การส่งบทความ

คำแนะนำผู้แต่ง

คำแนะนำสำหรับผู้แต่งบทความส่งตีพิมพ์วารสารอักษราพิบูล คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

1. ข้อกำหนดการส่งบทความ 
ในขั้นตอนการส่งบทความ ผู้แต่งต้องตรวจสอบและยืนยันว่าปฏิบัติตามข้อกำหนดการส่งบทความทุกข้อ บทความที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดอาจถูกส่งคืนให้ผู้แต่งดำเนินการแก้ไข

1. บทความที่ขอรับการตีพิมพ์เผยแพร่ต้องไม่เคยเผยแพร่ในสิ่งพิมพ์อื่นใดมาก่อน และต้องไม่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของวารสารอื่น การละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ส่งบทความโดยตรง
2. บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร
3. บทความที่ขอรับการตีพิมพ์เผยแพร่ จะต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์และมีขอบเขตเนื้อหาตามข้อกำหนดของวารสาร
4. บทความให้อยู่ในรูปแบบไฟล์เอกสาร Microsoft Word และ PDF
5. บทความวิชาการหรือบทความวิจัย ต้องเขียนด้วยภาษาไทยและภาษาอังกฤษเท่านั้น
6. บทความวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยในมนุษย์ควรมีหนังสือรับรองจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ (ถ้ามี)
7. ต้นฉบับบทความต้องผ่านการกลั่นกรองและได้รับความเห็นชอบจากกองบรรณาธิการวารสาร
8. วารสารจะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการขอตีพิมพ์เผยแพร่ กรณีบุคคลภายนอกในอัตรา 5,000 บาท ต่อบทความ กรณีบุคคลภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามในอัตรา 4,000 บาท ต่อบทความ หลังจากกองบรรณาธิการวารสารตรวจสอบและอนุมัติให้นำส่งบทความเข้าสู่กระบวนการพิจารณาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ (peer review) 3 ท่าน โดยจะต้องชำระค่าใช้จ่ายก่อนจัดส่งบทความให้ผู้ทรงคุณวุฒิอ่าน หากบทความของท่านไม่ผ่านการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิ (peer review) กองบรรณาธิการไม่สามารถคืนเงินให้ท่านได้ทุกกรณี
9. กระบวนการส่งบทความเพื่อขอรับการตีพิมพ์เผยแพร่ ทำงานผ่านระบบวารสารออนไลน์ ทางวารสารจะติดต่อและแจ้งข้อความต่าง ๆ ผ่านกระทู้สนทนาหรืออีเมลของท่านที่ได้กรอกเข้าสู่ระบบเป็นหลัก เพื่อให้เข้ามารับ-ส่ง ข้อมูลผ่านระบบวารสารฯ ดังนั้นขอให้ตรวจสอบกล่องจดหมายของท่านว่าได้รับอีเมลของวารสารฯ หรือไม่ และหากไม่ได้รับอีเมลใด ๆ หลังจากส่งบทความนี้ กรุณาติดต่อที่ huso@psru.ac.th

2. การพิจารณาบทความ
วารสารอักษราพิบูล เป็นวารสารที่มีการประเมินบทความก่อนตีพิมพ์ (Refereed Journal) ทุกบทความจะต้องผ่านการพิจารณาโดยผู้ประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) ในสาขานั้น หรือสาขาที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 3 ท่าน ซึ่งผู้พิจารณาไม่ทราบชื่อผู้แต่ง และผู้แต่งไม่ทราบชื่อผู้พิจารณา (Double-Blind Peer Review) จากหลากหลายสถาบัน มีขั้นตอนการพิจารณาบทความโดยสังเขป ดังนี้

1. ผู้แต่งส่งบทความเข้าระบบ
2. กองบรรณาธิการวารสารพิจารณาบทความเบื้องต้น (Pre-Review) ภายใน 1-2 สัปดาห์
   a. กรณีไม่ผ่าน กองบรรณาธิการวารสารปฏิเสธการรับพิจารณาบทความ
   b. กรณีผ่าน โดยมีข้อเสนอแนะให้แก้ไขหรือส่งเอกสารเพิ่มเติม ผู้แต่งดำเนินการภายใน 2 สัปดาห์ และกลับไปข้อ 1
   c. กรณีผ่าน โดยไม่ต้องแก้ไข กองบรรณาธิการวารสารจะแจ้งให้ผู้แต่งชำระเงินค่าธรรมเนียม และนำส่งบทความเข้ากระบวนการพิจารณาโดยผู้ทรงคุณวุฒิต่อไป
3. ผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความ ภายใน 4 สัปดาห์
   a. กรณีไม่ผ่าน (2 ใน 3 ท่าน) กองบรรณาธิการวารสารปฏิเสธการพิจารณาตีพิมพ์บทความ และส่งผลการพิจารณาและข้อเสนอแนะให้ผู้แต่ง
   b. กรณีผ่าน กองบรรณาธิการวารสารจะส่งผลให้ผู้แต่งดำเนินการแก้ไขตามข้อเสนอแนะผู้ทรงฯ
4. ผู้แต่งดำเนินการแก้ไขบทความตามข้อเสนอแนะ ภายใน 2 สัปดาห์
   a. กองบรรณาธิการวารสารตรวจสอบการแก้ไข 1-2 สัปดาห์
   b. กรณีผู้แต่งได้รับข้อเสนอแนะ "ส่งใหม่เพื่อประเมินอีกครั้ง (Resubmit for Review)" กลับไปข้อ 3      
5. กรณีกองบรรณาธิการวารสารมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม วารสารฯ จะส่งผลให้ผู้แต่งดำเนินการแก้ไขตามข้อเสนอแนะบรรณาธิการและกลับไปข้อ 4
6. ตอบรับตีพิมพ์

       * ดูกระบวนการพิจารณา (Article Workflow) คลิก

3. การเตรียมต้นฉบับบทความ
ดำเนินการส่งบทความผ่านระบบ ThaiJo เท่านั้น  โดยมีเอกสารที่ต้องอัปโหลด ดังนี้

1. ความยาวของบทความไม่เกิน 15 หน้ากระดาษ ขนาด B5 (JIS) พิมพ์หน้าเดียว (นับรวมรูปภาพตาราง และเอกสารอ้างอิง) พื้นที่ของกระดาษที่ใช้พิมพ์ ให้เว้นขอบบน 2.54 เซนติเมตร ขอบล่าง 1 เซนติเมตรขอบซ้าย 2 เซนติเมตร และขอบขวา 2 เซนติเมตร
2. รูปแบบตัวอักษรภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ให้จัดพิมพ์ด้วยแบบรูปแบบตัวอักษร TH SarabunPSK ขนาดตัวอักษร 16 เท่านั้น ในกรณีมีตัวอักษรภาษาต่างประเทศอื่น ๆ แทรกอยู่ในเนื้อความให้ใช้รูปแบบตัวอักษร ดังนี้
   ภาษาจีน            รูปแบบตัวอักษร  Simsun                       ขนาดตัวอักษร 12 pt.
   ภาษาญี่ปุ่น        รูปแบบตัวอักษร  MS Mincho                ขนาดตัวอักษร 11 pt.
   ภาษาเกาหลี      รูปแบบตัวอักษร  Gulim                         ขนาดตัวอักษร 12 pt.
   ภาษาฝรั่งเศส    รูปแบบตัวอักษร  Times New Roman   ขนาดตัวอักษร 12 pt.

3. ชื่อเรื่องบทความภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ขนาดตัวอักษร 18 (ตัวหนา) จัดกึ่งกลางหน้ากระดาษ
4. ชื่อผู้แต่งบทความภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ขนาดตัวอักษร 14 (ตัวหนา) จัดชิดขวา
5. ชื่อสังกัดหน่วยงานหรือมหาวิทยาลัยภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และ Corresponding Author, E-mail: ขนาดตัวอักษร 12 (ตัวอักษรปกติ) จัดชิดซ้าย
6. หัวข้อ ได้แก่ บทคัดย่อ Abstract บทนำ วัตถุประสงค์กรอบแนวคิดในการวิจัย วิธีดำเนินการวิจัยผลการวิจัย สรุปและอภิปรายผล ข้อเสนอแนะ เอกสารอ้างอิง ขนาดตัวอักษร 16 (ตัวหนา) จัดชิดซ้าย ไม่ใส่เลขลำดับที่
7. เนื้อหา ขนาดตัวอักษร 16 ให้จัดเนื้อหากระจายแบบไทย
8. ตัวเลขที่ใช้ให้ใช้เลขอารบิก
9. การใช้เครื่องหมายจุลภาค ( , ) ทวิภาค ( : ) และอัฒภาค ( ; ) ให้พิมพ์ต่อเนื่องกับอักษรตัวหน้า และเว้น 1 วรรคตัวอักษรก่อนข้อความต่อไป เช่น
           กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
          (เธียรศรี วิวิธสิริ, 2527: 32-38; นวลละออ สุภาผล, 2527)

10. ชื่อภาพ ขนาดตัวอักษร 14 (ตัวหนา) ให้ระบุไว้ใต้ภาพ จัดกึ่งกลางหน้ากระดาษใต้ภาพ เช่น
           ภาพ 1 กรอบแนวคิดในการวิจัย

4. ส่วนประกอบของบทความ 
1.  ชื่อเรื่องบทความ (ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ)
2.  ชื่อผู้แต่งและหน่วยงานที่สังกัด (ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ)
3.  บทคัดย่อ (Abstract) ความยาวไม่เกิน 250 คำและคำสำคัญ (Keywords) 3-5 คำ (ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ)
4.  เนื้อหา
      4.1 บทความวิจัย ควรเป็นการนำเสนอผลการศึกษาค้นคว้า ข้อค้นพบ องค์ความรู้ ที่ได้จากการวิจัยซึ่งผู้วิจัยได้ดำเนินการมาอย่างเป็นระบบตามขั้นตอน โดยควรมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้ (สามารถมีหัวข้อหรือองค์ประกอบที่แตกต่างได้)
      4.1.1  บทนำ (Introduction) ที่ครอบคลุมความสำคัญและที่มาของปัญหาวิจัย
      4.1.2  วัตถุประสงค์ในการวิจัย (Research Objective)
      4.1.3  กรอบแนวคิดในการวิจัย (Conceptual Framework)
      4.1.4  วิธีดำเนินการวิจัย (Research Methodology) ที่นำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับแบบแผนการวิจัย ประชากร/กลุ่มตัวอย่าง ผู้เข้าร่วมวิจัย เครื่องมือวิจัย การเก็บข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูล
      4.1.5  ผลการวิจัย (Result)
      4.1.6  สรุปและอภิปรายผลการวิจัย (Discussion and Conclusion)
      4.1.7  ข้อเสนอแนะ (Suggestion)
      4.2  บทความวิชาการ/บทความทั่วไป ควรมีการกำหนดประเด็นที่ต้องการอธิบายหรือวิเคราะห์ อย่างชัดเจน โดยมีการวิเคราะห์ประเด็นที่ต้องการนำเสนอตามหลักวิชาการโดยมีการสำรวจวรรณกรรมเพื่อสนับสนุนจนสามารถสรุปผลการวิเคราะห์ประเด็นนั้นได้ อาจเป็นการนำความรู้ จากแหล่งต่างๆ มาประมวลร้อยเรียงเพื่อวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ โดยที่ผู้ส่งบทความแสดงทัศนะทางวิชาการของตนไว้อย่างชัดเจน มีลำดับเนื้อหาและบทสรุปที่เหมาะสมเพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ชัดเจน
      4.2.1  บทนำ (Introduction) หลักการและเหตุผล (Rationale) หรือความเป็นมาหรือภูมิหลัง(Background) หรือความสำคัญของเรื่องที่เขียน (Justification) วัตถุประสงค์เป็นการเขียนว่าในการเขียนบทความในครั้งนี้ต้องการให้ผู้อ่านได้ทราบเรื่องอะไรบ้าง คำจำกัดความหรือนิยามต่างๆ ที่ผู้แต่งเห็นว่าควรระบุไว้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน
      4.2.2  เนื้อเรื่อง (Body) การจัดลำดับเนื้อหาสาระ การเรียบเรียงเนื้อหา การวิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์การใช้ภาษา วิธีการนำเสนอ
      4.2.3  ส่วนสรุป (Conclusion) บทความทางวิชาการที่ดีควรมีการสรุปประเด็นสำคัญๆ ของบทความนั้นๆ ซึ่งอาจทำในลักษณะที่เป็นการย่อคือการเลือกเก็บประเด็นสำคัญๆ ของบทความนั้นๆ มาเขียนรวมกันไว้อย่างสั้นๆ ท้ายบท

5. การอ้างอิง
แหล่งข้อมูลทั้งหมดที่อ้างอิงในบทความต้องปรากฏในรายการเอกสารอ้างอิงท้ายบทความ (References) ตามลำดับตัวอักษร โดยใช้ระบบเดียวกันทั้งเรื่อง คือ APA 7th Edition โดยผู้แต่งบทความต้องรับผิดชอบความถูกต้องของเอกสารที่นำมาอ้างอิงทั้งหมด

         * ดูรูปแบบการอ้างอิงและตัวอย่าง APA 7th Ed. คลิก

6. เอกสารดาวน์โหลด  

       - แบบฟอร์มขอส่งบทความเพื่อพิจารณาตีพิมพ์ (คลิกเปิดอ่านและดาวน์โหลด)       
       - Template (บทความวิจัย) (คลิกเปิดอ่านและดาวน์โหลด)
       - Template-for-English-Research-Article (คลิกเปิดอ่านและดาวน์โหลด)
       - Template (บทความวิชาการ) (คลิกเปิดอ่านและดาวน์โหลด)
       - Template-for-English-Academic-article (คลิกเปิดอ่านและดาวน์โหลด)