย่างได้ และจากการศึกษาความพึงพอใจพบว่ากลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจต่อสื่อแผนที่อิเล็กทรอนิกส์แบบปฏิสัมพันธ์ในระดับมาก ที่คะแนนเฉลี่ย 4.48

เอกสารอ้างอิง

การท่องเที่ยวและกีฬา, สำนักงาน. จังหวัดอุบลราชธานี.(ออนไลน์) 2556 (อ้างเมือ 10 สิงหาคม 2558).จาก: www.ubonratchathani.mots.go.th

คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ. แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ. 2555-2559. (ออนไลน์) 2555 (อ้างเมื่อ 3 มิถุนายน 2558). จาก: http://www.mots.go.th

ธีรภัทร นิธิอภิญญาสกุล. การศึกษาแนวทางการสร้างสื่อปฏิสัมพันธ์สำหรับพิพิธภัณฑ์ : กรณีศึกษาหอเกียรติภูมิรถไฟ. กรุงเทพฯ :วิทยาลัยนวัตกรรมอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, (2550).

นารี เทพสุภรณ์กุล. การมีส่วนร่วมในการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว : กรณีศึกษาวัดหงษ์ทอง ตำบลสองคลอง อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์, 2550.

บุญชม ศรีสะอาด. การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพฯ: สุรีวิยาสาส์น, 2554.

สถิติแห่งชาติ, สำนักงาน. สถิตินักท่องเที่ยว. (ออนไลน์) 2558 (สืบค้นเมื่อ 10 สิงหาคม 2558).จาก: http://service.nso.go.th/nso/web/statseries/statseries23.html

อุรุวรรณ ตุลยนิษกะ. โครงการออกแบบสื่อปฏิสัมพันธ์สำหรับนักท่องเที่ยวบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์. วิทยานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิตมหาวิทยาลัยรังสิต, 2547.

อัศวิน จิตต์จำนง. แนวโน้มและศักยภาพของเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการท่องเที่ยว. (ออนไลน์) ม.ป.ป. (สืบค้นเมื่อ 6 ตุลาคม 2559). จาก: http://tourisminvest.tat.or.th

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-12-28

รูปแบบการอ้างอิง

ศรพรหม ธ. (2018). การพัฒนาแผนที่อิเล็กทรอนิกส์แบบปฏิสัมพันธ์เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว 9 วัด ของจังหวัดอุบลราชธานี. วารสารพิชญทรรศน์, 13(2), 107–114. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/Pitchayatat/article/view/221637

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย