มุมมองของครูพี่เลี้ยง และนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูต่อแนวทางในการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในศตวรรษที่ 21

ผู้แต่ง

  • อวยพร ดำริมุ่งกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
  • มหาวิทยาลัยนเรศวร

คำสำคัญ:

มุมมองของครูพี่เลี้ยง, มุมมองของนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู, แนวทางในการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์, ศตวรรษที่ 21

บทคัดย่อ

งานวิจัยเชิงคุณภาพมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษามุมมองของครูพี่เลี้ยง จำนวน 3 คน และนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู จำนวน 3 คน ต่อแนวทางในการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในศตวรรษที่ 21 เก็บข้อมูล โดยใช้แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง (Semi-Structured Interview) ครอบคลุมองค์ประกอบของการจัดการเรียนรู้ 3 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านจุดประสงค์ในการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 2) ด้านแนวทางในการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และ 3) ด้านสื่อการเรียนรู้ โดยมีกระบวนการพัฒนาคำถามสัมภาษณ์จากการให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบข้อคำถาม และนำไปทดลองใช้ จากนั้นวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) การตรวจสอบกับผู้ให้ข้อมูล (Member Checking) และผู้เชี่ยวชาญ (Peer Debriefing)

ผลการวิจัย พบว่า

1) ครูพี่เลี้ยงเชื่อว่า การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในศตวรรษที่ 21 ควรมีจุดมุ่งหมาย เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะการสื่อสาร ทักษะการทำงานร่วมกัน มีความรู้ด้านเทคโนโลยี ตลอดจนสามารถนำความรู้ และทักษะที่มีไปใช้ในการดำรงชีวิตได้ ในขณะที่นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูเชื่อว่า ควรมีจุดมุ่งหมาย เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ มีทักษะความคิดสร้างสรรค์ มีความกล้าแสดงออก มีทักษะการทำงานกลุ่ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ และสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้

2) ครูพี่เลี้ยงเชื่อว่า ควรจัดกิจกรรมการทดลองให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในการวางแผนออกแบบการทดลอง ช่วยกันสืบค้นข้อมูล และนำเสนอผลการทดลอง โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่ทันสมัย และจัดการเรียนรู้ โดยใช้โครงงานเป็นฐาน เพื่อให้ผู้เรียนสืบเสาะหาความรู้ด้วยตนเอง และได้ลงมือปฏิบัติจริง เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงประสบการณ์ในการเรียนรู้ไปสู่การเรียนรู้ในชีวิตจริงได้ โดยมีครูเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการทำกิจกรรม และเสริมความรู้เพิ่มเติมที่เป็นปัจจุบัน เพื่อให้ตอบสนองต่อการเรียนรู้ในยุคศตวรรษที่ 21 ในขณะที่นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูเชื่อว่า ควรจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา และจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน โดยออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ให้เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน เน้นให้ผู้เรียนได้สืบเสาะหาความรู้ และอภิปรายร่วมกันในชั้นเรียน เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนสนใจในการเรียนรู้    และเพื่อเสริมสร้างทักษะความคิดสร้างสรรค์ ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ทักษะการสื่อสาร และทักษะความร่วมมือของผู้เรียน

3) ครูพี่เลี้ยงเชื่อว่า สื่อการเรียนรู้ที่ใช้ควรเป็นสื่อเทคโนโลยีสำเร็จรูปที่มีความทันสมัย เป็นสื่อการเรียนรู้ที่สามารถหาได้ง่าย หรือใช้สื่อการเรียนรู้ออนไลน์ที่มีอยู่แล้ว ที่มีรูปแบบน่าสนใจ เพื่อทำให้ผู้เรียน            สามารถเข้าถึงสื่อการเรียนรู้ได้ง่าย ในขณะที่นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูเชื่อว่า ควรผลิตสื่อการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับบริบทของชั้นเรียน และเหมาะสมกับเนื้อหาที่สอน หรือพัฒนาสื่อการเรียนรู้ที่มีอยู่แล้วให้มีความทันสมัยมากขึ้นมีรูปแบบที่น่าสนใจ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจในเนื้อหาได้ง่ายขึ้น และช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความสนใจในการเรียนรู้

เอกสารอ้างอิง

ปภาวี ตั้งดวงดี. (2559). คุณลักษณะของครูกับประสิทธิภาพการเรียนรู้ของนักเรียนกรณีศึกษา โรงเรียนประถมส่วนขยายแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร. รายงานการค้นคว้าอิสระปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต,
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ประสาท เนืองเฉลิม. (2558). การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ปรีดี ปลื้มสำราญกิจ. (2560). ปัจจัยที่มีผลต่อทักษะในศตวรรษที่ 21 ของผู้เรียน. วไลยอลงกรณ์ปริทัศน์. 7(3): 141-158.
ภาสกร เรืองรอง, ประหยัด จิระวงพงศ์, วณิชชา แม่นยา, วิลาวัลย์ สมยาโรน, ศรันยู หมื่นเดช และ ชไมพร ศรีสุราช.(2014). เทคโนโลยีการศึกษากับครูไทยในศตวรรษที่ 21. Panyapiwat Journal,
Vol.5.195-207.
วราภรณ์ สิทธิวงศ์. (2553). การพัฒนารูปแบบการฝึกประสบการณ์วิชาชีพศึกษาศาสตร์ ภาควิชาชีวศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต คณะศึกษาศาสตร์,
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
วัชรา เล่าเรียนดี. (2556). ศาสตร์การนิเทศการสอนและการโค้ช การพัฒนาวิชาชีพ: ทฤษฎีกลยุทธ์สู่การปฏิบัติ. (พิมพ์ครั้งที่ 12). นครปฐม : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์นครปฐม.
วิจารณ์ พานิช. (2555). สนุกกับการเรียนในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ : มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์.
วิจารณ์ พานิช. (2556). การสร้างการเรียนรู้สู่ศตวรรษที่ 21.กรุงเทพฯ : มูลนิธิสยามกัมมาจล.
สายชล เทียนงาม และ บุญเรียง ขจรศิลป์. (2556). ปัจจัยที่ส่งผลต่อลักษณะครูที่พึงประสงค์ของนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูในมหาวิทยาลัยราชภัฏ: การวิเคราะห์สมการโครงสร้างพหุระดับ.
วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย. 5(1), 212-225.
สํานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2552). การปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ. 2552 – 2561). (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพ ฯ: พริกหวานกราฟฟิค, 2552.
โสรัจจ์ หงศ์ลดารมภ์. (2545). วิทยาศาสตร์ในสังคมและวัฒนธรรมไทย. (รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์) กรุงเทพมหานคร: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.).
Bender, W. N. & Waller, L. (2011). The Teaching Revolution. Corwin: California.
Lekatarakorn, P. (2015). Enjoy Learning in 21st Century. Journal of Education Naresuan University, 17(3), 161-163.
Marzano, R. J. (2000). Designing a new taxonomy of educational objectives. Thousand Oaks, CA.
Office of the Education Council. (1999). The reform of science education in the United States. Searched on December, 2563 from http://www.onec.go.th/publication/4216002/index
_executive.himl.
Unesco. (1996). Report to UNESCO of the International Commission on Education for the Twenty-First Century. Searched on December, 2563 from
http://www.unesco.org/education/pdf/15_62.pdf.
Yin, R. K. (2014). Case study research: Design and methods (5th ed.). Los Angeles: Sage Publications.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-12-02