สภาพการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาพลศึกษาระดับมัธยมศึกษาของนักเรียน โรงเรียนธิดานุเคราะห์ จังหวัดสงขลา

บทคัดย่อ

          งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อสภาพการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาพลศึกษาของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาโรงเรียนธิดานุเคราะห์ กลุ่มตัวอย่าง 290 คน รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามความพึงพอใจที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .97  สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย      ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติ t-test ผลการวิจัย พบว่า กลุ่มตัวอย่างในช่วงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นมีความพึงพอใจในระดับดี (𝑥̅=4.497,S.D.=0.637)  และกลุ่มตัวอย่างในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายมีความพึงพอใจในระดับดีมาก (𝑥̅=4.711,S.D.=0.528) โดยระดับมัธยมศึกษาตอนต้นมีระดับความพึงพอใจมากที่สุดเรียงลำดับดังนี้ ขั้นที่ 1 การเตรียมความพร้อม (𝑥̅=4.647,S.D.=0.550) ขั้นที่ 5 การสรุปผล (𝑥̅=4.572,S.D.=0.545)  ขั้นที่ 3 การฝึกปฏิบัติ (𝑥̅=4.569,S.D.=0.590) ขั้นที่ 2 การอธิบายและสาธิต (𝑥̅=4.80,S.D.=0.513) และขั้นที่ 4 การนำไปใช้ (𝑥̅=4.219,S.D.=0.622) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายมีระดับความพึงพอใจมากที่สุดเรียงลำดับดังนี้ ขั้นที่ 2 การอธิบายและสาธิต (𝑥̅=4.827,S.D.=0.396)  ขั้นที่ 4 การนำไปใช้ (𝑥̅=4.713,S.D.=0.522)  ขั้นที่ 3 การฝึกปฏิบัติ (𝑥̅=4.676,S.D.=0.548)  ขั้นที่ 1 การเตรียมความพร้อม (𝑥̅=4.672,S.D.=0.491) และขั้นที่ 5 การสรุปผล (𝑥̅=4.668,S.D.=0.543) โดยช่วงชั้นของนักเรียนที่กำลังศึกษาต่อความพึงพอใจแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ในขั้นที่ 5 การสรุปผล ส่วนขั้นอื่นๆไม่แตกต่างกัน โดยผลการวิจัยในครั้งนี้จะนำข้อมูลมาใช้ในการพัฒนาปรับปรุงแนวทางการสอนพลศึกษาต่อไป