การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์แหล่งน้ำ กรณีศึกษาชุมชนตลาดน้ำดำเนินสะดวก ตำบลดำเนินสะดวก อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี
คำสำคัญ:
การมีส่วนร่วม / อนุรักษ์แหล่งน้ำ / ตลาดน้ำดำเนินสะดวกบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์แหล่งน้ำและศึกษาความแตกต่างของปัจจัยส่วนบุคคล ปัจจัยเศรษฐกิจ สังคม และปัจจัยกระตุ้น รวมถึงศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะของประชาชน ต่อการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์แหล่งน้ำของชุมชนตลาดน้ำดำเนินสะดวก อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างคือ หัวหน้าครัวเรือนหรือตัวแทนของหัวหน้าครัวเรือนที่สามารถให้ข้อมูลได้ โดยบุคคลนั้น จะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป และอาศัยอยู่บริเวณตลาดน้ำจำนวน 352 ครัวเรือน ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติการวิเคราะห์ผันแปรทางเดียว(One-Way ANOVA)
ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่าง ส่วนใหญ่มีส่วนร่วมการอนุรักษ์แหล่งน้ำอยู่ในระดับต่ำ (85.20) และการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์แหล่งน้ำในแต่ละขั้นตอนพบว่าการมีส่วนร่วมการอนุรักษ์แหล่งน้ำในขั้นตอนการกำหนดแผนอยู่ในระดับต่ำ (83.00) มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์แหล่งน้ำในขั้นตอนการปฏิบัติอยู่ในระดับต่ำ (81.00) มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์แหล่งน้ำในขั้นตอนการรับผลประโยชน์อยู่ในระดับต่ำ (71.60) มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์แหล่งน้ำในขั้นตอนการประเมินผลอยู่ในระดับต่ำ (77.80) ปัจจัยส่วนบุคคล เศรษฐกิจและสังคม และปัจจัยกระตุ้นที่มีความแตกต่างกัน ทำให้การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์แหล่งน้ำของชุมชนตลาดน้ำดำเนินสะดวกมีความแตกต่างกัน ได้แก่ เพศ อายุระดับการศึกษา สถานภาพสมรส จำนวนสมาชิกในครัวเรือน อาชีพ รายได้ครัวเรือนต่อปี สถานภาพหรือการมีตำแหน่งในชุมชน การรับรู้ข้อมูลข่าวสารการอนุรักษ์แหล่งน้ำ ความรู้การอนุรักษ์แหล่งน้ำ และการให้คุณค่าการอนุรักษ์แหล่งน้ำ มีผลต่อการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์แหล่งน้ำอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ตามลำดับ ปัญหาอุปสรรค ในการอนุรักษ์แหล่งน้ำของชุมชนตลาดน้ำดำเนินสะดวก คือ 1) ประชาชนส่วนใหญ่ มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์แหล่งน้ำในระดับต่ำ เนื่องจากการได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการอนุรักษ์แหล่งน้ำยังไม่ทั่วถึง 2) การรับรู้ข้อมูลข่าวสารการอนุรักษ์แหล่งน้ำของประชาชนชุมชนตลาดน้ำดำเนินสะดวกอยู่ในระดับต่ำ (78.40) เนื่องจากวิธีประชาสัมพันธ์รวมถึงช่องทางแจ้งข้อมูลข่าวสารให้กับประชาชนชุมชนตลาดน้ำดำเนินสะดวกอาจไม่เหมาะสมกับประชาชนชุมชนตลาดน้ำดำเนินสะดวก
ข้อเสนอแนะจากการวิจัย หน่วยงานผู้รับผิดชอบควรจัดการรณรงค์ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการช่วย กันรักษาความสะอาด กำหนดบทบาทหน้าที่ให้กับร้านค้าที่อยู่ติดคลอง ให้ช่วยกันดูแลรักษาความสะอาด วางกฎระเบียบสร้างความเข้าใจ ให้ทุกคนปฏิบัติ และขอความร่วมมือให้ทุกคนอนุรักษ์แหล่งน้ำ
เอกสารอ้างอิง
เข้าถึงได้จาก http://www.ratchaburi.go.th/datass/2557/floatingmarket57-59.pdf
เทศบาลตำบลดำเนินสะดวก. (2547). ยุทธศาสตร์การพัฒนาเทศบาลตำบลดำเนินสะดวก พ.ศ.
2557-2559. ราชบุรี: สำนักงานเทศบาลตำบลดำเนินสะดวก.
ปราโมทย์ ไม้กลัด.(2557). ทางออกการบริหารจัดการน้ำของไทย. กรรมการมูลนิธิชัยพัฒนา: สถาบันวิจัย
เพื่อการพัฒนาประเทศไทย. เข้าถึงเมื่อ 9 กรกฎาคม 2562, เข้าถึงได้จาก
https://tdri.or.th/water/thaipublica20140309/
ราตรี โตเพ่งพัฒน์. (2543). ตลาดน้ำ : วิถีชีวิตของเกษตรกรภาคกลาง. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภา
ลาดพร้าว
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 8 (2561). ส่วนเฝ้าระวังและเตือนภัย. จังหวัดราชบุรี.
Cohen John M & Norman T. Uphoff. (1977). Rural Development Participation : Concepts and
Measure for Project Design Implementation and Evaluation. New York : The Rural Development Committee Center for International Studies Cornell University.
Rogers E.M. (1973). Communication Strategies for Relation Planning. New York : The Free.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
สหศาสตร์: วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองลิขสิทธิ์และสิทธิของผู้นิพนธ์ในการเผยแพร่ผลงานวิชาการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความโปร่งใส ความถูกต้องตามหลักวิชาการ และสอดคล้องกับแนวปฏิบัติสากล ทั้งนี้ วารสารกำหนดนโยบายดังต่อไปนี้
|
1. การยอมรับเงื่อนไขการเผยแพร่ - ผู้นิพนธ์ที่ส่งบทความเพื่อตีพิมพ์ ต้องปฏิบัติตามนโยบายและเงื่อนไขการเผยแพร่ของวารสารโดยเคร่งครัด - การส่งบทความถือเป็นการยอมรับให้นำบทความเข้าสู่กระบวนการพิจารณาและการเผยแพร่ตามมาตรฐานของวารสาร |
|
2. การโอนลิขสิทธิ์ - เมื่อบทความได้รับการตอบรับเพื่อตีพิมพ์ ผู้เขียนโอนลิขสิทธิ์ของบทความให้แก่วารสาร - วารสารมีสิทธิ์เผยแพร่ ทำซ้ำ และเผยแพร่บทความในทุกรูปแบบ ทั้งสิ่งพิมพ์ เว็บไซต์ และสื่อออนไลน์อื่น ๆ |
|
3. สิทธิ์ของผู้นิพนธ์หลังการโอนลิขสิทธิ์ - ผู้นิพนธ์ยังคงมีสิทธิ์ใช้บทความเพื่อวัตถุประสงค์ทางวิชาการ เช่น การสอน การวิจัยส่วนบุคคล การใช้ประกอบวิทยานิพนธ์ หรือการเผยแพร่ในแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ - การนำบทความไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์เชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตจากวารสารก่อนเป็นลายลักษณ์อักษร |
|
4. การเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาตสาธารณะ (Creative Commons License) - บทความทั้งหมดในวารสารจะเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) - บุคคลอื่นสามารถเผยแพร่หรือแบ่งปันบทความได้โดยต้องให้เครดิตแก่ผู้นิพนธ์ต้นฉบับ แต่ห้ามแก้ไข ดัดแปลง หรือใช้ในเชิงพาณิชย์ |
|
5. ความถูกต้องของเนื้อหาและการใช้สื่อจากบุคคลที่สาม - ผู้เขียนต้องรับรองว่าบทความที่ส่งเพื่อตีพิมพ์เป็นผลงานต้นฉบับของตนเอง ไม่ได้ส่งซ้ำซ้อน (duplicate submission) และไม่ละเมิดลิขสิทธิ์หรือคัดลอกผลงานของผู้อื่น รวมถึงไม่มีการปลอมแปลงข้อมูล การตีพิมพ์ซ้ำ หรือการกระทำใด ๆ ที่ขัดต่อหลักจริยธรรมทางวิชาการ - ผู้เขียนต้องรับผิดชอบในการขออนุญาตใช้สื่อจากบุคคลที่สาม เช่น ภาพ ตาราง หรือกราฟิก และต้องอ้างอิงหรือให้เครดิตอย่างถูกต้องน |
|
6. ข้อจำกัดความรับผิดชอบ (Disclaimer) - บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารสหศาสตร์: วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร - ข้อความ ข้อมูล และข้อคิดเห็นที่ปรากฏในบทความเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่ละท่านโดยตรง มิได้สะท้อนถึงทัศนะหรือจุดยืนของกองบรรณาธิการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง - หากบทความมีข้อผิดพลาดหรือการละเมิดสิทธิ์ใด ๆ ความรับผิดชอบทั้งหมดเป็นของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว - การนำบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากบรรณาธิการวารสารก่อน ทั้งนี้ ผู้ขออนุญาตต้องจัดทำคำชี้แจงเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และลักษณะการใช้งานอย่างชัดเจน การใช้บทความในเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว |

