การประยุกต์ใช้แนวคิด Transtheoretical model (TTM) และกลยุทธ์ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่อการเลิกบุหรี่ในกลุ่มนักศึกษา
คำสำคัญ:
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบุหรี่, แนวคิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม (Transtheoretical model), ทัศนคติต่อการสูบบุหรี่บทคัดย่อ
สถานการณ์การสูบบุหรี่ของวัยรุ่นในประเทศไทย ผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำมีอายุเฉลี่ยที่เริ่มสูบบุหรี่เฉลี่ยที่ 17.9 ปี โดยกลุ่มเยาวชนได้รับผลกระทบทั้งทางตรงคือจากการเป็นนักสูบหน้าใหม่และยังติดบุหรี่ในอนาคตการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการสูบบุหรี่ในกลุ่มเยาวชนไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยการให้ความรู้เพียงด้านเดียว การประยุกต์ใช้แนวคิดและกลยุทธ์ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการสูบบุหรี่จึงเป็นแนวทางสำคัญต่อการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยแนวคิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม (Transtheoretical model; TTM) เป็นแนวคิดที่มีประสิทธิภาพและมีการใช้อย่างแพร่หลายในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ จากการทดลองใช้แนวคิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมประยุกต์ผ่านการจัดกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการสูบบุหรี่ พบว่า กลุ่มนักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรมมีทัศนคติที่ดีขึ้น บทความนี้ได้สรุปองค์ประกอบของแนวคิดและกลยุทธ์ที่นำมาใช้ในการปฏิบัติและตัวอย่างกิจกรรมของการใช้กระบวนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการจัดกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการสูบบุหรี่ในกลุ่มเยาวชน
เอกสารอ้างอิง
2. Prochaska JO, Redding CA, Evers KE. (2008). The transtheoretical model and stages of change. IHealth behavior and health education: Theory, research and practice.
3. World Health Organization. (2015). WHO global report on trends in tobacco smoking 2000- 2025. Retrieved July 10, 2019, from https://www.who.int/tobacco/publications/ surveillance/reportontrendstobaccosmoking/en/
4. กุลธิดา พานิชกุล. (2556). การประยุกต์ใช้โมเดลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม(Transtheoretical Model) เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการออกกำลังกาย. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชศรีมา, 19(1): 66-76.
5. กรองจิต วาทีสาธกกิจ. (2555). ความรู้เรื่องพิษภัยของบุหรี่และวิธีเลิกสูบบุหรี่นี้. มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่. สืบค้นจาก ncd.surinpho.go.th/web2/SaveFile.php
6. ชลลดา ไชยกุลวัฒนา ประกายดาว สุทธิ และวิชานีย์ ใจมาลัย. (2560). พฤติกรรมสูบบุหรี่และปัจจัยเสี่ยงที่สัมพันธ์กับการสูบบุหรี่ของวัยรุ่นตอนต้นจังหวัดพะเยา. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข, 1(1): 57-67.
7. ปิยะพล ทรงอาจ. (2560). การให้คำปรึกษาแบบกลุ่มตามแบบจำลองข้ามทฤษฎีเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของนิสิตบรรพชิต มหาวิทยลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น. วารสารวิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย, 7(ฉบับพิเศษ): 160-173.
8. ผาณิต หลีเจริญ. (2556). การนํารูปแบบ TTM ไปใช้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อการป้องกันการเกิด ภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข, 23(3), 3-8.
9. พลากร สืบสำราญ และคณะ. (2560). ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ ทัศนคติต่ออันตรายของการสูบบุหรี่ กับการสูบบุหรี่ของนักเรียนชั้นมัธยมปลาย, 19(3): 12-20.
10. ภานิสา ระยา. (2558). ผลของโปรแกรมส่งเสริมการเลิกสูบบุหรี่ตามแบบจำลองขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของประชาชนในตำบลวังวน อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพ, 31(2): 9-23.
11. วรรณรัตน์ รัตนวรางค์. (2562). กลยุทธ์ในการสร้างสาร. พิมพ์ครั้งที่ 3. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 กิตรวี จิรรัตน์สถิต, ญาดา กิมเปา, กนกรัตน์ แสวงศรี, บงกช ชาวโคราช, ปฏิมาล์ ศิริพิรุณ, สุโรธร ตุ้มประสิทธิ์, กานต์พิชชา บุญค้ำชู, กรภัค วิบูลธนบัตร, ณัฐชนน ตั้งไพบูลย์พงศา, พ.ต.ต.หญิง ดร.คัติยา อีวาโนวิช

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
สหศาสตร์: วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองลิขสิทธิ์และสิทธิของผู้นิพนธ์ในการเผยแพร่ผลงานวิชาการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความโปร่งใส ความถูกต้องตามหลักวิชาการ และสอดคล้องกับแนวปฏิบัติสากล ทั้งนี้ วารสารกำหนดนโยบายดังต่อไปนี้
|
1. การยอมรับเงื่อนไขการเผยแพร่ - ผู้นิพนธ์ที่ส่งบทความเพื่อตีพิมพ์ ต้องปฏิบัติตามนโยบายและเงื่อนไขการเผยแพร่ของวารสารโดยเคร่งครัด - การส่งบทความถือเป็นการยอมรับให้นำบทความเข้าสู่กระบวนการพิจารณาและการเผยแพร่ตามมาตรฐานของวารสาร |
|
2. การโอนลิขสิทธิ์ - เมื่อบทความได้รับการตอบรับเพื่อตีพิมพ์ ผู้เขียนโอนลิขสิทธิ์ของบทความให้แก่วารสาร - วารสารมีสิทธิ์เผยแพร่ ทำซ้ำ และเผยแพร่บทความในทุกรูปแบบ ทั้งสิ่งพิมพ์ เว็บไซต์ และสื่อออนไลน์อื่น ๆ |
|
3. สิทธิ์ของผู้นิพนธ์หลังการโอนลิขสิทธิ์ - ผู้นิพนธ์ยังคงมีสิทธิ์ใช้บทความเพื่อวัตถุประสงค์ทางวิชาการ เช่น การสอน การวิจัยส่วนบุคคล การใช้ประกอบวิทยานิพนธ์ หรือการเผยแพร่ในแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ - การนำบทความไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์เชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตจากวารสารก่อนเป็นลายลักษณ์อักษร |
|
4. การเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาตสาธารณะ (Creative Commons License) - บทความทั้งหมดในวารสารจะเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) - บุคคลอื่นสามารถเผยแพร่หรือแบ่งปันบทความได้โดยต้องให้เครดิตแก่ผู้นิพนธ์ต้นฉบับ แต่ห้ามแก้ไข ดัดแปลง หรือใช้ในเชิงพาณิชย์ |
|
5. ความถูกต้องของเนื้อหาและการใช้สื่อจากบุคคลที่สาม - ผู้เขียนต้องรับรองว่าบทความที่ส่งเพื่อตีพิมพ์เป็นผลงานต้นฉบับของตนเอง ไม่ได้ส่งซ้ำซ้อน (duplicate submission) และไม่ละเมิดลิขสิทธิ์หรือคัดลอกผลงานของผู้อื่น รวมถึงไม่มีการปลอมแปลงข้อมูล การตีพิมพ์ซ้ำ หรือการกระทำใด ๆ ที่ขัดต่อหลักจริยธรรมทางวิชาการ - ผู้เขียนต้องรับผิดชอบในการขออนุญาตใช้สื่อจากบุคคลที่สาม เช่น ภาพ ตาราง หรือกราฟิก และต้องอ้างอิงหรือให้เครดิตอย่างถูกต้องน |
|
6. ข้อจำกัดความรับผิดชอบ (Disclaimer) - บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารสหศาสตร์: วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร - ข้อความ ข้อมูล และข้อคิดเห็นที่ปรากฏในบทความเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่ละท่านโดยตรง มิได้สะท้อนถึงทัศนะหรือจุดยืนของกองบรรณาธิการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง - หากบทความมีข้อผิดพลาดหรือการละเมิดสิทธิ์ใด ๆ ความรับผิดชอบทั้งหมดเป็นของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว - การนำบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากบรรณาธิการวารสารก่อน ทั้งนี้ ผู้ขออนุญาตต้องจัดทำคำชี้แจงเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และลักษณะการใช้งานอย่างชัดเจน การใช้บทความในเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว |

