“ถนนพระร่วง” การสร้างสรรค์ประติมากรรมร่วมสมัยด้วยการต่อยอดอดีต

บทคัดย่อ

“ถนนพระร่วง” การสร้างสรรค์ประติมากรรมร่วมสมัยด้วยการต่อยอดอดีต มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาและวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างประวัติศาสตร์ของเส้นทางถนนพระร่วง กับบริบททางสังคมในชุมชนสำคัญบนพื้นที่เส้นทางถนนพระร่วงในปัจจุบัน 2) สร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมร่วมสมัย 1 ชุด (อย่างน้อย 5 ผลงาน) และ 3) เผยแพร่ผลงานการสร้างสรรค์สู่สาธารณะ ผ่านการจัดแสดงผลงานมีวิธีดำเนินงานด้วยการศึกษาค้นคว้าเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ควบคู่ไปกับการสำรวจพื้นที่บนเส้นทางถนนพระร่วง ช่วงตั้งแต่เขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ลงไปทางใต้ถึงอำเภอพรานกระต่าย และการสัมภาษณ์ชาวบ้านในพื้นที่ แล้วจึงวิเคราะห์เชื่อมโยงไปสู่การสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรม และการนำเสนอเพื่อเผยแพร่ผลงาน

ผลการศึกษาวิเคราะห์ตามวัตถุประสงค์แรกนำไปสู่แนวคิดและกระบวนการสร้างสรรค์ผลงานตามวัตถุประสงค์ที่สองอย่างเหมาะสมสอดคล้องกับพื้นที่การวิจัยหมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผาทุ่งหลวง อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย ซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้สร้างสรรค์ในเชิงประวัติศาสตร์ ความทรงจำ ความประทับใจ และจินตนาการที่สืบทอดจากอดีตสู่ปัจจุบัน ผ่านการสัญจรด้วยเส้นทางถนนพระร่วงที่เชื่อมอาณาจักรสุโขทัยกับเมืองกำแพงเพชรในอดีต และยังคงเป็นเส้นทางสัญจรที่เชื่อมระหว่างชุมชนอยู่เช่นเดิม จึงนำเรื่องราวจากประสบการณ์และความทรงจำ ที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างชาวบ้านต่างหมู่บ้านผ่านวิถีชีวิต และการหวนระลึกด้วยการเล่าถึงประสบการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกัน เป็นตัวนำไปสู่การสร้างเนื้อหา รูปทรง และรูปแบบผลงาน ด้วยการใช้วัสดุและเทคนิคการผลิตเครื่องปั้นดินเผาบ้านทุ่งหลวง เป็นส่วนสำคัญในการสร้างผลงานชุดนี้ ร่วมกับเทคนิคทางประติมากรรมอื่น ๆ ทั้งนี้ ทำให้ได้ผลงานประติมากรรมเดี่ยว 8 ผลงาน และอีก 1 ชุดผลงาน (300 ชิ้น)

การเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะทำผ่านนิทรรศการชื่อ “หวนคนึงหา” (Reminiscence) ณ ศูนย์ศิลปะตูดยุง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยภัณฑารักษ์ชาวฝรั่งเศส แมคเทีย ทิเบอร์แรง (Myrtille Tibayrenc) ระหว่างวันที่ 6 เมษายน ถึง 27 กรกฎาคม 2562 และผ่านสื่อออนไลน์และสิ่งพิมพ์ภาษาไทย อังกฤษ และฝรั่งเศส ทำให้การเผยแพร่ผลงานทำได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น ได้รับความสนใจจากผู้ชมและนักสะสมทั้งชาวไทยและต่างชาติทำให้การสร้างสรรค์ผลงานชุดนี้บรรลุตามเจตนาและวัตถุประสงค์ครบทั้งสามประการ