การใช้ทฤษฎีศาสตร์แห่งนพลักษณ์ศึกษาเหตุปัจจัย ที่ส่งผลให้บุคคลมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกัน: กรณีศึกษานักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเหตุปัจจัยที่ส่งผลให้บุคคลมีลักษณะนิสัยในแต่ละลักษณ์ของทฤษฎีศาสตร์แห่งนพลักษณ์ และศึกษาความคิดเห็นของนักศึกษากลุ่มตัวอย่างที่มีต่อกระบวนการของศาสตร์แห่งนพลักษณ์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในงานวิจัยเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีที่ลงทะเบียนเรียนวิชาจิตตปัญญาศึกษา ภาคการศึกษาที่ 2/2559 จำนวน 368 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย รายละเอียดวิชาจิตตปัญญา หมวดวิชาศึกษาทั่วไป (มคอ.3) เอกสารประกอบการสอน “จิตตปัญญาศึกษา” แบบทดสอบลักษณ์และกิจกรรม “เสียงสะท้อนจากผู้เรียน” (AAR) วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหาแล้วนำผลที่ได้เขียนนำเสนอด้วยการเขียนบรรยายประกอบการยกตัวอย่าง ผลการวิจัยพบว่าปัจจัยที่ส่งผลให้บุคคลมีลักษณะแตกต่างกันไปถึง 9 แบบ ส่วนใหญ่มาจากการอบรมสั่งสอนของพ่อ แม่ ญาติผู้ใหญ่ ครู-อาจารย์เป็นอันดับแรก รองลงมา เป็นสภาพแวดล้อม บริบททางสังคม และวัฒนธรรมท้องถิ่น และปัจจัยอันดับสาม คือ ประสบการณ์ในสมัยเด็กหรือวัยรุ่นล้วนสร้างความประทับใจจนเกิดเป็นลักษณะนิสัยให้แก่นักศึกษา และนักศึกษากลุ่มตัวอย่างมีความคิดเห็นว่า “ศาสตร์แห่งนพลักษณ์” มีกิจกรรมการเรียนสนุก และทำให้เข้าใจตนเอง เข้าใจคนรอบข้าง รวมทั้งจะนำไปปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างกัลยาณมิตร
Downloads
Article Details
เอกสารอ้างอิง
ชัยวัฒน์ ถิระพันธ์. (2552). การคิดอย่างเป็นระบบ. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.
ธนา นิลชัยโกวิทย์ ทานตะวัน สุรเดชาสกุล, เมธี จันทรา, และอัญชลี สถิรเศรษฐ์. (2552). สรุปความรู้จากการอบรมโครงการขับเคลื่อนเครือข่ายคุณธรรมในระบบการศึกษาระดับอุดมศึกษา : การอบรมภาวะผู้นำทางจิตตปัญญาศึกษาสู่มหาวิทยาลัย ศาสตร์แห่งนพลักษณ์ (Enneagram). กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.
บารอน, อาร์. และ เวเกิล, เอ. (2549). มองคนด้วยมุมใหม่ เปลี่ยนใจให้เป็นสุข: เอ็นเนียแกรม คนเก้าแบบ. แปลจาก Enneagram made Easy. แปลโดย วาจาสิทธิ์ ลอเสรีวานิช. กรุงเทพฯ: มูลนิธิโกมลคีมทอง.
ประเวศ วะสี. (2557). วิถีมนุษย์ในศตวรรษที่ 21 : สู่ภพภูมิใหม่แห่งการพัฒนา. (พิมพ์ครั้งที่ 7). นครปฐม:
ศูนย์จิตตปัญญาศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล.
พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต). (2552). การบรรยายเรื่องจิตตปัญญาศึกษากับการพัฒนาสังคมไทย. วารสารศึกษาทั่วไปมหาวิทยาลัยขอนแก่น, 5(3) (กันยายน – ธันวาคม 2555), 1 – 14.
มนัส สุวรรณ. (2552). ระเบียบวิธีวิจัยทางสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.
มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่. (2558). หลักสูตรหมวดวิชาศึกษาทั่วไป มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2558). เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.
สำนักงานเลขาธิการสภาศึกษา และศูนย์วิจัยและพัฒนาจิตตปัญญาศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (2552). ศาสตร์แห่งนพลักษณ์. กรุงเทพฯ: ภาพพิมพ์.
สนิท สัตโยภาส. (2560). จิตตปัญญาศึกษา: นวัตกรรมการพัฒนาคุณลักษณะคนไทยที่พึงประสงค์ให้แก่แผ่นดิน. (พิมพ์ครั้งที่ 4). เชียงใหม่: วนิดาการพิมพ์.
อำไพพรรณ์ เอกอาภรณ์ภิรมย์. (2557). กลวิธีส่งเสริมคุณลักษณ์ทางสังคมของเยาวชนตามแนวจิตตปัญญาศึกษา. เชียงราย: มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย.
Raitamaki, S. (2012). How does Enneagram help in developing Emotional Intelligence at work?. Holland: University of Applied Sciences.
Komasi, S., Soroush, A., Nazeie, N., Saeidi, M., and Sakiei, A. (2016). Enneagram of personality as an effective model in the prediction of the risk of cardiovascular diseases: A case-control study. Retrieved from http://jctm.mums.ac.ir