การพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดฝึกทักษะเพื่อส่งเสริมพื้นฐานการเล่นฟุตซอล ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา

Main Article Content

วุฒิกษณ์ ก่อบุญ

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้ เป็นกระบวนการวิจัยและพัฒนา มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนาทักษะการเล่นฟุตซอล2) เปรียบเทียบทักษะฟุตซอลของนักเรียนก่อนและหลังใช้แบบฝึก 3) เปรียบเทียบความรู้เกี่ยวกับการเล่นกีฬาฟุตซอลก่อนและหลังการใช้แบบฝึก และ 4) ศึกษาเจตคติของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะฟุตซอล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนบ้านหันวิทยา จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะฟุตซอล สำหรับนักเรียนชัมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 30 แบบฝึก เน้นการฝึกทักษะ 4 ทักษะ การส่ง การรับ การเลี้ยง และการยิงประตู ทีผู้ศึกษาสร้างขึ้น 2) แบบทดสอบทักษะฟุตซอล จำนวน 8 แบบทดสอบ ใช้ประเมินทักษะ 8 ทักษะ คือ (1) แบทดสอบทักษะการส่งลูกด้วยข้างเท้าด้านใน (2) แบบทดสอบทักษะการส่งลูกด้วยหลังเท้า (3) แบบทดสอบทักษความแม่นยำในการส่งลูกบอล (4) แบบทดสอบทักษะการใช้เท้าส่งและรับบอลแบบคู่ (5) แบบทดสอบทักษะการเลี้ยงลูกฟุตซอลซิกแซก ไป-กลับ (6) แบบทดสอบทักษะการเลี้ยงลูกฟุตซอลซิกแซกและตรง (7) แบบทดสอบทักษะการยิงประตูฟุตซอลแบบอิสระ (8) แบบทดสอบทักษะการยิงประตูฟุตซอลด้วยหลังเท้าตามจุดที่กำหนด3) แบบทดสอบวัดความรู้เกี่ยวกับการเล่นกีฬาฟุตซอล แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ประกอบด้วยเนื้อหา เรื่องกติกาการเล่น การทดสอบสมรรถภาพ รูปแบบการฝึก 4) แบบวัดเจตคติที่มีต่อแบบฝึกทักษะฟุตซอล เป็นมาตราส่วนประมาณค่าจำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การทดสอบสมมติฐานเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของคะแนนจากการทดสอบทักษะฟุตซอล และความรู้เกี่ยวกับการเล่นกีฬาฟุตซอล ก่อนและหลังการใช้แบบฝึก ใช้สถิติทดสอบ t– test แบบสองกลุ่มสัมพันธ์กัน (Pair-sample T test) หาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป


ผลการศึกษาพบว่า


1) ค่าเฉลี่ยทักษะการส่งลูกบอลด้วยข้างเท้าด้านในของกลุ่มตัวอย่างก่อนการใช้แบบฝึกมีค่าเท่ากับ12.90 ครั้งต่อ 20 วินาที และหลังจากใช้แบบฝึกแล้วมีค่าเฉลี่ย 16.80 ครั้งต่อ 20 วินาที                                                 


2) ค่าเฉลี่ยทักษะการส่งลูกด้วยหลังเท้าของกลุ่มตัวอย่างก่อนการใช้แบบฝึกมีค่าเท่ากับ 12.03 ครั้งต่อ 20 วินาที และหลังจากใช้แบบฝึกแล้วมีค่าเฉลี่ย 15.07 ครั้งต่อ 20 วินาที


3) ค่าเฉลี่ยทักษะความแม่นยำในการส่งลูกบอลของกลุ่มตัวอย่างก่อนการใช้แบบฝึกมีค่าเท่ากับ 9.27ครั้ง และหลังจากใช้แบบฝึกแล้วมีค่าเฉลี่ย 13.30 ครั้ง (เต็ม 15 คะแนน)


4) ค่าเฉลี่ยทักษะการใช้เท้าส่งและรับบอลแบบคู่ของกลุ่มตัวอย่างก่อนการใช้แบบฝึกมีค่าเท่ากับ 11.90ครั้งต่อ 30 วินาที และหลังจากใช้แบบฝึกแล้วมีค่าเฉลี่ย 15.40 ครั้งต่อ 30


5) ค่าเฉลี่ยทักษะการเลี้ยงลูกฟุตซอลซิกแซก ไป-กลับ ของกลุ่มตัวอย่างก่อนการใช้แบบฝึกมีค่าเท่ากับ13.52 วินาที และหลังจากใช้แบบฝึกแล้วมีค่าเฉลี่ย 11.05 วินาที                                                                 


6) ค่าเฉลี่ยทักษะการเลี้ยงลูกฟุตซอลซิกแซกและตรงของกลุ่มตัวอย่างก่อนการใช้แบบฝึกมีค่าเท่ากับ14.53 วินาที และหลังจากใช้แบบฝึกแล้วมีค่าเฉลี่ย 11.40 วินาที


7) ค่าเฉลี่ยทักษะการยิงประตูฟุตซอลแบบอิสระของกลุ่มตัวอย่างก่อนการใช้แบบฝึกมีค่าเท่ากับ 12.53คะแนน และหลังจากใช้แบบฝึกแล้วมีค่าเฉลี่ย 17.43 คะแนน (เต็ม 30 คะแนน)


8) ค่าเฉลี่ยทักษะการยิงประตูฟุตซอลด้วยหลังเท้าตามจุดที่กำหนดของกลุ่มตัวอย่างก่อนการใช้แบบฝึกมีค่าเท่ากับ 7.30 คะแนน และหลังจากใช้แบบฝึกแล้วมีค่าเฉลี่ย 11.70 คะแนน (เต็ม 15 คะแนน) หลังจากใช้แบบฝึกทักษะฟุตซอลแล้ว กลุ่มตัวอย่างมีทักษะฟุตซอลทั้ง 8 ทักษะ สูงกว่าก่อนการใช้แบบฝึกทักษะอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 หลังจากใช้แบบฝึกทักษะฟุตซอลแล้ว กลุ่มตัวอย่างมีความรู้เกี่ยวกับการเล่นกีฬาฟุตซอล สูงกว่าก่อนการใช้แบบฝึกอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยก่อนการใช้แบบฝึกกลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ย 15.50 คะแนนและหลังจากใช้แบบฝึกแล้วทำคะแนนเฉลี่ยได้ 24.23 คะแนน และกลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ยเจตคติต่อการฝึกทักษะฟุตซอล โดยภาพรวมเท่ากับ 4.41 อยู่ในระดับเห็นด้วยมาก

Downloads

Download data is not yet available.

Article Details

บท
Research Article