เปิดประตูสู่ประวัติศาสตร์: การเรียนรู้เชิงพื้นที่ในพระนครศรีอยุธยา

Main Article Content

พันธกานต์ ดวงงา

บทคัดย่อ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อนำเสนอแนวคิดและผลลัพธ์ของการบูรณาการ “การเรียนรู้เชิงพื้นที่” เข้ากับการสอนวิชาประวัติศาสตร์ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพระนครศรีอยุธยา การเรียนรู้เชิงพื้นที่ในบริบทของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คือการใช้พื้นที่เป็นเครื่องมือและแหล่งเรียนรู้หลัก โดยเน้นการทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ สถานที่ สิ่งแวดล้อม และปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่นั้น ๆ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเปรียบเสมือนห้องเรียน ขนาดใหญ่ที่มีชีวิต นักเรียนสามารถลงพื้นที่สำรวจ และสัมผัสกับโบราณสถาน โบราณวัตถุ และพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ การได้เห็นสถานที่จริงที่เคยเป็นฉากเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ ทำให้การเรียนรู้เป็นรูปธรรมและน่าสนใจยิ่งขึ้น การเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์แบบเดิม ที่เน้นการท่องจำเนื้อหาจากตำราเพียงอย่างเดียวไม่สามารถตอบโจทย์การพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนได้ ทั้งนี้ได้มีแนวทางในการพลิกโฉมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ให้มีชีวิตชีวาและมีความหมายผ่านกิจกรรมต่าง ๆ การเรียนรู้เชิงพื้นที่จะช่วยให้นักเรียนเกิดความเข้าใจประวัติศาสตร์อย่างลึกซึ้ง เชื่อมโยงความรู้ในห้องเรียนกับความเป็นจริงได้ และยังเป็นการปลูกฝังความตระหนักในคุณค่า ของมรดกทางวัฒนธรรมและสร้างความภาคภูมิใจในท้องถิ่นของตนเอง บทความนี้จึงชี้ให้เห็นว่าการเรียนรู้จากแหล่งประวัติศาสตร์ในท้องถิ่นเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาการศึกษาประวัติศาสตร์ ให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิชาการ

เอกสารอ้างอิง

กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา. (29 พฤศจิกายน 2565). How to เรียน ‘ประวัติศาสตร์’ ใน ศตวรรษที่ 21 สร้าง ‘ความรักในการเรียนรู้’ จากเรื่องราวใกล้ตัว เพื่อเติบโตเป็นนักค้นคว้า และแสวงหา‘ข้อเท็จจริง’. https://www.eef.or.th/tsqp-291122/

กิตติศักดิ์ ลักษณา. (2559). การพัฒนาการคิดทางประวัติศาสตร์ : การคิดเกี่ยวกับความสำคัญทางประวัติศาสตร์. วารสารศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, 12(2), 137–158.

ชนพล รุจิขวัญ, ธีรวุฒิ กล่อมจิตร์, และ ทวิภรณ์ สายจันทร์. (2568). การเรียนรู้แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น. [ภาพถ่าย]. ผู้จัดทำ.

ชรินทร์ มั่งคั่ง, กฤติภัทร สระทองชุน, และพิมพา นวลสวรรค์. (2568). ปฏิทรรศน์การสอนประวัติศาสตร์ไทยในโรงเรียนชายขอบพื้นที่เชียงใหม่. วารสารสังคมวิจัยและพัฒนา, 7(3), 190-210.

ธราพงษ์ การกระโทก, ศักดิ์ดา ทองโสภณ และศุภชัย สมนวล. นวัตกรรมทางการศึกษาสำหรับวิชาประวัติศาสตร์ไทย. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 35(3), 15-31.

นนท์ธยา วาทกุลชร. (2564). กิจกรรมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในพื้นที่เมืองเก่าน่านโดยใช้กระบวนการสืบสอบร่วมกับแนวคิดเกมมิฟิเคชันสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร จังหวัดน่าน. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยนเรศวร]. https://nuir.lib.nu.ac.th/ dspace/bitstream/123456789/6346/3/ NontayaWartkunchorn.pdf

ปิยะดา เนียมสุวรรณ. (2564). การศึกษาการจัดการการเรียนการสอนเพื่อเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในรูปแบบวิถีชีวิตใหม่. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยมหิดล.

วุฒิชัย เทียมยศ และอนัน ปั้นอินทร์. (2565). การจัดการเรียนรู้ท้องถิ่นศึกษา โดยใช้ชุมชนเป็นฐานร่วมกับสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, 16(3), 195-211.

สถาบันสังคมศึกษา สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.(2563). การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่ 2). โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

สุไรยา หมะจิ, จุฑารัตน์ คชรัตน์, และเก็ตถวา บุญปราการ. (2563, 17 กรกฎาคม). สภาพและปัญหาการจัดการเรียนรู้รายวิชาวิชาประวัติศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเอกชนในสังกัดสำนักงานศึกษาธิการ อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช. การประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 11. (หน้า 639-650). มหาวิทยาลัยหาดใหญ่

อนุชิดา สุระมิตร, วศิน ปัญญาวุธตระกูล, และอัจฉรา ศรีพันธ์. (2568). รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปราสาทศรีพฤทเธศวรเป็นฐานเพื่อพัฒนาความฉลาดรู้ทางวัฒนธรรมของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในจังหวัดศรีสะเกษ. Journal of Buddhist Education and Research, 11(1), 224-237.