การยอมรับของครอบครัวและการรับรู้ผลต่อสุขภาพของชายรักชาย ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
บทคัดย่อ
ชายรักชายเป็นกลุ่มที่เผชิญหน้ากับความไม่เท่าเทียมกันในสังคมและความเปราะบางอันเปราะบางจากมุมมองในอดีต ทำให้ไม่ได้รับการยอมรับในสังคมและในสถานบันครอบครัว การศึกษาครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการยอมรับของครอบครัวที่มีลูกเป็นชายรักชายและการรับรู้ผลกระทบทางสุขภาพจากการยอมรับของครอบครัวของพวกเขา ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เป็นการศึกษาเชิงคุณภาพ มีการรวบรวมข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก โดยผู้ให้ข้อมูล คือ ชายรักชาย จำนวน 10 คน และสมาชิกครอบครัวของชายรักชายดังกล่าว จำนวน 10 คน ผลการศึกษาพบว่า กระบวนการยอมรับของครอบครัวเริ่มจาก ครอบครัวมีการรับรู้ถึงความเป็นชายรักชาย ด้วยการสังเกตจากพฤติกรรม การรวมกลุ่มกับเพื่อน และการเปิดเผยตนเองโดยการใช้เวลาระยะเวลา การพูดคุยปรับความเข้าใจ การปรับการแสดงออกในพฤติกรรมของชายรักชาย และความพยายามแสดงออกของชายรักชายถึงจุดยืนในอัตลักษณ์ของตน ทำให้ครอบครัวก็เกิดการรับรู้ที่มากขึ้น และมีความเข้าใจในอัตลักษณ์ จึงทำให้ครอบครัวยอมรับ ส่วนผลกระทบต่อสุขภาพของชายรักชาย 4 ด้าน คือ สุขภาพทางกาย สุขภาพทางจิต สุขภาพทางสังคม และสุขภาพทางปัญญา พบว่าการได้รับการยอมรับจากครอบครัวส่งผลทางบวกต่อสุขภาพของชายรักชายทุกด้าน ยกเว้นสุขภาพทางกายที่ส่งผลทางลบได้ด้วย การไม่ยอมรับของครอบครัวส่งผลทางลบต่อสุขภาพ ทุกด้าน ยกเว้นสุขภาพทางปัญญาที่สามารถส่งผลทางบวกร่วมด้วย การศึกษานี้มีข้อเสนอแนะ คือ ควรให้มีการเผยแพร่ความรู้ เรื่อง เพศ เพศสภาพ เพศวิถี ความเท่าเทียมทางเพศและสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน เพื่อให้เกิดการยอมรับการเป็นชายรักชายในสมาชิกของครอบครัว เนื่องจากการยอมรับของครอบครัวมีผลต่อสุขภาพทั้ง 4 ด้านของชายรักชาย ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้ชายรักชายสามารถอยู่ในสังคมอย่างมีสุขภาพที่ดีในทุกด้านต่อไป
คำสำคัญ: ชายรักชาย, การยอมรับของครอบครัว, ผลกระทบต่อสุขภาพ
เอกสารอ้างอิง
บรรณานุกรม
Jenkins C, Hunter A, and P.n.A. P, Katoey in Thailand: HIV/AIDS and Life Opportunities. 2005, Washington DC: USAID.
King, M., et al., Mental health and quality of life of gay men and lesbians in England and Wales: controlled, cross-sectional study. Br J Psychiatry, 2003. 183: p. 552-8.
King, M., et al., A systematic review of mental disorder, suicide, and deliberate self harm in lesbian, gay and bisexual people. BMC psychiatry, 2008. 8: p. 70-70.
Mahidol University, P.I.T., and UNESCO Bangkok Office, A Brief on school bullying on the basis of sexual orientation and gender identity: LGBT-friendly Thailand? (tha). 2014, UNESCO Office Bangkok/Plan International/Mahidol University.
Rohner, R.P., Introduction to interpersonal acceptance-rejection theory (IPARTheory) and evidence. Online Readings in Psychology and Culture, 2016. 6(1): p. 4.
Ryan, C., et al., Family rejection as a predictor of negative health outcomes in white and Latino lesbian, gay, and bisexual young adults. Pediatrics, 2009. 123(1): p. 346-52.
Ryan, C., et al., Family Acceptance in Adolescence and the Health of LGBT Young Adults. Journal of Child and Adolescent Psychiatric Nursing, 2010. 23(4): p. 205-213.
มูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน, รายงานวิจัยเรื่องความต้องการ ปัญหาและอุปสรรคของคนข้ามเพศที่เกี่ยวเนื่องกับการรับรองสถานภาพและคำนำหน้านาม. 2558.
มูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน, รายงานการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องระบบสุขภาพอย่างรอบด้านในประเทศไทย. 2560.
มูลนิธิเอ็มพลัสพิษณุโลก, ข้อมูลประชากรที่เข้ารับบริการในมูลนิธิเอ็มพลัสพิษณุโลก. 2562.
โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก, ข้อมูลประชากรในเขตพื้นที่ตำบลในเมือง. 2561.
สุพร เกิดสว่าง. ชายรักชาย. 2546.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 รณภูมิ สามัคคีคารมย์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
สหศาสตร์: วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองลิขสิทธิ์และสิทธิของผู้นิพนธ์ในการเผยแพร่ผลงานวิชาการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความโปร่งใส ความถูกต้องตามหลักวิชาการ และสอดคล้องกับแนวปฏิบัติสากล ทั้งนี้ วารสารกำหนดนโยบายดังต่อไปนี้
|
1. การยอมรับเงื่อนไขการเผยแพร่ - ผู้นิพนธ์ที่ส่งบทความเพื่อตีพิมพ์ ต้องปฏิบัติตามนโยบายและเงื่อนไขการเผยแพร่ของวารสารโดยเคร่งครัด - การส่งบทความถือเป็นการยอมรับให้นำบทความเข้าสู่กระบวนการพิจารณาและการเผยแพร่ตามมาตรฐานของวารสาร |
|
2. การโอนลิขสิทธิ์ - เมื่อบทความได้รับการตอบรับเพื่อตีพิมพ์ ผู้เขียนโอนลิขสิทธิ์ของบทความให้แก่วารสาร - วารสารมีสิทธิ์เผยแพร่ ทำซ้ำ และเผยแพร่บทความในทุกรูปแบบ ทั้งสิ่งพิมพ์ เว็บไซต์ และสื่อออนไลน์อื่น ๆ |
|
3. สิทธิ์ของผู้นิพนธ์หลังการโอนลิขสิทธิ์ - ผู้นิพนธ์ยังคงมีสิทธิ์ใช้บทความเพื่อวัตถุประสงค์ทางวิชาการ เช่น การสอน การวิจัยส่วนบุคคล การใช้ประกอบวิทยานิพนธ์ หรือการเผยแพร่ในแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ - การนำบทความไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์เชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตจากวารสารก่อนเป็นลายลักษณ์อักษร |
|
4. การเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาตสาธารณะ (Creative Commons License) - บทความทั้งหมดในวารสารจะเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) - บุคคลอื่นสามารถเผยแพร่หรือแบ่งปันบทความได้โดยต้องให้เครดิตแก่ผู้นิพนธ์ต้นฉบับ แต่ห้ามแก้ไข ดัดแปลง หรือใช้ในเชิงพาณิชย์ |
|
5. ความถูกต้องของเนื้อหาและการใช้สื่อจากบุคคลที่สาม - ผู้เขียนต้องรับรองว่าบทความที่ส่งเพื่อตีพิมพ์เป็นผลงานต้นฉบับของตนเอง ไม่ได้ส่งซ้ำซ้อน (duplicate submission) และไม่ละเมิดลิขสิทธิ์หรือคัดลอกผลงานของผู้อื่น รวมถึงไม่มีการปลอมแปลงข้อมูล การตีพิมพ์ซ้ำ หรือการกระทำใด ๆ ที่ขัดต่อหลักจริยธรรมทางวิชาการ - ผู้เขียนต้องรับผิดชอบในการขออนุญาตใช้สื่อจากบุคคลที่สาม เช่น ภาพ ตาราง หรือกราฟิก และต้องอ้างอิงหรือให้เครดิตอย่างถูกต้องน |
|
6. ข้อจำกัดความรับผิดชอบ (Disclaimer) - บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารสหศาสตร์: วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร - ข้อความ ข้อมูล และข้อคิดเห็นที่ปรากฏในบทความเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่ละท่านโดยตรง มิได้สะท้อนถึงทัศนะหรือจุดยืนของกองบรรณาธิการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง - หากบทความมีข้อผิดพลาดหรือการละเมิดสิทธิ์ใด ๆ ความรับผิดชอบทั้งหมดเป็นของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว - การนำบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากบรรณาธิการวารสารก่อน ทั้งนี้ ผู้ขออนุญาตต้องจัดทำคำชี้แจงเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และลักษณะการใช้งานอย่างชัดเจน การใช้บทความในเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว |

