การแสดงอัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์ของชาวไทยมุสลิมผ่านทางสถาปัตยกรรมมัสยิด
DOI:
https://doi.org/10.69598/sbjfa171269คำสำคัญ:
มัสยิด, สถาปัตยกรรมอิสลาม, ศิลปะอิสลาม, มุสลิม, กลุ่มชาติพันธุ์บทคัดย่อ
ปัจจุบันประชากรมุสลิมในประเทศไทยประกอบด้วย 6 กลุ่มชาติพันธุ์ ได้แก่ มุสลิมเชื้อสายอาหรับ-เปอร์เซีย, มุสลิมเชื้อสายมลายู, มุสลิมเชื้อสายอินเดีย-ปากีสถาน-บังคลาเทศ, มุสลิมเชื้อสายชวา, มุสลิมเชื้อสายจาม และมุสลิมเชื้อสายจีน ชนมุสลิมสามารถปรับตัวให้เข้ากับวิถีของสังคมไทย ขณะเดียวกันก็ดำรงอัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์ของตนไว้โดยแสดงออกผ่านทางมัสยิด
จากการศึกษาพบว่าปัจจัยที่ส่งผลให้มุสลิมในประเทศไทยนำเสนอลักษณะทางเชื้อชาติของตนผ่านทางมัสยิดได้แก่ การติดต่อกับนานาชาติ, การพัฒนาสถานภาพและการศึกษาของชุมชนมุสลิม และความต้องการดำรงอัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์และความเชื่อ มุสลิมสร้างมัสยิดโดยนำแรงบันดาลใจมาจากมัสยิดสำคัญในประวัติศาสตร์ เช่น ชาวอินเดียอิงรูปแบบจากมัสยิดกลางสมัยราชวงศ์โมกุล, มัสยิดในภูมิลำเนาเดิม เช่น ชาวเปอร์เซียนำต้นแบบมาจากสถาปัตยกรรมทางตอนเหนือของอิหร่าน และมัสยิดแบบที่เป็นที่นิยมในประเทศต้นกำเนิดของตน เช่น ชาวมลายูจำลองแบบมัสยิดจากสถาปัตยกรรมอาณานิคมในมาเลเซีย ช่วงเวลาที่พบการสร้างมัสยิดที่สื่อถึงอัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์ของมุสลิมเริ่มตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และพัฒนาขึ้นสูงสุดในสมัยรัชกาลที่ 5 จากนั้นก็เสื่อมความนิยมลง ก่อนจะหวนกลับมาอีกครั้งในช่วง พ.ศ. 2500 ส่วนพื้นที่ที่พบมัสยิดที่แสดงเอกลักษณ์ทางชาติพันธุ์ของมุสลิมได้แก่ กรุงเทพมหานคร ภาคใต้ตอนล่าง และภาคเหนือตอนบน มุสลิมแต่ละกลุ่มถ่ายทอดอัตลักษณ์ของตนในมัสยิดด้วยวิธีที่แตกต่างกัน แต่ต่างก็มุ่งนำเสนอเอกลักษณ์ของตนผ่านองค์ประกอบที่โดดเด่นของมัสยิดเพื่อให้ผู้คนรับรู้ได้ตั้งแต่แรกเห็น เพื่อแสดงความดำรงอยู่ของตนในสังคมไทย
Downloads
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความนี้อยู่ภายใต้สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ CC BY 4.0
ทัศนะและข้อคิดเห็นในบทความเป็นของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นพ้อง และไม่รับผิดชอบต่อข้อคิดเห็นเหล่านั้น




