การพัฒนาระบบการเรียนรู้เรื่องโขน
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้ใช้แบบแผนการวิจัยเชิงทดลองในรูปแบบ One Group Pretest Posttest Design ใช้วิธีการแบบผสมระหว่างวิธีการเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ โดยใช้เครื่องมือ 1) บทเรียนเรื่องรามเกียรติ์ 2) ระบบจัดการเรียนรู้โขน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ 4) แบบประเมินคุณภาพ และความพึงพอใจ ในการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลกระทำ โดย 1) สำรวจข้อมูลด้านรามเกียรติ์จากเอกสาร และสารสนเทศ เพื่อกำหนดแนวทางในการศึกษา 2) ขั้นเก็บรวบรวมข้อมูลภาคสนาม (1) ถ่ายภาพนิ่งจิตรกรรมฝาผนังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม จัดทำเป็นภาพกราฟิก และบันทึกเสียงบรรยายเรื่องรามเกียรติ์เพื่อจัดทำเป็นคลิปวิดีโอ (2) วิเคราะห์เรื่องรามเกียรติ์เพื่อจัดทำแบบทดสอบก่อนและหลังเรียน (3) การสร้างระบบการเรียนรู้สำหรับผู้สอน วิเคราะห์ระบบ และออกแบบระบบฐานข้อมูล (4) ส่งแบบประเมินด้านคุณภาพและความพึงพอใจ สำหรับกลุ่มตัวอย่างผู้วิจัยเลือกแบบเฉพาะเจาะจงจากกลุ่มนักศึกษา สาขาวิชานาฏศิลป์และการแสดง มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ที่ลงเรียนวิชาโขน จำนวน 15 คน
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1. วิเคราะห์เรื่องรามเกียรติ์ 2. พัฒนาระบบการเรียนรู้เรื่องโขนเพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเอง 3. เพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโขนเรื่องรามเกียรติ์
ผลวิจัยพบว่า 1. ข้อมูลพื้นฐานของเรื่องรามเกียรติ์ ผู้วิจัยได้วางขอบเขตของเนื้อหาตั้งแต่เริ่มเรื่องรามเกียรติ์ จนถึงช่วงทศกัณฐ์สิ้นชีพสามารถแบ่งออกเป็น 7 ช่วง ดังนี้ (1) ปฐมเหตุแห่งรามเกียรติ์ (2) เริ่มเรื่องรามเกียรติ์ (3) พระราม พระลักษมณ์ นางสีดา ออกบวช (4) เริ่มจัดตั้งกองทัพ (5) เดินทางเข้าสู่ลงกา (6) ศึกพญายักษ์ (7) ทศกัณฐ์ออกรบ 2. การจัดทำระบบการเรียนรู้ เรื่องรามเกียรติ์ใช้เว็บแอปพลิเคชัน (Web application) ประกอบด้วย (1) กระดานข่าว (2) แบบทดสอบ ก่อนเรียนและหลังเรียน (3) บทเรียน โดยนำผลวิจัยจากข้อที่ 1 3. การประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการเรียนรู้ผ่านระบบจัดการเรียนรู้เรื่องรามเกียรติ์ พบว่า คะแนนก่อนสอบของนักศึกษามีคะแนนค่าเฉลี่ยเท่ากับ 62.67 ส่วนคะแนนหลังจากเรียนรู้ผ่านระบบมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 123.80 เมื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาที่ได้ใช้ระบบการเรียนรู้โขนเรื่องรามเกียรติ์สูงกว่าก่อนเรียนที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 นอกจากนี้ผลการประเมินคุณภาพและความพึงพอใจของระบบการเรียนรู้โขนเรื่องรามเกียรติ์ ผลการประเมินทั้ง 2 ด้านโดยภาพรวมทั้งหมดอยู่ในระดับมาก
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
Chailapo, T. “Kān Phatthanā Sư̄ botrīan ʻō̜nlai rư̄ang: Kānʻō̜kbǣp Phư̄a Kān Phalit Sư̄ Pati Samphan Læ Mantimīdīa. [Online Learning Media Development : Design for Interactive Media Production].” The journal of social communication innovation 4, no. 2 (July/December 2016): 137.
Ineye, P. “Kān Phatthanā Chut Kānsō̜n Dūai Thēknōlōyīʻō̜k Mēn Tet Rīanlitī Rư̄ang Rāmmakīan Tō̜n Sưk Mai Yarāp Samrap Nakrīan Matthayaō Sưksā Pī Thī Nưng. [The Development of Instructional Package with Augmented Reality Technology about the Ramayana (Maiyalarb Battle) for Mattayomsuksa 1].” Journal of Education Naresuan University 19, no. 2 (April /June 2017): 159.
Iramaneerat, C. “Kān Wikhro̜ Khō̜sō̜p Pō̜ranai. [Item analysis].” Siriraj Medical Bulletin 2, no. 1 (January/April 2009): 32 - 33.
Julwong, S. “Khūmư̄ Kānwičhai: Kān Khīan Rāingān Kānwičhai Læ Witthayāniphon. [The world of Ramakien].” Journal of Liberal Arts 1, no. 1 (January/June 2001): 61 - 76.
Kitpreedaborisut, B. Khūmư̄ Kānwičhai: Kān Khīan Rāingān Kānwičhai Læ Witthayāniphon. [Research Manual: The Writing for Research Report and Thesis]. Bangkok: Jamjuree Product, 2010.
Kodarsa, W. “Khrū Mư̄ʻāchīp: Nak ʻō̜k Bǣp Rabop Kānrīanrū. [Professional teacher: Learning system designer].” Journal of Education Studies 4, no. 4 (February 2004): 31 - 36.
Promthong, J. “Phāsā Thī Sathō̜n Thamma Khō̜ng Phra Rām Kap Phāsā Thī Sathō̜n ʻatham Khō̜ng Thotsakan Čhāk Bot Lakhō̜n Rư̄ang Rāmmakīan Phrarātchaniphon Nai Ratchakān Thī Nưng. [Language reflects Dhamma of Rama with Language reflects evil of Ravana from Ramayana under King Rama I Royal Work].” Narkbhut Paritat Journal 10, no. 1 (January/June 2018): 117.
Siriwat, A. “Suntharīyaphāp bot khōn rư̄ang Rāmmakīan. [Aesthetics of the Ramayana masked play scripts].” Ganesha Journal 8, no. 1 (January/June 2012): 53 - 57.