https://so02.tci-thaijo.org/index.php/APBJ/issue/feed
วารสารอักษราพิบูล
2025-11-30T14:52:07+07:00
Faculty Of Humanities and Social Sciences
huso@psru.ac.th
Open Journal Systems
<p>วารสารอักษราพิบูล มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการทางด้านมนุษยศาสตร์ โดยเปิดรับบทความซึ่งอาจเป็นบทความวิจัย หรือวิทยานิพนธ์ บทความทั่วไป และบทความวิจารณ์หนังสือเกี่ยวกับด้านมนุษยศาสตร์เป็นภาษาไทย และภาษาอังกฤษ โดย<span style="font-weight: 400;">บทความที่ส่งมา <br />ตีพิมพ์จะได้รับการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิ (peer review) ในสาขานั้น หรือสาขาที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 3 ท่าน ซึ่งผู้พิจารณาไม่ทราบชื่อผู้แต่ง และผู้แต่งไม่ทราบชื่อผู้พิจารณา (double-blind peer review) จากหลากหลายสถาบัน</span> มีกำหนดการตีพิมพ์ปีละ 2 ฉบับ (ราย 6 เดือน) ฉบับที่ 1 ประจำเดือนมกราคม - มิถุนายน และฉบับที่ 2 ประจำเดือนกรกฎาคม - ธันวาคม</p> <p><a href="https://portal.issn.org/resource/ISSN/3027-8651" target="_blank" rel="noopener">ISSN: 3027-8651 (Print)</a><br /><a href="https://portal.issn.org/api/search?search[]=MUST=allissnbis=%223027-6144%22&search_id=70940886" target="_blank" rel="noopener">ISSN: 3027-6144 (Online)</a></p>
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/APBJ/article/view/275516
ชื่อช้างไทย : การวิเคราะห์ความหมายและความเชื่อ
2025-01-05T11:12:13+07:00
กนกพร นาคอัง
kanokporn.na@psru.ac.th
พัฒน์นรี มั่งจิ๋ว
kanokporn.na@psru.ac.th
รักษิณา ศิริเลิศ
kanokporn.na@psru.ac.th
สิทธิพร ตรีนพ
kanokporn.na@psru.ac.th
สุชาดา เจียพงษ์
Suchada.3009@gmail.com
<p><strong>บทคัดย่อ</strong></p> <p> บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ประเภทความหมายของชื่อช้างไทย เเละความเชื่อของชื่อช้างไทยที่ปรากฏในสถาบันคชบาลเเห่งชาติในอุปถัมภ์ (ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย) ศูนย์วังช้างเเลเพนียด เเละสื่อออนไลน์ โดยใช้กรอบเเนวคิดการวิเคราะห์ความหมายเเละความเชื่อ จากผลการศึกษาประเภทความหมายของชื่อช้างไทย พบว่ามีจำนวน 136 ชื่อ ได้เเก่ ความหมายเกี่ยวกับคุณลักษณะพบมากที่สุด จำนวน 49 ชื่อ คิดเป็นร้อยละ 36.03 รองลงมาความหมายเกี่ยวกับพืช จำนวน 18 ชื่อคิดเป็นร้อยละ 13.24 ความหมายเกี่ยวกับสถานที่ สิ่งก่อสร้าง พบจำนวน 16 ชื่อ คิดเป็นร้อยละ 11.76 ความหมายเกี่ยวกับศาสนาจำนวน 15 ชื่อ คิดเป็นร้อยละ 11.03 ความหมายเกี่ยวกับธรรมชาติเเละสิ่งเเวดล้อม จำนวน 13 ชื่อคิดเป็นร้อยละ 9.56 ความหมายเกี่ยวกับสิ่งของเครื่องใช้ จำนวน 10 ชื่อ คิดเป็นร้อยละ 7.35 ความหมายเกี่ยวกับมนุษย์ จำนวน 7 ชื่อ คิดเป็นร้อยละ 5.15 ความหมายเกี่ยวกับสัตว์จำนวน 6 ชื่อ คิดเป็นร้อยละ 4.41 และความหมายของชื่อช้างไทยที่พบน้อยที่สุดคือความหมายเกี่ยวกับอาหาร มีจำนวน 2 ชื่อ คิดเป็นร้อยละ 1.47 ส่วนผลการวิจัยความเชื่อของชื่อช้างไทยสะท้อนความเชื่อ 5 กลุ่ม ได้แก่ ความเชื่อเกี่ยวกับช้างเป็นสัตว์ที่มีเสน่ห์ สง่างาม เเละเป็นที่รัก ช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง ช้างเป็นสัญลักษณ์เเห่งความมงคล ช้างเป็นสัตว์ที่มีบุญวาสนา และช้างเป็นสัตว์เสริมบารมีพระมหากษัตริย์ จากการวิจัยครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาความหมายเเละความเชื่อ ตลอดจนมีความรู้และเข้าใจลักษณะการตั้งชื่อช้างไทยได้เป็นอย่างดี</p> <p><strong>คำสำคัญ</strong>: ช้างไทย ความหมายของชื่อช้าง ความเชื่อ</p>
2025-11-30T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/APBJ/article/view/277115
การตั้งชื่อและความหมายของชื่ออาคารและสถานที่ ในมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
2025-03-05T15:34:53+07:00
ฐิติมาพร นิ่มหนู
mess_47@hotmail.com
ภัทรพล ฉัตรธง
mess_47@hotmail.com
อมิตา บุญแร่
mess_47@hotmail.com
อารยา เจ็กรักษ์
mess_47@hotmail.com
เมศิณี ภัทรมุทธา
mess_47@hotmail.com
รัตนาวดี ปาแปง
mesinee@psru.ac.th
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์การตั้งชื่อและความหมายของชื่ออาคารและสถานที่ในมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จำนวน 103 ชื่อ ผลการวิจัยพบว่าการตั้งชื่ออาคารและสถานที่ในมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามมี 6 ลักษณะ ได้แก่ 1) การใช้คำสมาส ประกอบไปด้วยคำสมาสที่มีสนธิ และคำสมาสที่ไม่มีสนธิ 2) การใช้คำประสม ประกอบไปด้วยการประสมคำระหว่างคำไทยกับคำไทย คำไทยกับคำบาลี คำไทยกับคำสันสกฤต คำไทยกับคำบาลีสันสกฤต คำไทยกับคำอังกฤษ และคำไทยกับคำภาษาต่างประเทศ 3) การใช้คำทับศัพท์ ประกอบไปด้วยการใช้คำทับศัพท์ภาษาอังกฤษและการใช้คำทับศัพท์ภาษาอังกฤษกับจำนวนนับ 4) การใช้จำนวนนับ ประกอบไปด้วยการใช้จำนวนนับ และการใช้จำนวนนับประกอบชื่ออาคารและสถานที่ 5) การใช้อักษรย่อ ประกอบไปด้วยการใช้อักษรย่อเป็นชื่ออาคารและสถานที่ การใช้อักษรย่อกับจำนวนนับ และการใช้อักษรย่อประกอบชื่ออาคารและสถานที่กับจำนวนนับ 6) การใช้พยางค์พบการตั้งชื่ออาคารและสถานที่จำนวน 6 พยางค์มากที่สุด ส่วนความหมายของชื่ออาคารและสถานที่ในมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามพบ 6 ความหมาย ได้แก่ 1) ความหมายที่เกี่ยวข้องกับพระนามของพระมหากษัตริย์และชื่อบุคคล 2) ความหมายที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่สำคัญ 3) ความหมายที่เกี่ยวข้องกับพืชพรรณไม้ 4) ความหมายที่เกี่ยวข้องกับลักษณะการใช้งาน 5) ความหมายที่เกี่ยวข้องกับปัญญา, ความรู้ 6) ความหมายอื่น ๆ</p>
2025-11-30T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/APBJ/article/view/277511
พิษณุโลกในพระราชพงศาวดาร : การศึกษาประวัติศาสตร์เพื่อส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
2025-05-11T12:09:40+07:00
ธนากาญจน์ ช่วยหลำ
p_0345043@hotmail.com
รัตนาภรณ์ อินกรัด
p_0345043@hotmail.com
ปรีชา แป้นจันทร์
p_0345043@hotmail.com
ธีรนันภัทร โพธิ์ดง
p_0345043@hotmail.com
ปฐมพงษ์ สุขเล็ก
p_0345043@hotmail.com
ทัตพิชา สกุลสืบ
p_0345043@hotmail.com
<p>งานวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานที่ในเมืองพิษณุโลกที่ปรากฏในพระราชพงศาวดารเพื่อเป็นข้อมูลในการส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในจังหวัดพิษณุโลก โดยศึกษาจากพระราชพงศาวดารฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ช่วงสมัยกรุงศรีอยุธยาถึงช่วงกรุงธนบุรี ผลการวิจัยพบว่า มีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์ที่ยังคงปรากฏมาถึงปัจจุบัน จำแนกเป็น 2 ลักษณะ คือ 1) โบราณสถาน พบ 2 แห่ง ได้แก่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร และวัดจุฬามณี 2) อาณาบริเวณ พบ 2 แห่ง ได้แก่ ปากพิง และตำบลโทก ซึ่งสถานที่ทั้ง 4 แห่งนี้ อยู่ในเขตอำเภอเมืองพิษณุโลก ปรากฏในพระราชพงศาวดารและยังคงปรากฏสถานที่สืบต่อมาถึงปัจจุบัน นักท่องเที่ยวจึงเดินทางไปเที่ยวชมได้สะดวกและเกิดความรู้สึกร่วมในบรรยากาศสถานที่จริง โดยข้อมูลในพระราชพงศาวดารนำมาสร้างเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ให้สถานที่นั้น มีความน่าสนใจยิ่งขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว หรือสามารถนำมาพัฒนาเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์ในจังหวัดพิษณุโลกต่อไป</p>
2025-11-30T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/APBJ/article/view/279258
คุณธรรมสำหรับเด็กปฐมวัยที่ปรากฏในนิทานเรื่องป๋องแป๋ง
2025-07-01T10:51:37+07:00
ฐิติมา ผลมา
rossarin.j@psru.ac.th
รสริน จันทร์เมือง
rossarinjanmnung@gmail.com
สุกัญญาโสภี ใจกล่ำ
sukunyasopee@gmail.com
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคุณธรรมสำหรับเด็กปฐมวัยที่ปรากฏในนิทานเด็กเรื่องป๋องแป๋ง โดยผู้วิจัยได้ศึกษาคุณธรรมตามกรอบแนวคิดของสมศรีพิศุทธิ์ ไกรอภัยวงษ์และคณะ ที่ได้แบ่งคุณธรรมสำหรับเด็กปฐมวัยไว้ 8 ด้าน โดยศึกษาจากหนังสือนิทานสำหรับเด็กปฐมวัยเรื่องป๋องแป๋งที่อยู่ในห้องสมุดของมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จำนวน 29 เล่ม คัดเลือกจากชุดนิทานสำหรับเด็กปฐมวัยขายดีในช่วงปี พ.ศ. 2561 - 2565 ผลการศึกษาพบว่า มีคุณธรรมปรากฏอยู่ในนิทานสำหรับเด็กปฐมวัยเรื่องป๋องแป๋งครบ 8 ด้าน เรียงลำดับได้ดังนี้ (1) คุณธรรมด้านความมีวินัย จำนวน 17 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 22.97 (2) การมีจิตอาสา จำนวน 16 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 21.62 (3) ความกตัญญู จำนวน 14 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 18.91 (4) การประหยัดและออม จำนวน 10 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 13.51 (5) ความซื่อสัตย์สุจริต จำนวน 6 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 8.10 (6) ความมีมารยาท จำนวน 4 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 5.40 (7) ความพอเพียง จำนวน 4 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 5.40 และ (8) ความเมตตากรุณา จำนวน 3 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 4.05 จากผลการศึกษาจะเห็นได้ว่าหนังสือนิทานเด็กปฐมวัยเรื่องป๋องแป๋ง ได้มีการสอดแทรกคุณธรรมเพื่อปลูกฝังคุณธรรมให้แก่เด็ก ๆ ด้วยการได้จดจำ และนำความรู้ในเรื่องของคุณธรรมไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการปลูกฝังคุณธรรมให้แก่เด็กปฐมวัยนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากช่วงปฐมวัยเป็นช่วงที่เด็กกำลังจดจำและมีพัฒนาการในด้านต่าง ๆ เพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ การปลูกฝังคุณธรรมให้แก่เด็กในช่วงวัยนี้ จึงใช้วิธีการสื่อสารผ่านการเล่านิทานหรือสื่อการสอนเพื่อเป็นการปลูกฝังให้เด็กได้รู้จักและเข้าใจถึงคุณธรรม และนำไปประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตหรือพัฒนาตนเองให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและสามารถอยู่ร่วมกับคนในสังคมได้อย่างมีความสุข</p>
2025-11-30T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/APBJ/article/view/279857
Thai EFL Undergraduate Students' English Collocational Knowledge: Receptive and Productive Competence and Acquisition Processes
2025-07-01T16:50:12+07:00
อัสมา ทรรศนะมีลาภ
asama.ta@psu.ac.th
Tuna Girgin
asama.ta@psu.ac.th
<p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้คำปรากฏร่วมภาษาอังกฤษและประสบการณ์การเรียนรู้คำปรากฏร่วมของนักศึกษาไทยระดับปริญญาตรี สาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทางธุรกิจ จำนวน 104 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแบบทดสอบ 4 ชุด เพื่อวัดความรู้เชิงรับ (collex และ collmatch) และความรู้เชิงสร้าง (recall และ contrix) ของคำปรากฏร่วมประเภท lexical และ grammatical และการสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้างกับนักศึกษา 30 คน ผลการวิจัยพบว่า มีช่องว่างระหว่างความรู้เชิงรับและเชิงสร้างอย่างมีนัยสำคัญ โดยคำปรากฏร่วมประเภท lexical มีช่องว่างมากกว่าประเภท grammatical ผู้เข้าร่วมวิจัยส่วนใหญ่เรียนรู้จากในชั้นเรียนเป็นหลัก และมีวิธีการเรียนรู้คำปรากฏร่วมที่หลากหลาย เช่น การใช้ AI ในการแปล การดูภาพยนตร์และการใช้แอปพลิเคชัน ผู้เข้าร่วมวิจัยส่วนใหญ่รายงานว่าไม่เคยรู้จักคำปรากฏร่วมก่อนเรียนในมหาวิทยาลัย ซึ่งชี้ให้เห็นช่องว่างในหลักสูตรระดับมัธยมศึกษา ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าการเรียนรู้จากสื่อที่หลากหลายและกลยุทธ์การเรียนรู้เชิงรุกส่งผลต่อความสามารถในการใช้คำปรากฏร่วมได้ดีขึ้น</p>
2025-11-30T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/APBJ/article/view/279899
การใช้วัจนกรรมบนโปสเตอร์โฆษณาหาเสียงในการเลือกตั้งผู้แทนนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ. 2566
2025-07-01T11:49:34+07:00
ไห่หนิง หลง
cchayanine@gmail.com
ชญานิน บุญส่งศักดิ์
cchayanine@gmail.com
<p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจำแนกประเภทวัจนกรรมและศึกษาลักษณะการใช้ภาษา บนถ้อยคำหาเสียงของผู้สมัครเลือกตั้งผู้แทนนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประจำปี พ.ศ. 2566 จากข้อมูลจำนวน 38 ข้อความที่เผยแพร่ผ่านโปสเตอร์ในเพจทางการของสภานักศึกษาในเฟซบุ๊ก โดยใช้แนวคิดวัจนกรรมของจอห์น เซิร์ส (John R. Searle, 1969) เป็นกรอบในการวิเคราะห์ ผลการวิจัยพบว่า ผู้สมัครใช้วัจนกรรม 4 ประเภท ได้แก่ 1) วัจนกรรมผูกมัด (commissives) จำนวน 27 ครั้ง (ร้อยละ 71.06) เช่น การให้คำมั่นสัญญาและการเสนอชื่อ 2) วัจนกรรมบรรยายเหตุการณ์ (representatives) จำนวน 7 ครั้ง (ร้อยละ 18.42) เช่น การรายงานข้อเท็จจริง 3) วัจนกรรมแสดงอารมณ์ความรู้สึก (expressives) จำนวน 3 ครั้ง (ร้อยละ 7.89) เช่น การเตือนใจ 4) วัจนกรรมกำหนดให้ทำ (directives) จำนวน 1 ครั้ง (ร้อยละ 2.63) เช่น การเชิญชวน ไม่พบวัจนกรรมประกาศ (declarations) ในชุดข้อมูล นอกจากนี้ยังพบว่า วัจนกรรมส่วนใหญ่ปรากฏในรูปแบบที่ไม่แสดงเจตนาอย่างชัดเจนหรือเป็นการสื่อสารเชิงอ้อม ผู้วิจัยจึงต้องพิจารณาบริบทและความหมายอย่างรอบคอบ การใช้ภาษาลักษณะนี้สะท้อนแนวโน้มการสื่อสารทางการเมืองของนักศึกษายุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นในการใช้ภาษา มากกว่าการใช้ถ้อยคำชี้นำโดยตรง</p>
2025-11-30T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/APBJ/article/view/283481
บทบรรณาธิการ
2025-11-29T16:16:26+07:00
ภัครพล แสงเงิน
huso@psru.ac.th
สุธัญญา ปานทอง
tyny71@hotmail.com
<p><strong>บทบรรณาธิการ</strong></p> <p>วารสารอักษราพิบูล ปีที่ 6 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม - ธันวาคม 2568) ที่ท่านเห็นอยู่นี้เป็นวารสารวิชาการของคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม วารสารที่มีเนื้อหาด้านมนุษยศาสตร์ โดยมุ่งสร้างเสริมความเข้มแข็งทางวิชาการสายมนุษยศาสตร์ซึ่งนับวันจะถูก “ลดทอน” และ “ละเลย” ความสำคัญและคุณค่าลงไปอย่างมาก</p> <p>ข่าวมหัศจรรย์ที่บรรณาธิการจำเป็นต้องแจ้งให้กับผู้เขียนและผู้อ่านทราบนั้น คือ ตั้งแต่วารสารอักษราพิบูล ปีที่ 6 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม - ธันวาคม 2568) ฉบับนี้เป็นต้นไปได้รับรองการประเมินคุณภาพวารสารวิชาการให้เป็น <strong>“วารสารกลุ่มที่ 1 (</strong><strong>Tier1</strong><strong>)”</strong> โดยศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย (TCI) ประกาศรับรองเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 เนื้อหาของบทความที่ปรากฏในวารสารอักษราพิบูลฉบับนี้มีความเข้มข้นทางวิชาการและประกอบไปด้วยผู้เขียนทั้งในและภายนอกสถาบันโดยบทความที่น่าสนใจ ดังนี้ </p> <p><strong>ชื่อช้างไทย : การวิเคราะห์ความหมายและความเชื่อ </strong>โดยกนกพร นาคอัง พัฒน์นรี มั่งจิ๋ว รักษิณา ศิริเลิศ สิทธิพร ตรีนพ และสุชาดา เจียพงษ์<strong> กลวิธีการตั้งชื่ออาคารและสถานที่ในมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม </strong>โดยฐิติมาพร นิ่มหนู ภัทรพล ฉัตรธง อมิตา บุญแร่ อารยา เจ็กรักษ์ และเมศิณี ภัทรมุทธา <strong>พิษณุโลกในพระราชพงศาวดาร : การศึกษาประวัติศาสตร์เพื่อส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม </strong>โดยธนากาญจน์ ช่วยหลำ รัตนาภรณ์ อินกรัด ปรีชา แป้นจันทร์ ธีรนันภัทร โพธิ์ดง ปฐมพงษ์ สุขเล็ก และทัตพิชา สกุลสืบ<strong> คุณธรรมสำหรับเด็กปฐมวัยที่ปรากฏในนิทานเรื่องป๋องแป๋ง</strong> โดยฐิติมา ผลมา รสริน จันทร์เมือง และสุกัญญาโสภี ใจกล่ำ <strong>Thai EFL Undergraduate Students' English Collocational Knowledge: Receptive and Productive Competence and Acquisition Processes </strong>โดย Asama Tasanameelarp and Tuna Girgin<strong> การใช้วัจนกรรมบนโปสเตอร์โฆษณาหาเสียงในการเลือกตั้งผู้แทนนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ. 2566 </strong>โดยไห่หนิง หลง และชญานิน บุญส่งศักดิ์<strong> แก้บนแม่ยาย : คุณค่าของเพลงพื้นบ้านกับการนำเสนอเนื้อหาอย่างสร้างสรรค์จากผลงานของป.ปากควาย </strong>โดยศราวุธ สุดงูเหลือม<strong> กลวิธีทางภาษาในการตั้งชื่อตอนข่าวของรายการ “โหนกระแส” : การวิเคราะห์เชิงวาทกรรมในบริบทวัฒนธรรมร่วมสมัย </strong>โดยบุษกร แก้วอ่ำ<strong> และความหมายทางไวยากรณ์ของคำว่า “จาก” ในวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง “ความสุขของกะทิ” </strong>โดยกฤตกร สารกิจ</p> <p>บทความวิจัยและบทความวิชาการทั้งหมดล้วนผ่านการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสถาบันจำนวน 3 ท่านต่อบทความตามประกาศ ก.พ.อ. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์และศาสตราจารย์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2564 ทำให้เนื้อหาในวารสารอักษราพิบูลนี้เต็มไปด้วยความเข้มข้นทางวิชาการเพิ่มมากยิ่งขึ้นไปอีก</p> <p>วารสารอักษราพิบูล ขอขอบพระคุณผู้เขียนและผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ทางด้านมนุษยศาสตร์ อันเป็นองค์ความรู้สำคัญที่ใช้ในการเรียนรู้ชีวิตมนุษย์และขอเรียนเชิญผู้ที่สนใจและรักที่จะรังสรรค์ผลงานวิชาการในทางมนุษยศาสตร์ วารสารอักษราพิบูลขอเป็นหนึ่งในตัวเลือกของท่านที่จะรับผลงานด้านมนุษยศาสตร์เพื่อตีพิมพ์เผยแพร่สร้างสรรค์องค์ความรู้ ทางด้านมนุษยศาสตร์ให้กว้างขวางไปยิ่งขึ้นอีก</p> <p>บรรณาธิการ</p>
2025-11-30T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/APBJ/article/view/278504
แก้บนแม่ยาย : คุณค่าของเพลงพื้นบ้านกับการนำเสนอเนื้อหาอย่างสร้างสรรค์ จากผลงานของ ป.ปากควาย
2025-10-29T11:57:42+07:00
ศราวุธ สุดงูเหลือม
manunsree55@gmail.com
<p>บทความฉบับนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อนำเสนอประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์เพลงแก้บนแม่ยายใน 3 ประเด็น ได้แก่ 1) ป.ปากควาย ผู้สร้างสรรค์เพลงแก้บนแม่ยาย 2) ความสัมพันธ์ระหว่างลูกเขยกับแม่ยายในบทเพลงแก้บนแม่ยาย และ 3) บทบาทของเพลงแก้บนแม่ยายในฐานะเครื่องมือระบายความกดดันทางเพศและการโต้ตอบกฎเกณฑ์ในสังคม ผลการศึกษาพบว่าบทเพลงแม่ยายเป็นผลงานสร้างสรรค์ ของ ป.ปากควาย หรือนายมณฑล อโหสิ เป็นการสร้างสรรค์เพลงด้วยการดัดแปลงมาจากเพลงจำใจจาก มุ่งนำเสนอภาพความสัมพันธ์อันดีระหว่างลูกเขยกับแม่ยาย สะท้อนบทบาทของเพลงในฐานะเครื่องมือระบายความกดดันทางเพศและการโต้ตอบกฎเกณฑ์ในสังคม แสดงให้เห็นคุณค่าและปฏิภาณกวีของ ป.ปากควาย </p>
2025-11-30T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/APBJ/article/view/279596
กลวิธีทางภาษาในการตั้งชื่อตอนข่าวของรายการ “โหนกระแส” : การวิเคราะห์เชิงวาทกรรมในบริบทวัฒนธรรมร่วมสมัย
2025-07-01T15:43:49+07:00
บุษกร แก้วอ่ำ
butsakonka67@nu.ac.th
<p>บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากลวิธีทางภาษาในการตั้งชื่อตอนข่าวของรายการ “โหนกระแส” โดยใช้กรอบแนวคิดหลังโครงสร้างนิยม วาทกรรมศึกษา และวัฒนธรรมศึกษา ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาคือชื่อตอนข่าวจำนวน 60 ตอน ที่ออกอากาศระหว่างเดือนมกราคม พ.ศ. 2566 ถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2568 ผลการวิเคราะห์พบว่า การตั้งชื่อตอนข่าวมิใช่การสื่อสารข้อมูลอย่างเป็นกลาง หากแต่เป็นการสร้างวาทกรรมเชิงอำนาจผ่านกลวิธีทางภาษา 3 ประการ ได้แก่ 1) การใช้วาทกรรมดราม่าเพื่อกระตุ้นอารมณ์ เช่น การใช้ถ้อยคำรุนแรง คำอุทาน หรือการกล่าวเกินจริง 2) การวางคู่ตรงข้ามเพื่อชี้นำการตัดสินทางศีลธรรม เช่น เหยื่อ - ผู้กระทำ ดี - เลว หรือคนธรรมดา - ผู้มีอำนาจ และ 3) การผลิตซ้ำอุดมการณ์ทางสังคมผ่านภาพแทนที่คุ้นเคย เช่น แม่ผู้เสียสละ พลเมืองดี หรือหญิงใสซื่อ ข้อค้นพบสะท้อนให้เห็นว่าภาษาในสื่อมิได้ทำหน้าที่ถ่ายทอดความจริงเท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการจัดระเบียบความคิดของผู้ชม การศึกษานี้จึงมีคุณูปการต่อการวิพากษ์บทบาทของภาษาในพื้นที่สื่อ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการพัฒนาทักษะรู้เท่าทันสื่อในระดับการศึกษาและสังคมไทยร่วมสมัย</p>
2025-11-30T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/APBJ/article/view/279821
ความหมายทางไวยากรณ์ของคำว่า “จาก” ในวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง “ความสุขของกะทิ”
2025-07-01T11:06:08+07:00
กฤตกร สารกิจ
krittakorn.sa@lsed.tu.ac.th
<p>บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความหมายทางไวยากรณ์ของคำว่า “จาก” ในภาษาไทย โดยใช้ข้อมูลจากวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง “ความสุขของกะทิ” (พิมพ์ครั้งที่ 105) ผลการศึกษาพบว่า คำว่า “จาก” เป็นคำไวยากรณ์ อยู่ใน 2 หมวดคำ คือ คำบุพบทและคำเชื่อมนาม เมื่อทำหน้าที่เป็นคำบุพบท จะมีความหมายทางไวยากรณ์ 7 ความหมาย ได้แก่ ความหมายบอกความสัมพันธ์ทางพื้นที่หรือสถานที่ทางกายภาพ ความหมายบอกความสัมพันธ์ทางบุคคล ความหมายบอกความสัมพันธ์ทางการกระทำ ความหมายบอกความสัมพันธ์ทางวัสดุเดิม ความหมายบอกความสัมพันธ์ทางอุปกรณ์ ความหมายบอกความสัมพันธ์ทางรูปร่าง<br />หรือคุณลักษณะ และความหมายบอกความสัมพันธ์ทางความรู้สึกนึกคิด ขณะที่คำว่า “จาก” ซึ่งทำหน้าที่เป็นคำเชื่อมนาม จะมีความหมายทางไวยากรณ์ 4 ความหมาย ได้แก่ ความหมายบอกความสัมพันธ์ทางพื้นที่หรือสถานที่ทางกายภาพ ความหมายบอกความสัมพันธ์ทางบุคคล ความหมายบอกความสัมพันธ์ทางการกระทำ และความหมายบอกความสัมพันธ์ทางความรู้สึกนึกคิด</p>
2025-11-30T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม