แนวทางการพัฒนางานวิชาการของโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรัก เทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา จังหวัดเชียงใหม่
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและข้อเสนอแนะการบริหารงานวิชาการและเพื่อศึกษาเสนอแนวทางการพัฒนาการบริหารงานวิชาการ โรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา จ. เชียงใหม่ ประชากรในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหาร ครูผู้สอน ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษา รวมทั้งหมด 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลประกอบด้วย แบบสอบถามและประเด็นสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้การหาค่าเฉลี่ย () หาค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis) ผลการวิจัยพบว่า สภาพการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนอนุบาลสานสายใยรักเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา มีการบริหารใน 7 ด้านมีการปฏิบัติระดับมาก 3 ด้าน คือ ด้านการพัฒนาสื่อการสอน (µ = 3.51, σ = 0.70) ด้านการพัฒนาการใช้แหล่งเรียนรู้ (µ = 3.51, σ = 0.76) และการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาในสถานศึกษา (µ = 3.51, σ = 0.63) รองลงไปมีการปฏิบัติ ระดับปานกลาง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการพัฒนาระบบประกันคุณภาพ (µ = 3.37, σ = 0.75) ด้านการวัดผลประเมินผล (µ = 3.27, σ = 0.85) ด้านการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ (µ = 3.23, σ = 0.91) และด้านการพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษา (µ = 3.21, σ = 0.74) สถานศึกษามีปัญหา การพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษา การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ การวัดผลประเมินผล การพัฒนาระบบประกันคุณภาพ (µ = 3.37, 3.27, 3.23, 3.21 และ σ = 0.75, 0.85, 0.91, 0.74 ตามลำดับ) กลุ่มเป้าหมายได้ยืนยันข้อค้นพบด้านแนวทางการพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการที่ประกอบด้วย การมีส่วนร่วม ใน 4 ขั้นตอน ได้แก่การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ การมีส่วนร่วมในการดำเนินงาน การมีส่วนร่วมรับผลประโยชน์ และการมีส่วนร่วมประเมินผล เพื่อดำเนินการบริหารงานวิชาการ 7 งาน ประกอบด้วยงานพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา งานพัฒนาการจัดการเรียนรู้ งานวัดผลประเมินผล งานพัฒนาระบบประกันคุณภาพ งานพัฒนาสื่อการสอน งานพัฒนาส่งเสริมการใช้แหล่งเรียนรู้ และงานวิจัยเพื่อคุณภาพการศึกษา โดยให้ชื่อรูปแบบดังกล่าวว่าการมีส่วนร่วมแบบ DMIBE เพื่อการบริหารงานวิชาการแก่สถานศึกษา ประกอบด้วย Decision Making, Implementation, Benefits และ Evaluation
Downloads
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: กระทรงศึกษาธิการ
คัมภีร์ สุดแท้, สมชาย วงศ์เกษม และสุวิมน โพธิ์กลิ่น. (2553). การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการสำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 4(2), 8-16.
ดรุณี จันทร์แก้ว. (2554). การบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วมของผู้บริหารโรงเรียนตามการรับรู้ของครูวิชาการ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมจังหวัดนราธิวาส. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
ถวิลวดี บุรีกุล. (2551). การมีส่วนร่วม : แนวคิดทฤษฎีและกระบวนการ. กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า.
นพรัตน์ สังข์ทอง, ธนีนาฎ ณ สุนทร และกาญจนา ภัทภวิวัฒนา. (2554). การมีส่วนร่วมในการบริหารงานวิชาการ ของครูปฐมวัยโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 2. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น).
นันท์ชพร การสมดี. (2554). การมีส่วนร่วมพัฒนาท้องถิ่นของประชาชนในเทศบาล ตำบลเมืองเล็น อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่. (การค้นคว้าอิสระรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่).
บุญชม ศรีสะอาด. (2553). วิจัยเบื้องต้น. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
ประเสริฐ ผลิตผลพิมพ์. (2556). ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21...ทักษะสำหรับ AEC. เอกสารประกอบการประชุม “การประเมินคุณภาพสถานศึกษา”. กรุงเทพฯ: สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนา.
ปรียาพร วงศ์อนุตรโรจน์. (2553). การบริหารงานวิชาการ. กรุงเทพฯ: พิมพ์ดี
ปิยนุช สมสมัย. (2553). การมีส่วนร่วมของชุมชนในการสร้างพื้นที่สาธารณะ กรณีศึกษา ชุมชนโฟรโมสต์ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพ. (ปริญญานิพนธ์ภูมิสถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาภูมิสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร).
รุ่งชัชดาพร เวหะชาติ. (2550). การบริหารงานวิชาการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. สงขลา: ศูนย์หนังสือ.
สันติ บุญภิรมย์. (2552). หลักการบริหารงานวิชาการ. กรุงเทพฯ: บุคพอยท์.
สุภาพร รัตน์น้อย. (2552). ความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ทักษะการบริหารงานกับการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสมุทรปราการ เขต 2. (ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร.