แนวทางการศึกษานาฏศิลป์ไทยกับการบำบัดภาวะไหล่ห่อ คอยื่น จากพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนในเยาวชนไทยยุคปัจจุบัน
คำสำคัญ:
นาฏศิลป์บำบัด, ภาวะไหล่ห่อ คอยื่น, พฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนบทคัดย่อ
บทความฉบับนี้เป็นการศึกษารูปแบบการพัฒนาโปรแกรมการเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย และการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ โดยใช้กระบวนท่าจากภูมิปัญญาด้านศิลปะการแสดงนาฏศิลป์ไทย เพื่อนำมาสร้างรูปแบบกระบวนท่าบำบัดแก้ไขภาวะไหล่ห่อ คอยื่น จากพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนของเด็กวัยรุ่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปริญญานิพนธ์ เรื่อง การพัฒนาชุดนาฏกรรมโขนบำบัดต่อภาวะไหล่หอ คอยื่น จากพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนของนักเรียนอายุ 13-15 ปี จากการศึกษาพบว่ากระบวนท่านาฏศิลป์ไทยที่สอดคล้องกับท่ากายภาพบำบัดแก้ไขภาวะไหล่ห่อ คอยื่น ประกอบด้วย ท่านภาพร, ท่าบัวบาน, ท่าแผลงอิทธิ์ และท่าเงื้อ โดยจากการทดสอบพบว่ากระบวนท่าดังกล่าวสามารถกระตุ้นการทำงานของกลุ่มกล้ามเนื้อ คอ หลัง อก และแขนที่ส่งผลต่อการลดภาวะไหล่ห่อ คอยื่นได้ อีกทั้งพบว่าระยะเวลาในการฝึกควรใช้ตั้งแต่ 10 วัน จนถึง 12 เดือน โดยเว้นระยะในการฝึกเป็นสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 60 นาที ทั้งนี้ในท่าที่ใช้การยืดค้าง จะใช้ระยะเวลา 5-30 วินาทีต่อท่า/ครั้ง หากนับเป็นเซตท่า จะต้องปฏิบัติท่าละ 3 เซต เซตละ 8-20 ครั้ง และในชุดกิจกรรมพบว่ามีจำนวนท่าระหว่าง 3-11 ท่า โดยกิจกรรมการเคลื่อนไหวจะแบ่งเป็น 3 ช่วง คือช่วง warmup 10-15 นาที, exercise 30 นาที, cooldown 10-15 นาที
เอกสารอ้างอิง
Boonthonglek, Manoch. “The Giant Khon Show.” Interview by Jariyawadee Sarasri. January, 16, 2020.
มาโนช บุญทองเล็ก. “การแสดงโขนยักษ์.” สัมภาษณ์โดย จริยาวดี สารศรี. 16 มกราคม 2563.
Changnin, Patsaruth. “Designing of Nohra Activities to Physically Develop the Gross Motor Skills of Autistic Children at Rajanukul Institute, Department of Mental Health, Ministry of Public Health.” Master thesis, Srinakharinwirot University, 2020.
พัฒน์ศรุต ช้างนิล. “การศึกษากิจกรรมโนรา เพื่อพัฒนาการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ของเด็กออทิสติก กรณีศึกษา สถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข.” วิทยานิพนธ์ระดับปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2563.
Chuchaiya, Sunisa. “The development of dance therapy activities to assist social adaptation for elderly residents recently moved to the watsanawet social welfare development center for older persons Ayutthaya.” Institute of Culture and Arts Journal Srinakharinwirot University 19, no. 1 (July-December 2017): 166-176.
สุนิสา ชูชัยยะ. “การสร้างกิจกรรมนาฏศิลป์ บำบัดเพื่อช่วยในการปรับตัวทางสังคมของผู้สูงอายุแรกเข้าบ้านพักคนชรา กรณีศึกษา : ศูนย์พัฒนาการจัดการสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา.” วารสารสถาบันวัฒนธรรมและศิลปะ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปีที่ 19, ฉบับที่ 1 (กรกฎาคม-ธันวาคม 2560): 166-176.
Chula-saevok, Yada, Rawiwan Wanwichai, and Sumonratree Nimnetipun. “The therapy development activity of Thai-Puan (Thai folk dance) to solve the problems for the elderly person who has improper and low quality in sleeping.” Institute of Culture and Arts Journal Srinakharinwirot University 19, no. 2 (January-June 2019): 180-192.
ญาดา จุลเสวก, ระวิวรรณ วรรณวิไชย, และ สุมนรตรี นิ่มเนติพันธ์. “การพัฒนากิจกรรมฟ้อนไทยพวนบำบัด ด้วยหลักการแอโรบิค เพื่อแก้ปัญหาของผู้สูงอายุที่มีคุณภาพการนอนหลับไม่ดี.” วารสารสถาบันวัฒนธรรมและศิลปะ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปีที่ 19, ฉบับที่ 2 (มกราคม-มิถุนายน 2562): 180-192.
Chutimakul, Ladawan, Suchitra Sukonthasab, Thanomwong Kritpet, and Chanai Vannalee. “Effect of modified Khon dance performance.” Hindawi 32, no. 6 (May-July 2018): 432-439.
Jaichum, Patcharin, and Tadpong Tantipanjaporn. “Effectiveness of Muscle Stretching with Ergonomics Training Program to Relieve Back Pain and Increase Back Muscle Stretching in Hand Weaving Workers, Mae Rang Sub-district, Pa Sang District, Lamphum Province.” Journal of Science and Technology, Ubon Ratchathani University 20, no. 3 (September-December 2018): 29-39.
พัชรินทร์ ใจจุ้ม และ ทัศน์พงษ์ ตันติปัญจพร. “ประสิทธิผลของการจัดโปรแกรมการยืดเหยียดกล้ามเนื้อร่วมกับการให้ความรู้ด้านการยศาสตร์เพื่อลดอาการปวดเมื่อยหลัง และเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลังของคนงานทอผ้าด้วยมือ ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน.” วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ปีที่ 20, ฉบับที่ 3 (กันยายน-ธันวาคม 2561): 29-39.
Janyacharoen, Taweesak, Chonticha Phusririt, Sariya Angkapattamakul, Cameron P. Hurst, and Kittisak Sawanyawisuth. “Cardiopulmonary effects of traditional thai dance on menopausal women: A randomized controlled trial.” Journal of Physical Therapy Science 27, no. 8 (August 2015): 2569-2572.
Kaewkangwan, Sriruen. Developmental Psychology of Life at All Ages (teenagers-seniors). Bangkok: Thammasat University, 2002.
ศรีเรือน แก้วกังวาน. จิตวิทยาพัฒนาการชีวิตทุกช่วงวัย (วัยรุ่น-วัยสูงอายุ). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2545.
Khongprasert, Surasa, Roongroj Bhidayasiri, and Vijit Kanungsukkasem, “A Thai Dance Exercise Regimen for People with Parkinson's Disease.” Journal of Health Research 26, no. 3 (June 2012): 125-129.
Kongsomchom, Anchalee, and Watchara Sudachom. “Hunchback, Shoulder wrapped up in health dangers near the body.” Siriraj Medical Journal 11, no. 2 (May-August 2018): 125-133.
อัญชลี คงสมชม และ วัชระ สุดาชม. “หลังค่อม ไหล่ห่อภัยสุขภาพร้ายใกล้ตัว.” Siriraj Medical Bulletin ปีที่ 11, ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2561): 125-133.
Kreakhon, Santhanee, and Sirilak Kanjanomai. “Prevalence and Risk Factors of Neck Pain from Smartphone Use in Thai Khlong Luang District Junior High School Students.” Journal of Physical Therapy 38, no. 1 (January-April 2016): 23-32.
สันทณี เครือขอน และ สิริลักษณ์ กาญจโนมัย. “ความชุกและปัจจัยเสี่ยงของอาการปวดคอจากการใช้สมาร์ทโฟนในนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นเขตคลองหลวง.” วารสารกายภาพบำบัด ปีที่ 38, ฉบับที่ 1 (มกราคม-เมษายน 2559): 23-32.
Kosanan, Pattara. “Excessive use of mobile phones, doctors warned of risk of Text Neck Syndome.” https://www.vejthani.com/th/2015/08/text-neck-syndrome/.
ภัทร โฆสานันท์. “เล่นโทรศัพท์มือถือมากเกินไป แพทย์เตือน เสี่ยงเป็น Text Neck Syndrome.” https://www.vejthani.com/th/2015/08/text-neck-syndrome/.
Munkham, Rattana. “Effect of yoka exercise on neck and shoulder pain among computer using office staff.” Master thesis, Chiang Mai University, 2013.
รัตนา มูลคำ. “ผลการออกกำลังกายแบบโยคะต่ออาการปวดคอและไหล่ในพนักงานสำนักงานที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์.” วิทยานิพนธ์ระดับปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2556.
Office of the Health Promotion Fund. “When Thai children use mobile phones the most in the world.” http://resource.thaihealth.or.th/library/hot/12420.
สำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ. “เมื่อเด็กไทยใช้มือถือมากที่สุดในโลก.” http://resource.thaihealth.or.th/library/hot/12420.
Palakul, P. et al. Knon dance: preliminary study of muscle activity by EMG. Bangkok: Department of Physical Therapy, Faculty of Allied Health Sciences, Thammasat University, 2020.
Pienseethong, Kanyawee. “Physical Exercise Through Dance Therapy Activities for Senior Citizens in Thai Puan Community, Nakorn Nayok Province.” Master thesis, Srinakharinwirot University, 2018.
กัญญาวีร์ เปี้ยนสีทอง. “การบริหารกล้ามเนื้อในผู้สูงอายุ โดยใช้กิจกรรมนาฏศิลป์ บำบัดสำหรับชุมชนไทยพวน จังหวัดนครนายก.” วิทยานิพนธ์ระดับปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2561.
Rittibul, Pravit. “A study of the effects of dance therapy on the new male inmates’ stress in the central correction for young offenders, Pathumtani province.” Master thesis, Srinakharinwirot University, 2015.
ประวิทย์ ฤทธิบูลย์. “การศึกษาการใช้นาฎกรรมบำบัดต่อความเครียดของผู้ต้องขังชายแรกเข้าในทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง จังหวัดปทุมธานี.” วิทยานิพนธ์ระดับปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2558.
Saengpoom, Alisa et al. “Effectiveness of Exercise with Contorted Hermit Pose on Neck Muscle Flexibility.” 3rd National Academic Conference and Research Presentation GRADUATE SCHOOL CONFERENCE (2019): 921-927.
อลิษา แสงพุ่ม และคณะ. “การศึกษาประสิทธิผลการออกกำลังกายด้วยท่าฤๅษีดัดตนต่อการยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อคอ.” รายงานการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ ครั้งที่ 3 GRADUATE SCHOOL CONFERENCE (2019): 921-927.
Shete, Mrudula Ganesh, and Ruchita Shah. “Effect of Posture Correction Exercises and Ergonomic Advices in People Having Postural Abnormalities among Chronic Smartphone Users.” International Journal of Health Sciences and Research 9, no. 7 (July 2019): 121-125.
Sooktho, Suparat, Nopparat Songserm, Somkiattiyos Woradet, and Wanich Suksatan. “A Meta-Analysis of the Effects of Dance Programs on Physical Performance: Appropriate Health Promotion for Healthy Older Adults.” Annals of geriatric medicine and research 26, no. 3 (2022): 196-207.
Tansungnoen, Boonruam. “Effects of Physical Resistance Training on Muscular Strength and Endurance.” Master thesis, Srinakharinwirot University, 2003.
บุญร่วม แท่นสูงเนิน. “ผลของการฝึกด้วยวิธีใช้ร่างกายเป็นแรงต้านที่มีต่อความแข็งแรงและความอดทนของกล้ามเนื้อ.” วิทยานิพนธ์ระดับปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2546.
Testhomya, Kodchakon. “The developing of Khon activities to support leadership skills for learners aged 13-15 years old.” Master thesis, Srinakharinwirot University, 2018.
กชกร เทศถมยา. “การพัฒนากิจกรรมโขนเพื่อส่งเสริมภาวะผู้นำ สำหรับผู้เรียนอายุ 13-15 ปี.” วิทยานิพนธ์ระดับปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2561.
Thanasomboonpan, Natapol, Rungkarn Boonpiyawong, and Chaiyong Jorrakate. “How to prevent neck pain from smartphone overuse.” Siriraj Medical Journal 13, no. 2 (April-June 2020): 113-119.
ณฐพล ธนสมบูรณ์พันธุ์, รุ่งการต์ บุญปิยางศ์ และ ไชยยง จรเกตุ. “รู้ทันการใช้สมาร์ทโฟนก่อนเกิดปัญหาปวดคอ.” เวชบันทึกศิริราช ปีที่ 13, ฉบับที่ 2 (เมษายน-มิถุนายน 2563): 113-119.
Wongtra-ngan, Nitinat, Pakorn Wivatvongvana, and Apichana Kovindha. “The Modified Prasit Thai Upper Extremities Exerecises in Patients with Neck and Shoulder Pain: a Pilot Study.” ASEAN Journal of Rehabilitation Medicine 19, no. 3 (September-December 2009): 79-85.
นิตินาถ วงษ์ตระหง่าน, ปกรณ์ วิวัฒน์วงศ์วนา, และ อภิชนา โฆวินทะ. “การบริหารแขนท่าประสิทธิ์ไทยประยุกต์ต่อผู้ป่วยที่มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณคอและบ่า : การศึกษานำร่อง.” เวชศาสตร์ฟื้นฟูสาร ปีที่ 19, ฉบับที่ 3 (กันยายน-ธันวาคม 2552): 79-85.
World Health Organization. “Global Recommendations on Physical Activity For Health (2010).” https://www.who.int/publications/i/item/9789241599979.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 JARIYAWADEE SARASRI, PIYAWADEE MAKPA, SANTHANEE KHRUAKHORN
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ของบทความเป็นของเจ้าของบทความ บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นทัศนะของผู้เขียน
กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยและไม่รับผิดชอบต่อบทความนั้น
