การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
Main Article Content
บทคัดย่อ
การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยม ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 2) ออกแบบและสร้างชุดกิจกรรมการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) ทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 3.1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 3.2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้มีพัฒนาการมากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 40 เทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 40 3.3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 80 3.4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรม การเรียนรู้ และ 4) ประเมินและปรับปรุงชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ซึ่งการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสามชัยอุดมวิทย์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 49 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 2) แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย (µ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน () ค่าร้อยละ (%) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ได้จากครูผู้สอนและนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย พบว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ควรให้นักเรียนมีวิธีการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ต้องใช้คำถามกระตุ้นให้เกิดกระบวนการคิด สื่อที่ใช้ต้องเรียนรู้ร่วมกันได้ ใบกิจกรรมต้องทำทุกคน และใช้แบบทดสอบที่มีมาตรฐาน วัดตรงจุดประสงค์ และผลการศึกษา ทฤษฎี แนวคิดที่เกี่ยวข้องสอดคล้องกับธรรมชาติวิชาที่ต้องใช้การฝึกฝนส่งผลให้มีการออกแบบ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับวิธีการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E)
2. ผลการออกแบบและสร้างชุดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า มีเนื้อหาเกี่ยวกับทศนิยม จำนวน 2 เรื่อง ได้แก่ การอ่านและการเขียนทศนิยมไม่เกิน 3 ตำแหน่ง และการบวก การลบทศนิยมไม่เกิน 3 ตำแหน่ง มีการจัดทำคู่มือการใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) จำนวน 17 แผน โดยมีค่าประสิทธิภาพของ ชุดกิจกรรมในขั้นตอนการทดลองแบบหนึ่งต่อหนึ่ง (One-to-One Testing) (1:1) เท่ากับ 68.90/64.44 และทดลอง แบบกลุ่มเล็ก (Small-Group Testing) (1:3) เท่ากับ 77.70/72.96 ปรับปรุงการใช้ภาษาให้เหมาะสมนำไปทดลองภาคสนาม (Field Testing) ได้ค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 83.41/80.10
3. ผลการทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ นักเรียนส่วนใหญ่สนใจ กระตือรือร้นต่อการเรียนซักถาม จนเกิดความกระจ่าง มีส่วนร่วม มีการปฏิบัติร่วมกันเป็นกลุ่ม และทำชุดกิจกรรมเดี่ยวส่งผลให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้นตามลำดับจนเกิดทักษะทางคณิตศาสตร์ พบว่า ชุดกิจกรรมมีประสิทธิภาพ เท่ากับ 88.70/85.51 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน พัฒนาการของผู้เรียนหลังใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สูงกว่าก่อนใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้และสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 40 ดังนั้นผลการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80 และผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้มีความพึงพอใจในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย (µ = 4.44) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ()
4. ผลการประเมินและปรับปรุงชุดกิจกรรม พบว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์มีคุณภาพตามเกณฑ์ ใช้พัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนได้ แต่ชุดกิจกรรมการเรียนรู้มีเนื้อหา 2 เรื่องในเล่มเดียวกัน จึงควรแยกเป็นชุดออกมาให้ชัดเจน เพื่อความสะดวกในการใช้ เล่มของชุดกิจกรรมหยิบใช้ได้ง่าย สะดวกต่อผู้เรียนและไม่เกิดความสับสน
Downloads
Article Details
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560). โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
ฒิชากร ปริญญากาญจน์. (2561). การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค TAI เพื่อพัฒนา ผลการเรียนรู้เรื่องการบวกและการลบเลขของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศิลปากร ไม่ได้ตีพิมพ์].
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 3). สุวีริยาสาส์น.
ปชัญญะ ถานันตะ. (2562). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ทางคณิตศาสตร์ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยาเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ไม่ได้ตีพิมพ์].
ประภาศิริ ปราโมทย์. (2561). การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือควบคู่กับเกมเพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. [วิทยานิพนธ์ ปริญญามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่]. http://www.graduate.cmru.ac.th/core/km_file/407.pdf.
ยุพิน พิพิธกุล. (2561). การเรียนการสอนคณิตศาสตร์. โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วันวิสา ประภาศรี. (2561). การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนคณิตศาสตร์ โดยใช้การสอนแบบเปิดร่วมกับการใช้ปัญหาเป็นฐานและ STEM Education ที่ส่งผลต่อความคิดสร้างสรรค์ ความสุขในการเรียนและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร]. https://gsmis.snru.ac.th/e-thesis/thesis_detail?r=59421231114
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2555). เอกสารประกอบการออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ คณิตศาสตร์. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.
สมนึก ภัททิยธนี. (2549). การวัดผลการศึกษา. ภาควิชาวิจัยและพัฒนาการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
อนิศา เนตรเกื้อกูล. (2561). การพัฒนาชุดการเรียนรู้เรื่อง โจทย์ปัญหาการชั่ง ตวง วัด โดยใช้สื่อประสมและข้อมูลท้องถิ่นดอนยายหอม ร่วมกับเทคนิค KWDL สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศิลปากร ไม่ได้ตีพิมพ์].
Hovermill, J. (2003). Technology supported inquiry learning with Fathom: A professional development project. Paper presented at the Society for Information Technology & Teacher Education International Conference.