ผลการจัดการเรียนรู้เชิงรุกด้วยวิธีการแบบเปิดที่เน้นการทดลองทางคณิตศาสตร์ เรื่องเศษส่วน สำหรับนักศึกษาสาขาวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์

ผลการจัดการเรียนรู้เชิงรุกด้วยวิธีการแบบเปิดที่เน้นการทดลองทางคณิตศาสตร์ เรื่องเศษส่วน สำหรับนักศึกษาสาขาวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์

ผู้แต่ง

  • irene chummuengyen คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์

คำสำคัญ:

การสอนคณิตศาสตร์ด้วยวิธีการแบบเปิด, การทดลองทางคณิตศาสตร์, การเรียนรู้เชิงรุก

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการจัดการเรียนรู้เชิงรุกด้วยวิธีการแบบเปิดที่เน้นบทปฏิบัติการทางคณิตศาสตร์เรื่องเศษส่วน ต่อนักศึกษาสาขาวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นปีที่ 3  ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 49 คน ใน 3 ด้าน คือ ด้านการตอบสนอง ด้านกระบวนการกลุ่ม และด้านแนวคิด การวิจัยโดยอาศัยระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพที่เน้นการสังเกต วิเคราะห์ และการบรรยายเชิงวิเคราะห์ (Analytic Description) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) การสังเกตและจดบันทึก 2)การเขียนสะท้อน 3) เครื่องบันทึกภาพ 4) แบบบันทึกการทดลอง 5)แบบทดสอบมโนทัศน์ 6) แบบทดสอบถามความพึงพอใจในการเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยมีดังนี้

  1. ด้านการตอบสนอง พบว่า นักศึกษาทุกคนมีความสนใจ มีปฏิสัมพันธ์กับอาจารย์ มีความกระตือรือร้นและมีส่วนร่วมในกิจกรรม นักศึกษาทุกคนมีความสนุกสนาน ผ่อนคลาย ได้ความรู้เกิดความคิดสร้างสรรค์ มีความพึงพอใจของนักศึกษาต่อการจัดการเรียนรู้อยู่ในระดับมากทุกด้าน ได้แก่ ด้านบรรยากาศ (M= 4.45, SD = 0.65) ด้านกิจกรรมการเรียน (M = 4.32, SD = 0.72) และด้านประโยชน์ที่ได้รับ (M= 4.24, SD = 0.73) นักศึกษามีแนวคิดที่หลากหลายในการหาคำตอบของสถานการณ์เศษส่วน และทำแบบทดสอบมโนทัศน์เรื่องเศษส่วนได้อย่างถูกต้อง คิดเป็นร้อยละ 94.89
  2. ด้านกระบวนการกลุ่ม นักศึกษาทุกคนร่วมมือกันทํางาน แต่ละคนมีการแบ่งหน้าที่ในการทำกิจกรรมเป็นผู้คิด แก้ปัญหาและผู้บันทึก และมีการตรวจสอบวิธี แนวคิดของเพื่อน โดยมีการผลัดเปลี่ยนหน้าที่ในแต่ละกิจกรรม
  3. ด้านแนวคิด พบว่านักศึกษาทุกกลุ่มมีแนวคิดในการจัดการเรียนรู้เรื่องเศษส่วนผ่านสื่อที่หลากหลาก ส่วนแนวคิดในการนำเสนอมโนทัศน์เรื่องเศษส่วนมีจำนวน 5 แนวคิด ได้แก่ การใช้พื้นที่ การใช้ปริมาตร การใช้ความยาว การใช้ปริมาณสิ่งของที่อยู่ในภาชนะบรรจุ และการใช้โครงงาน

เอกสารอ้างอิง

กฤษณัย สุวรรณ์ และคณะ (2554). ผลของการนําเสนอสถานการณ์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของครูต่อผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 , เอกสารหลังการประชุมทางวิชาการประจําปีของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ประจําปี 2554 9-10 กันยายน 2555 ณ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 1-11.

ไชยยศ เรืองสุวรรณ. (2553). Active Learning. หน่วยส่งเสริมและพัฒนาวิชาการ งานบริการการศึกษา คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

ณัชนัน แก้วชัยเจริญกิจ. (2550). บทบาทของครูผู้สอนในการจัดกิจกรรมและวิธีการปฏิบัติตามแนวทางของ Active Learning. สืบค้นเมื่อ กรกฎาคม 25, 2561,จาก http://www.itie.org.

ทิศนา แขมมณี. (2554). ศาสตร์การสอน. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

นภาพร วรเนตรสุดาทิพย์ และคณะ. (2552). การศึกษาชั้นเรียน (Lesson Study) และวิธีแบบเปิด (Open Approach): กรณีศึกษาโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น (ศึกษาศาสตร์) ระดับประถม. Journal of Education Khon Kaen University, 32(4), 76-80.

บุบผา เรืองรอง.(2556). การเรียนรู้โดยการลงมือทำ (Learning by doing) มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช. สืบค้นเมื่อ สิงหาคม 31,2561,จาก http://taamkru.com/th.

ไมตรี อินทร์ประสิทธิ์. (2547). การสอนโดยใช้วิธีการแบบเปิดในชั้นเรียนคณิตศาสตร์ของญี่ปุ่น KKU. Journal of Mathematics Education, 1(1), 3-13.

วิจารณ์ พานิช. (2557). Open Approach-วิธีประยุกต์การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning สู่การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สืบค้นเมื่อ มีนาคม 17, 2562, จาก https://www.gotoknow.org/posts.

สถาพร พฤฑฒิกุล. (2555). คุณภาพผู้เรียนเกิดจากกระบวนการเรียนรู้ QUALITY OF STUDENTS DERIVED FROMACTIVE LEARNING PROCESS. วารสารการบริหารการศึกษามหาวิทยาลัยบูรพา, 6(2), 1-13

สัมพันธ์ ถิ่นเวียงทอง และไมตรี อินทร์ประสิทธิ์. (2561). รูปแบบการสอนแนวใหม่สำหรับการวัดในรายวิชาคณิตศาสตร์ระดับโรงเรียน. วารสารมหาวิทยาลัยนครพนม, 8(3), 118-127.

Ausubel, D. P. (1963). The Psychology of Meaningful Verbal Learning. Grune & Stratton.

Kemmis, S. & McTaggart, R. (1988). The Action Research Planner. Geelong: Deakin University Press.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2022-12-30