การวิเคราะห์ทางสถิติของข้อมูลพื้นฐานขนาดใหญ่เกี่ยวกับการชันสูตรพลิกศพ ในสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจปี 2561
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
ข้อมูลทางสถิติด้านชันสูตรพลิกศพเป็นข้อมูลพื้นฐานในการค้นหาสาเหตุการตาย โดยเก็บข้อมูลที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจในปี 2561 จำนวน 5,612 ราย จากหนังสือรับรองการตาย นำมาเข้ารหัสและประมวลผลด้วย Microsoft excel Pivot table และ Pivot chart นำเสนอข้อมูลผ่านโปรแกรม Dashboard จัดข้อมูลเป็นหมวดหมู่ เพศ อายุ จังหวัด ประเทศ พฤติการณ์การตายเป็นต้น พบว่าอายุระหว่าง 51-60 ปีมีอัตราการตายมากที่สุด พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง ตายผิดธรรมชาติ 91% จากจำนวน 5,121 ราย แบ่งเป็นตายแบบไม่ทราบสาเหตุ 65% ถูกฆ่าตาย 3% อุบัติเหตุ 26% จากจำนวนอุบัติเหตุ 1,306 ราย ส่วนใหญ่เป็นอุบัติเหตุจราจร 74% และฆ่าตัวตาย 6% จากจำนวนฆ่าตัวตาย 286 ราย ใช้วิธีผูกคอตายด้วยเชือกมากที่สุด 89% และฆ่าตัวตายจากสารพิษ 3% นอกจากนี้ เป็นการตายตามธรรมชาติจำนวน 491 ราย (ร้อยละ 9%) พบว่ากลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุสำคัญ 59% รองลงมาคือกลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ 22% แพทย์ส่งตรวจวิเคราะห์ในรูปแบบหาสารพิษร่วมกับจุลพยาธิมากที่สุด76% โดยพื้นที่บก.น. 4 ส่งชันสูตรพลิกศพมากที่สุด และจังหวัดสมุทรปราการส่งชันสูตรพลิกศพมากที่สุดเป็นสัญชาติเมียนมาดังนั้นจึงสรุปได้ว่าสามารถนำข้อมูลพื้นฐานขนาดใหญ่เกี่ยวกับการชันสูตรพลิกศพที่นำเสนอผ่านรูปแบบ Dashboard มาใช้เพื่อพยากรณ์สาเหตุการตาย หรือ พฤติการณ์การตายในคดีต่าง ๆ ได้ และนำมาใช้ในด้านสาธารณสุขเพื่อลดอัตราการตายจากโรคประจำตัว รวมถึงเป็นแนวทางเพื่อวางแผนด้านยุทธศาสตร์ในการพัฒนางานของหน่วยงานต่อไป
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ใน วารสารวิชาการอาชญาวิทยาและนิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ถิอว่าเป็นข้อคิดเห็นและความรั้บผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน วารสารวิชาการอาชญาวิทยาและนิติวิทยาศาสตร์ ถือว่าเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร วารสารวิชาการอาชญาวิทยาและนิติวิทยาศาสตร์ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก วารสารวิชาการอาชญาวิทยาและนิติวิทยาศาสตร์ ก่อนเท่านั้น
References
Boonluk, S. (2004). Database of Autopsy in Forensic Medicine Department of Khonkean University from 1998 to 2002.Chulalongkorn Medical Journal. 48(11), 767-775. (In Thai)
Dancho, P. D., Ivan, N. I., Sergey, D. K., Savelina, L. P., Petko, I. L., & Plamen, D. D. (2016). Statistical Analysis of the Forensic Autopsies, Performed in the Department of Forensic Medicine of University Hospital-Pleven for the period 2009-2013. Journal of Biomedical and Clinical Research, 9(1), 30-36. https://bit.ly/3wbtD6H
Ekaterina, O., Aleksandra, O., Yevgeni, K., & Thomas, O. (2015). Visualizing Big Data. Springer International Publishing, 2(22), 101-103. https://bit.ly/387onZL
Ji, H. P., Joo, Y. N., Bong, W. L., Nak, E. C., & Yong, S. H. (2016). A Statistical Analysis on Forensic Autopsies Performed in Korea in 2015. Korean Journal of Legal Medicine, (40), 104-108. https://bit.ly/3kJNdBt
Lefevre, T. (2017). Big Data in Forensic Science and Medicine. Journal of Forensic and Legal Medicine, 8(1), 1-17. https://bit.ly/3wb9hdA
Royal Thai Police. (2000). Regulation of the Royal Thai Police on Autopsy. Code of Police Regulation on Lawsuit, (6), 149-171. https://bit.ly/3hHE3nS
Techsauce. (2020). Get to Know Dashboard. Techsauce Knowledge Sharing Platform, https://techsauce.co/tech-and-biz/what-is-dashboard.