เปิดภาพส่องเมืองผ่านเรื่องศิลปะชุมชน

Main Article Content

นิธิศ วนิชบูรณ์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการในชุมชนแบบมีส่วนร่วมที่มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อเป็นการนำวิธีการทางศิลปะอันเปรียบเสมือนเครื่องมือมาใช้ในการค้นหาเชื่อมโยงวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นอันนำไปสู่การพัฒนาชุมชนไม่ว่าจะเป็นการสร้างอัตลักษณ์การสร้างภาพลักษณ์และปรับปรุงทัศนียภาพในเขตเทศบาลตำบลแม่กาให้เป็นที่น่าสนใจยิ่งขึ้น (2) เพื่อค้นหาลักษณะพิเศษเชิงศิลปวัฒนธรรมในชุมชนและทำการประชาสัมพันธ์เพื่อนำไปสู่การส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตเทศบาลตำบลแม่กาและพื้นที่ใกล้เคียงด้วยการลงพื้นที่เก็บข้อมูลหลากหลายวิธี เช่น การพูดคุยสัมภาษณ์ผู้คนในเขตชุมชนที่ทำการวิจัย การสังเกตการณ์ การจัดสัมมนาพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การตั้งศูนย์บริการให้ความรู้เรื่องศิลปะชุมชน การสำรวจ และการถ่ายภาพ



ขอบเขตที่ศึกษาจะเป็นเรื่องของวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในชุมชน เช่น อาหารการกิน พันธุ์พืช สมุนไพร พิธีกรรมความเชื่อ การทำการเกษตรหรือแม้แต่ประวัติศาสตร์ ภูมิหลังของชุมชน หลังจากได้ข้อมูลที่หลากหลายเหล่านี้มาแล้วจึงมาถึงกระบวนการจัดการนำเสนอโดยใช้รูปแบบงานศิลปะในชุมชน (Community Art) โดยในแต่ละหัวข้อจะถูกจัดแสดงเป็นนิทรรศการศิลปะและกิจกรรมเพื่อให้ผู้ที่สนใจทั้งภายนอกและภายในได้เข้ามามีส่วนร่วมในช่วงที่มีการจัดการแสดงเพื่อเป็นการเผยแพร่ถึงเรื่องราวข้อมูลต่างๆที่ผู้คนมักมองข้ามและยังเป็นการรวบรวมบันทึกเรื่องราวข้อมูลต่างๆ ของชุมชนที่ไม่ได้รับการบันทึกและมีแนวโน้มที่กำลังจะสูญหายไป อีกทั้งการจัดนิทรรศการทางศิลปะในชุมชนยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในชุมชนได้อีกทางหนึ่ง


ถึงแม้ว่าข้อมูลและผลจากการวิจัยในครั้งนี้ไม่อาจจะเปลี่ยนเป็นคุณค่าในเชิงพาณิชย์ได้แต่ในแง่ของการเก็บรวบรวมข้อมูลในชุมชนที่ไม่เคยถูกจัดเก็บค้นคว้าและจัดแสดงมาก่อนได้ส่งผลให้เห็นถึงรากฐานและคุณค่าในเชิงศิลปวัฒนธรรมอันนำไปสู่ความเข้มแข็งและอัตลักษณ์ของชุมชนและหมู่บ้านได้อย่างแท้จริง ซึ่งในส่วนของข้อมูลวิจัยนั้นหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชนยังสามารถนำไปใช้เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าได้ เพราะตราบใดที่ผู้คนยังคงอาศัยอยู่ในหมู่บ้านความรู้ความเข้าใจเหล่านี้ก็ยังคงถูกจัดเก็บไว้ในหมู่บ้านเพื่อรอวันที่จะถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

Article Details

ประเภทบทความ
บทความ

เอกสารอ้างอิง

Chusongdach, R. “Ma čhak (khon la) fak fa khong phœng pha su kan thalai sen bæng khong withiwitthaya thang borannakhadi wali nai manutsayawitthaya læ maya nai sinlapakam [From (different) Horizons of Rockshelter: Breaking through the lines of archaeological methods, phases in anthropology, and myth in arts].” Research report, Thailand Science Research and Innovation, 2008.

Dewey John. Art as Experience. New York: Balch, 1934.

Freeland Cynthia. Art Theory a Very Short Introduction. Oxford, United Kingdoms: Oxford University Press, 2001.

Fūsǣng, B. Interview by Čhinnaphat Lao-trakūn, Mūbān Mō̜kǣngthō̜ng, April 4, 2017.

Inta, M. Interview by Phurinat Krachang, Ban Mo kæng thong, March 14, 2017.

Michael Lilak. Land Art. Bangkok: The Great Fine Arts, 2009.

Nakwatchara, C. Thangsaiklang hæng kan wičhan. [Middle way of critism]. Bangkok: Openbooks, 2012.

Ngœ̄nyen, S. Interview by Nitis Wanichaboon, Wat Mō̜ kǣng thō̜ng, March 25, 2017.

Rodbun, S. “sinlapa nǣo khō̜n sēp chūan [Conceptual Arts].” Art and Environment (6-28 Febuary, 1991) Bangkok: PSG Art Gallery by Faculty of Painting Sculpture and Graphic Arts, Silpakorn University, 1991.

Sērīwāt, T. Interview by Nitis Wanichaboon, Pha Yao University, April 14, 2017.

Thīanwihān, P. Interview by Adison Phi-son, Thēsabān Tambon Mǣkā, August 14, 2017.

Tom Standage. Prawatsāt Kin Dai [An Edible History of Humanity]. Translate by Tōmō̜n

Sukprīchā. Bangkok: Openworld, 2011.

Wongyānnāwā, T. Sinlapa kap saphāwa samai mai khwām yō̜n yǣng læ khwām laklan [Art and Modernity Paradox and Chaos]. Bangkok: Parbpim, 2009.