การศึกษาวิเคราะห์ท่ารำนาฏศิลป์ไทย 4 ภาค สำหรับเสริมสร้างความแข็งแรงและความทนทานของกล้ามเนื้อสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกาย ที่นั่งรถวีลแชร์
คำสำคัญ:
นาฏศิลป์ 4 ภาค, เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกาย, การสร้างกล้ามเนื้อ, รถวีลแชร์บทคัดย่อ
บทความวิจัยฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยเรื่องการพัฒนาความแข็งแรงและความทนทานของกล้ามเนื้อสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกาย ที่นั่งรถวีลแชร์ โดยใช้กิจกรรมนาฏศิลป์ โดยมีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อศึกษาวิเคราะห์ท่ารำนาฏศิลป์ไทย 4 ภาค ที่สามารถพัฒนาความแข็งแรงและความทนทานของกล้ามเนื้อสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายที่นั่งรถวีลแชร์ การดำเนินการวิจัยผู้วิจัยนำรูปแบบกระบวนท่ารำจากนาฏศิลป์ พื้นบ้าน 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ ซึ่งรูปแบบชุดกิจกรรมนาฏศิลป์ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น นำหลักการของกายภาพบำบัดบริหาร โดยขั้นตอนในการออกแบบกิจกรรม ได้แก่ 1. ศึกษาข้อมูล เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง กับนาฏศิลป์ 4 ภาค และวิธีการเสริมสร้างความแข็งแรงและความทนทานของกล้ามเนื้อ 2. ศึกษาข้อมูลเด็กที่มีความบกพร่องทางด้านร่างกายที่นั่งรถวีลแชร์ เพื่อสร้างชุดกิจกรรมให้สอดคล้องและเหมาะสมกับท่านาฏศิลป์และการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ 3. ออกแบบท่าเสริมสร้างกล้ามเนื้อจากท่ารำนาฏศิลป์ทั้ง 4 ภาค ตามคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิ 4. ตรวจสอบเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยโดยผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง พบว่าการคัดเลือกท่านาฏศิลป์ 4 ภาค มาใช้จำนวนภาคละ 8 ท่า รวมทั้งหมด จำนวน 32 ท่า ที่มีลักษณะสอดคล้องกับการสร้างกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดความแข็งแรง และความทนทานกับเด็กที่มีความบกพร่องทางด้านร่างกาย พัฒนา ออกแบบกิจกรรม สู่รูปแบบของแผนกิจกรรม ทั้งสิ้น 4 ชุดกิจกรรม ดังนี้ ชุดกิจกรรมที่ 1 ภาคเหนือพาฟ้อน ชุดกิจกรรมที่ 2 เซิ้งออนซอนภาคอีสาน ชุดกิจกรรมที่ 3 ออกลีลาทำท่าภาคกลาง ชุดกิจกรรมที่ 4 โยกย้ายตามจังหวะภาคใต้
Downloads
เอกสารอ้างอิง
กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ. (2556). คู่มือขอรับบริการสวัสดิการคนพิการ (สำหรับประชาชน). https://dep.go.th/images/uploads/files/o112567.pdf
กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ. (2567). สถานการณ์คนพิการในประเทศไทย. https://dep.go.th/images/uploads/files/31082567.pdf
กรมอนามัย. (2561). การส่งเสริมกิจกรรมของเด็กพิเศษ. กรมอนามัยโลก ส่งเสริมให้คนไทยสุขภาพดี. https://anamai.moph.go.th/th
จริยาวดี สารศรี, ปิยวดี มากพา และ สันทณี เครือขอน. (2566). แนวทางการศึกษานาฏศิลป์ไทยกับการบำบัดภาวะไหล่ห่อคอยื่น จากพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนในเยาวชนไทยยุคปัจจุบัน. วารสารศิลปกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย, 10(2), น. 213-228. https://so02.tci-thaijo.org/index.php/faa/article/view/260302
ชนันญา ประครองญาติ. (2562). การพัฒนาชุดกิจกรรมการละเล่นพื้นบ้านภาคอีสานเพื่อพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 5 (วัดป่าจิตตสามัคคี) สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา. วารสารวิชาการศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์, 6(2), น. 36-47.
บุญประจักษ์ จันทร์วิน. (2562). “โนราบิก”การประยุกต์ศิลปะแดนใต้เพื่อสร้างเสริมสุขภาพสําหรับผู้สูงอายุ. วารสารบัณฑิตศาสน์มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 17(1), น. 159-173. https://so04.tci-thaijo.org/index.php/mgsj/article/view/212462
ประวิทย์ ฤทธิบูลย์. (2558). การศึกษาการใช้นาฎกรรมบำบัดต่อความเครียดของผู้ต้องขังชายแรกเข้าในทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง จังหวัดปทุมธานี. [ปริญญานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ]. หอสมุดกลาง มศว. http://thesis.swu.ac.th/swuthesis/Art_Ed/Pravit_R.pdf
พงศ์ศิริ คำพา. (2559). องค์ประกอบนาฏศิลป์ไทย. องค์ประกอบนาฏศิลป์. https://doubledace147.blogspot.com/2016/03/blog-post_37.html
พเยาว์ พงษ์ศักดิ์ชาติ, ชุติมา มาลัย, นิตติยา น้อยสีภูมิ และ มนัสวี จำปาเทศ. (2562). การส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพตามภูมิปัญญาท้องถิ่น. วารสารพยาบาลทหารบก, 20(3), น. 44-53.
พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550. (2550, 27 กันยายน). ราชกิจจานุเบกษา (เล่ม 124 ตอนที่ 61ก, น. 1-2). https://karunyawet.go.th/law/3498/
พัฒน์ศรุต ช้างนิล, ปิยวดี มากพา และ สันทณี เครือขอน. (2565). การออกแบบกิจกรรมโนราเพื่อพัฒนาการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ของเด็กออทิสติก กรณีศึกษาสถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (สทมส.), 28(3), น. 152-162.
มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ. (ม.ป.ป.). ลูกมีความบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ (Children with Physical and Health Impairments). https://fcdthailand.org/library-type
ระวิวรรณ วรรณวิไชย. (2545). ศิลปะการแสดงพื้นบ้านของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. อ้างถึงใน พฤทธิ์ ศุภเศรษฐศิริ และคณะ (บ.ก.). ระบำ รำ เต้น. กรุงเทพฯ: ไอเดียสแควร์.
ศรินทิพย์ ดวนลี. (ม.ป.ป.). นาฏยศิลป์บำบัด: แนวทางหนึ่งในการรักษา. https://utcc2.utcc.ac.th/humanities_conf/journal_file/0020/Dance%20movement.pdf
อิศราภรณ์ แซ่โง้ว. (2565). การพัฒนากิจกรรมนาฏศิลป์ ไทยโดยใช้หลักการฟ้อนทางภาคเหนือเพื่อแก้ปัญหาผู้ที่มีแนวโน้มเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม [ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ]. หอสมุดกลาง มศว. http://irithesis.swu.ac.th/dspace/bitstream/123456789/2512/1/gs621130140.pdf
BNH Hospital. (ม.ป.ป.). กายภาพบำบัดเพื่อช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ ได้อย่างไร. โรงพยาบาลบีเอ็นเอช BNH Hospital Your Lifetime Healthcare Companion. https://www.bnhhospital.com/th/article/physical-therapy-to-help-recover-from-injuries
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสถาบันวัฒนธรรมและศิลปะ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความทุกบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารสถาบันวัฒนธรรมและศิลปะ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ