ทดสอบการสร้างบทสำหรับการแสดง สีดา-ศรีราม? ด้วยมุมมองของการทำวิจัยเชิงปฏิบัติการ
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความนี้ทดลองนำข้อมูลในการสร้างบทละครจากโครงการวิจัยเรื่อง สีดา - ศรีราม? มาเรียบเรียงใหม่ โดยเน้นที่กระบวนการทำวิจัยเชิงปฏิบัติการ แนวทางการทำงาน มี 4 ขั้นตอนได้แก่ 1) การรื้อสร้างบทวรรณกรรมดั้งเดิม 2) มุ่งศึกษาและใช้จินตนาการเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลที่คัดสรรไว้ 3) เชื่อมต่อข้อมูลจากเรื่องเดิม คู่ขนานกับเรื่องราวของผู้คนและเหตุการณ์ปัจจุบัน และ 4) สร้างบทการแสดงจากการทำงานกับเรื่องราวที่คู่ขนานกัน โดยเลือก นำเสนอเหตุการณ์ที่มีในปัจจุบันกับผู้คนและเรื่องราวที่คู่ขนานกัน
ผู้วิจัยนำเรื่องราวของผู้หญิงจากข่าวหนังสือพิมพ์รายวัน แบบสอบถาม และบทสัมภาษณ์ผู้หญิงในการทำวิจัยขนาดเล็กมาประมวลและเรียบเรียงตามลำดับเหตุการณ์ที่มีนางสีดาปรากฏในเรื่องเดิม ต่อจากนั้น ผู้วิจัยและ นักแสดงได้ร่วมกันพัฒนาบทใหม่ที่เรียกว่า สีดา - ศรีราม? อันเป็นบทละครจากการทำงานแบบมีส่วนร่วมที่ ทุกคนร่วมกันสะท้อนทัศนะ ความคิดเห็นในระหว่างกระบวนการฝึกซ้อม ละครจึงเป็นสุ้มเสียงของผู้หญิงแบบนางสีดาที่ซ่อนอยู่ในสังคม และเล่าผ่านมุมมองของเธอ
ผลงานที่เป็นบทชิ้นนี้ช่วยให้การแสดงสามารถเล่าเรื่องที่พ้องกันข้ามไปมาระหว่างพื้นที่ในตำนานและความเป็นจริงในขณะนั้น ละครช่วยให้ผู้ชมได้ตระหนักถึงบทบาทของผู้หญิงที่ถูกละเลยในสังคม การทำลายสิทธิขั้นพื้นฐานและบทบาทของเธอในครอบครัว กระบวนการสร้างงานยังนำเสนอแนวคิดทางศิลปะ และแนวทางในการกำกับการแสดง ที่สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองที่มีความหลากหลายของการสร้างผลงานชุดนี้ที่เป็นบทเพื่อการแสดง
ผู้วิจัยนำเรื่องราวของผู้หญิงจากข่าวหนังสือพิมพ์รายวัน แบบสอบถาม และบทสัมภาษณ์ผู้หญิงในการทำวิจัยขนาดเล็กมาประมวลและเรียบเรียงตามลำดับเหตุการณ์ที่มีนางสีดาปรากฏในเรื่องเดิม ต่อจากนั้น ผู้วิจัยและนักแสดงได้ร่วมกันพัฒนาบทใหม่ที่เรียกว่า สีดา-ศรีราม? อันเป็นบทละครจากการทำงานแบบมีส่วนร่วมที่ทุกคนร่วมกันสะท้อนทัศนะ ความคิดเห็นในระหว่างกระบวนการฝึกซ้อม ละครจึงเป็นสุ้มเสียงของผู้หญิงแบบนางสีดาที่ซ่อนอยู่ในสังคม และเล่าผ่านมุมมองของเธอ
ผลงานที่เป็นบทชิ้นนี้ช่วยให้การแสดงสามารถเล่าเรื่องที่พ้องกันข้ามไปมาระหว่างพื้นที่ในตำนานและความเป็นจริงในขณะนั้น ละครช่วยให้ผู้ชมได้ตระหนักถึงบทบาทของผู้หญิงที่ถูกละเลยในสังคม การทำลายสิทธิขั้นพื้นฐานและบทบาทของเธอในครอบครัว กระบวนการสร้างงานยังนำเสนอแนวคิดทางศิลปะ และแนวทางในการกำกับการแสดง ที่สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองที่ความหลากหลายของการสร้างผลงานนี้ที่เป็นบทเพื่อการแสดง
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
Auslander, P. (2008). Theory for Performance Studies. London: Routledge.
Chantavanich, S. (2012). Sociological Theory. Bangkok: Chulalongkorn University Press.
Damrhung, P. (2021). Wí-Jai Gaan Sà-Daeng Sâang Kwaam Róo Mài Dûuay Gaan Tam Lá-Kon [Performance Research: Developing New Knowledge through Performance Practice] . Nonthaburi: Parbpim, p. 140 – 142.
Damrhung, P. (2010). Sĕe Daa Lâo Rêuuang Kŏng Rao [Seeda Tells our Stories]. Wipasa, 3(8). 17-26. https://lib.sac.or.th/catalog/ArticleItem.aspx?JMarcID=j00030712.
Damrhung, P. (2006). Rư̄ang Kao Lao Mai Sī: Sīdā - Sī Rām? [Legends Retold 4 Sita: The Honor of Ram?] [Thesis]. Thailand Science Research and Innovation. https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:86085.
Lim, L. (2007). Ramayana Across Asia. Center for Southeast Asian Studies, Winter 2007. p. 6-7. https://lsa.umich.edu/content/dam/cseas-assets/cseas-documents/Newsletters/cseasNewsletter-07W.pdf.
Richman, P. (2000). Questioning Rama: A South Asian. Los Angeles: University of California Press.
Richman, P. (1991). Many Ramayana: Diversity of Narrative Tradition in South Asia. Los Angeles: University of California Press.
Shepherd, S. and Wallis, M. (2004). Drama Theatre/Performance. London: Routledge.