ผลสัมฤทธิ์และความพึงพอใจของนักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนเรื่องปริมาณสารสัมพันธ์โดยใช้โมเดลปล่อยความรับผิดชอบทีละน้อยร่วมกับเทคนิคห้องเรียนกลับด้าน

Main Article Content

วีรยา ตรีวรรณจุฑา
สมรักษ์ พันธ์ผล
สรรวภัทร พัฒโร

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์และความพึงพอใจของนักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในปีการศึกษา 2566 ที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนในเรื่องปริมาณสารสัมพันธ์ โดยการใช้โมเดลปล่อยความรับผิดชอบทีละน้อย (Gradual Release of Responsibility model, GRR model) ร่วมกับเทคนิคห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) ของนักศึกษาจำนวน 25 คน ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าการจัดการเรียนการสอนเรื่องปริมาณสารสัมพันธ์โดยใช้โมเดล GRR ร่วมกับเทคนิคห้องเรียนกลับด้าน เป็นวิธีการที่เหมาะสมในการจัดการเรียนการสอนเนื้อหาที่มีการคำนวณ เนื่องจากช่วยทำให้นักศึกษามีความเข้าใจและมีทักษะในการคำนวณได้เป็นอย่างดี ซึ่งส่งผลให้นักศึกษามีผลสัมฤทธิ์หลังการเรียนรู้สูงขึ้น โดยมีคะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 64.74 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์พัฒนาการระดับสูง มีความเข้าใจเนื้อหามากเพิ่มขึ้นและสามารถนำวิธีการเรียนรู้แบบปล่อยความรับผิดชอบทีละน้อยไปประยุกต์ใช้กับการเรียนรู้ในรายวิชาอื่นๆ ได้ และจากการสำรวจความพึงพอใจของนักศึกษาจำนวน   25  คน  ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้โมเดล GRR ร่วมกับเทคนิคห้องเรียนกลับด้าน   ซึ่งเป็นแบบสอบถามจำนวน 18 ข้อ ใน 3 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านบรรยากาศการจัดการเรียนรู้ 2) ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และ 3) ด้านประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดการเรียนรู้ พบว่าในด้านบรรยากาศการจัดการเรียนรู้นักศึกษามีความพึงพอใจเนื่องจากทำให้มีความรู้ในเนื้อหาที่เรียนเพิ่มมากขึ้นทั้งจากการศึกษาด้วยตนเองและที่ได้รับจากในชั้นเรียน โดยได้คะแนนความ      พึงพอใจ 4.08±0.76 ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้นักศึกษามีความพึงพอใจเนื่องจากแบบฝึกหัดที่จัดให้ฝึกการคำนวณมีความเหมาะสมและส่งเสริมให้มีความเข้าใจในเนื้อหาเพิ่มมากขึ้น โดยได้คะแนน 4.10±0.79 และในด้านประโยชน์ที่ได้รับพบว่านักศึกษาพึงพอใจเนื่องจากการจัดการเรียนรู้ทำให้นักศึกษานำวิธีการเรียนรู้นี้ไปประยุกต์ใช้ในการเรียนวิชาอื่น ๆ ได้ โดยได้คะแนน เท่ากับ 4.00±0.97

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
วีรยา ตรีวรรณจุฑา, สมรักษ์ พันธ์ผล, & สรรวภัทร พัฒโร. (2025). ผลสัมฤทธิ์และความพึงพอใจของนักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนเรื่องปริมาณสารสัมพันธ์โดยใช้โมเดลปล่อยความรับผิดชอบทีละน้อยร่วมกับเทคนิคห้องเรียนกลับด้าน. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ, 25(1), 187–202. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/eduthu/article/view/279624
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

จตุพร ผ่องลุนหิต, คงรัฐ นวลแปง และ เวชฤทธิ์ อังกนะภัทรขจร. (2561). ผลของการจัดการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ที่มีต่อทักษะการแก้ปัญหาและทักษะการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วารสารวิชาการหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร. 10(27). 15-26.

ทิศนา แขมมณี. (2551). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ (พิมพ์ครั้งที่ 11). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

นาถวดี นันทาภินัย. (2561). การพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้โมเดลแบบปล่อย ความรับผิดชอบทีละน้อยร่วมกับการเรียนแบบผสมผสานในวิชาอิเล็กทรอนิกส์. วารสารครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 46(1), 202-220.

https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EDUCU/article/view/113696/88348

วิจารณ์ พานิช. (2556). ครูเพื่อศิษย์สร้างห้องเรียนกลับทาง (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: บริษัท เอส.อาร์.พริ้นติ้ง แมสโปรดักส์ จำกัด.

ศิริชัย กาญจนวาสี. (2557). การคำนวณคะแนนพัฒนาการ (GainScores).วารสารสมาคมวิจัยสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย, 1(1), 1-20.

สมบัติ การจนารักพงศ์. (2549). เทคนิคการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 5E ที่เน้นพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูง :กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์. กรุงเทพฯ: ธารอักษร.

อนุุชา มาตา และ สุุดคนึง นฤพนธ์จีรกุล. (2565). การใช้กิจกรรมเกมร่วมกับรููปแบบการปล่อยความรับผิดชอบทีละน้อย เพื่่อพัฒนาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่่ 5. วารสาร เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 5(13), 50-60.

https://so02.tci-thaijo.org/index.php/etcedumsujournal/article/view/250629/171619

อุรสา พรหมทา และ สมชาย วงศา. (2561). ผลการจัดการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับ บทเรียนบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ รายวิชาความเป็นครู. วารสารมหาวิทยาลัยนครพนม, 8(3), 34-42.

https://drive.google.com/file/d/1q6gPR42vBLVIIPtyOix70_gtyJPt0gjF/view

Aldridge, J. D. (2018). The effects of systemic functional linguistics and gradual release of responsibility on student self-efficacy and engagement in mathematics. Theses and Dissertations. University of South Carolina – Columbia.

Childs, K. J. (2018). Good mathematics teaching is not telling, it is facilitating. Dimensions in Mathematics, 38(1), 14-15.

Cimino, M. (2018). Synthesising the flipped classroom with the gradual release of responsibility model. Australian Educational Leader, 40(1), 40-42.

Fisher, D. (2008). Effective use of the gradual release of responsibility model. Treasures, Columbus, OH: McGraw-Hill.

Fuentes, G. P. A., Casinillo, L. F. (2024). Assessing the effect of the gradual release of responsibility (GRR) model in teaching science. Asian Journal of Assessment in Teaching and Learning. 14(1). 15-24.

Graham, C.R. (2013). Emerging practice and research in blended learning in Moore, M.G. (Ed.) (3rded.). Handbook of Distance Education. Routledge: New York.

Hortrakul, P., Supan, W., Fangreow, S., Varasunun, P., & Vichitvejpaisal. P. (2024). Relative growth score: A better way to assess learning process in Anesthesia. The Journal of Chulabhorn Royal Academy. 6(1). 39-45.

Likert, R. (1974). The method of constructing an attitude scale. New York: Routledge.

Lin, N.C., & Cheng, H-F. (2010). Effects of gradual release of responsibility model on language learning. Procedia Social and Behavioral Sciences, 2(2), 1868–1872. https://doi.org/10.1016/j.sbspro.2010.03.1000

Panlaan, J. M. R. (2019). The effectiveness of gradual release of responsibility approach in improving performance of students in mathematics. Slongan, 4, 38-63.

Pearson, P. D., & Gallagher, M. C. (1983). The instruction of reading comprehension. Contemporary Educational Psychology, 8(3), 317–344. DOI:10.1016/0361-476X(83)90019-X.

Tucker, D. M. (2013). Investigating the efficacy, a flipped science classroom model. (Montana Intercollege Program for Science Education): Montana State University.

https://scholarworks.montana.edu/handle/1/8766