การศึกษาบริบทของชุมชนในการคำนวณต้นทุนการผลิตข้าว อินทรีย์ในจังหวัดอุบลราชธานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบริบทของชุมชนในการคำนวณต้นทุนการผลิตข้าวอินทรีย์ในจังหวัดอุบลราชธานี โดยใช้วิธีการเลือกตัวอย่างแบบเจาะจงและดำเนินการวิจัยแบบมีส่วนร่วมกับเกษตรกร 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มบ้านราษฎร์เจริญ ตำบลท่าลาด อำเภอวารินชำราบ และกลุ่มบ้านทองหลาง ตำบลท่าโพธิ์ศรี อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งทั้งสองกลุ่มได้ดำเนินกิจกรรมการเพาะปลูกข้าวอินทรีย์ปลอดสารพิษและขายข้าวหอมมะลิปลอดสารพิษซึ่งเป็นสินค้า OTOP ระดับ 5 ดาวของจังหวัดอุบลราชธานี งานวิจัยนี้มีขอบเขตการศึกษาคือ การศึกษาบริบทของชุมชนในการคำนวณต้นทุนสินค้าเกษตรอินทรีย์ และให้กลุ่มเกษตรกรมีส่วนร่วมในการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกับนักวิจัย ผลการศึกษาพบว่าปัญหาของเกษตรกรที่สำคัญคือการที่เกษตรกรไม่ทราบต้นทุนการผลิตที่แท้จริง กล่าวคือเกษตรกรส่วนใหญ่คำนวณต้นทุนการผลิตโดยเน้นที่ต้นทุนผันแปรเท่านั้น และยังมีเกษตรกรบางส่วนที่ยังไม่เข้าใจว่าการใช้แรงงานในครัวเรือนก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนการผลิตเช่น เดียวกัน ทำให้ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรต่ำกว่าต้นทุนการผลิตที่แท้จริง
This research aimed to study the context of the community in terms of calculation of the cost of production for organic rice in Ubon Ratchathani province by using purposive sampling method and participatory action research (PAR) with 2 groups who have been cultivating organic rice and have 5-star OTOP product of the province; which were farmers from Ban Rat Jareon, Tha Rat Tambon, Amphoe Warinchamrap and Ban Thong Khang, Tha Pho Sri Tambon, Amphoe Det Udom. This research focused in studying communities’ context in terms of cost of production of organic rice by collecting and analyzing data with the farmers from both groups. It turned out that the important problem was the farmers didn’t know the true cost of production. Most farmers concerned only variable cost and part of them didn’t realize that labor in the household was also included in cost of production. As a result, production costs were lower than actual.
Article Details
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว