การศึกษาละครหุ่นเพื่อพัฒนาทักษะสมองด้านการยับยั้งชั่งใจ ของเด็กปฐมวัยโรงเรียนวัดกลาง (ธรรมวิธานราษฎร์วิทยา)
คำสำคัญ:
กิจกรรมละครหุ่น, ทักษะสมอง, การยับยั้งชั่งใจบทคัดย่อ
การวิจัยการศึกษาละครหุ่นเพื่อพัฒนาทักษะสมองด้านการยับยั้งชั่งใจของเด็กปฐมวัยโรงเรียนวัดกลาง (ธรรมวิธานราษฎร์วิทยา) มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาและพัฒนากิจกรรมละครหุ่น สำหรับเด็กปฐมวัยโรงเรียนวัดกลาง (ธรรมวิธานราษฎร์วิทยา) และเพื่อเปรียบเทียบทักษะสมองด้านการยับยั้งชั่งใจของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังการใช้แผนการจัดกิจกรรมละครหุ่น โรงเรียนวัดกลาง (ธรรมวิธานราษฎร์วิทยา) โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 อายุ 5-6 ปี ของโรงเรียนวัดกลาง (ธรรมวิธานราษฎร์วิทยา) จำนวน 12 คน เพศชาย 7 คน เพศหญิง 5 คน ใช้วิธีการเลือกโดยวิธีเฉพาะเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แผนกิจกรรมละครหุ่น จำนวน 12 แผน และแบบประเมินทักษะสมองด้านการยับยั้งชั่งใจ จำนวน 10 ข้อ
ผลการวิจัยพบว่า การออกแบบแผนการจัดกิจกรรมละครหุ่นเพื่อพัฒนาทักษะสมองด้านการยับยั้งชั่งใจของเด็กปฐมวัย ผู้วิจัยนำแนวคิดทฤษฎีการพัฒนาทักษะสมองอีเอฟด้วยการให้โอกาส 13 ประการมาพัฒนากิจกรรมละครหุ่น จำนวน 12 แผน ซึ่งประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นนำ เป็นการนำเข้าสู่กิจกรรมเพื่อเป็นการกระตุ้นความสนใจของนักเรียน ให้นักเรียนเกิดความต้องการที่จะเรียนรู้และสร้างสมาธิก่อนเริ่มทำกิจกรรม ขั้นการดำเนินกิจกรรม เป็นขั้นการเรียนรู้และปฏิบัติกิจกรรมละครหุ่นที่นักเรียนจะต้องร่วมมือกันและปฏิบัติทุกคน เพื่อส่งเสริมทักษะสมองด้านการยับยั้งชั่งใจของนักเรียน เช่น การใช้การแสดงละครหุ่น การเล่นเกม สถานการณ์ประกอบหุ่นหรือการประดิษฐ์ เป็นต้น ขั้นสรุปและอภิปรายผล เป็นขั้นที่ครูชวนนักเรียนพูดคุยเกี่ยวกับกิจกรรมที่ได้ดำเนินการไป รวมถึงให้นักเรียนแสดงความรู้สึกและครูกล่าวชมเชยนักเรียนในการทำกิจกรรมละครหุ่น และผลใช้กิจกรรมละครหุ่นเพื่อพัฒนาทักษะสมองด้านการยับยั้งชั่งใจของเด็กปฐมวัย พบว่ากลุ่มตัวอย่างมีค่าคะแนนเฉลี่ยหลังการจัดกิจกรรมละครหุ่นสูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรมละครหุ่น อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
เอกสารอ้างอิง
Chitjueajun, Phadung. “Current situation of Thai children and youth Anxiety in the future is even more worrisome.” https://www.matichon.co.th/columnists/news_1313057.
ผดุง จิตเจือจุน. “สถานการณ์ปัจจุบันของเด็กและเยาวชนไทย น่าวิตกในอนาคตยิ่งน่าเป็นห่วง.” https://www.matichon.co.th/columnists/news_1313057.
Chonchaiya, Weerasak. “Developing EF from early childhood...the foundation of national development in the Thailand 4.0.” http://www.thaipediatrics.org/pages/Doctor/Detail/43/188.
วีระศักดิ์ ชลไชยะ. “พัฒนา EF ตั้งแต่ปฐมวัย...รากฐานของการพัฒนาประเทศในยุค Thailand 4.0.” http://www.thaipediatrics.org/pages/Doctor/Detail/43/188.
Hanmethee, Subhawadee. A Guide for development brain skills of executive function for early childhood. Bangkok: Matichon, 2018. https://www.rlg-ef.com/download/ebook-for-teacher-pdf/.
สุภาวดี หาญเมธี. คู่มือพัฒนาทักษะสมอง EF Executive Function สำหรับครูปฐมวัย. กรุงเทพฯ : มติชน, 2561. https://www.rlg-ef.com/download/ebook-for-teacher-pdf/.
Narong, Kanjana. Techniques and Basic Teaching Skills Volume 1. Bangkok: Charansanitwong Printing, 2010.
ณรงค์ กาณจนะ. เทคนิคและทักษะการสอนเบื้องต้น เล่ม 1. กรุงเทพฯ : จรัลสนิทวงศ์การพิมพ์, 2553.
Office of the Council of State. “The Early Childhood Development Act B.E. 2562 (2562, 30 April Volume 136 section 56ก.” http://www.ratchakitcha.go.th.
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา. “พระราชบัญญัติการพัฒนาเด็กปฐมวัยพุทธศักราช 2562 (30 เมษายน เล่มที่ 136 ตอนที่ 56ก).” http://www.ratchakitcha.go.th.
Office of the Education Council. Competencies of early childhood children in development by age 3-5 years: Guidelines for Teachers and Caregivers. Bangkok: Office Educational Standards and Learning Development, 2009.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. สมรรถนะของเด็กปฐมวัยในการพัฒนาตามวัย 3-5 ปี : แนวแนะสำหรับผู้ดูแลเด็ก ครู อาจารย์. กรุงเทพ : สำนักงานมาตรฐานการศึกษาและพัฒนาการเรียนรู้, 2552.
Panakul, Saksri, Niramon Satawut, and Rawiwan Srikramkran. Curriculum and learning management. Bangkok: Ramkhamhaeng University, 2006.
ศักดิ์ศรี ปาณะกุล, นิรมล ศตวุฒิ, และ ระวิวรรณ ศรีคร้ามครัน. หลักสูตรและการจัดการเรียนรู้. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยรามคำแหง, 2549.
Posttoday. “It was found that 30% of Thai children had high-level brain development problems.” https://www.posttoday.com/social/general/466224.
โพสต์ทูเดย์. “พบเด็กไทย 30% มีปัญหาพัฒนาการด้านสมองระดับสูง.” https://www.posttoday.com/social/general/466224.
RLG (Rakluke Learning Group). “How important is inhibition to life?.” https://shorturl.asia/dgu0Y.
สถาบันอาร์แอลจี (รักลูกเลิร์นนิ่งกรุ๊ป). “ความยั้งคิด สำคัญต่อชีวิตแค่ไหน.” https://shorturl.asia/dgu0Y.
Ruckpong, Nongluck. “Development of puppets and activities to enhance listening and speaking readiness of preschool student.” Master thesis, Burapha University, 2017.
นงลักษณ์ รักพงษ์. “การพัฒนาหุ่นมือและกิจกรรมเพื่อสร้างความพร้อมด้านการฟังและการพูดของนักเรียนระดับปฐมวัย.” วิทยานิพนธ์ระดับปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยบูรพา, 2560.
Sornpetch, Pimchanok. “Creative semester break, making hand puppets, telling happy stories.” https://www.thaihealth.or.th/?p=231159.
พิมพ์ชนก ศรเพชร. “ปิดเทอมสร้างสรรค์ ทำหุ่นมือ เล่านิทานสุขใจ.” https://www.thaihealth.or.th/?p=231159.
Suchit, Piyanut. Puppet to promotion and the development of reading. Bangkok: Faculty of Humanities and Social Sciences, Suansunandha Rajabhat University, 2011.
ปิยะนุช สุจิต. หุ่นเพื่อส่งเสริมและพัฒนาการอ่าน. กรุงเทพฯ : คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, 2554.
Yuttawong, Orachuma. “Puppet show for early childhood.” In Literature and theatertization for early childhood education Unit 11, 562-614. Nontaburi: education of Sukhothai Thammathirat University, 1984.
อรชุมา ยุทธวงศ์. “การแสดงหุ่นสำหรับเด็กปฐมวัย.” ใน เอกสารการสอนชุดวิชา วรรณกรรมและลีลาคดีระดับปฐมวัยศึกษา หน่วยที่ 11, 562-614. นนทบุรี : สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2527.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 PHUSANISA SAIBUA, PORAWAN PATTAYANON

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ของบทความเป็นของเจ้าของบทความ บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นทัศนะของผู้เขียน
กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยและไม่รับผิดชอบต่อบทความนั้น


