ความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจในงานและความผูกพันต่อองค์การของพนักงานโรงแรมอิมพีเรียล จังหวัดสกลนคร
Main Article Content
Abstract
ความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจในงานและความผูกพันต่อองค์การของพนักงานโรงแรมอิมพีเรียล จังหวัดสกลนคร
THE RELATIONSHIP BETWEEN JOB SATISFACTION AND ORGANIZATIONAL COMMITMENT OF ‘IMPERIAL HOTEL’ EMPLOYEES, SAKON NAKHON PROVINCE
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย 1) เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจในงานของพนักงาน โรงแรมอิมพีเรียล จังหวัดสกลนคร 2) เพื่อศึกษาระดับความผูกพันต่อองค์การ ของพนักงาน โรงแรมอิมพีเรียลจังหวัดสกลนคร 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจในงานกับความผูกพันต่อองค์การของพนักงานโรงแรมอิมพีเรียล จังหวัดสกลนคร ประชากรกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ พนักงานโรงแรมอิมพีเรียล จังหวัดสกลนคร ที่ปฏิบัติงานในปี 2557 ทั้งหมดจำนวน 90 คน เครื่องมือที่ใช้ในวิจัยเป็นแบบสอบถามชนิดตรวจสอบรายการ และมาตราส่วนประมาณ มีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามเท่ากับ .86 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าความถี่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ ของเพียร์สัน (Pearson's Product Moment Correlation Coefficient)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีจำนวน 56 คน คิดเป็นร้อยละ 62.2 มีอายุส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 31 – 40 ปี จำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 33.3 มีระดับการศึกษาสูงสุดส่วนใหญ่อยู่ชั้นมัธยมต้น จำนวน 29 คน คิดเป็นร้อยละ 32.3 มีตำแหน่งงานส่วนใหญ่เป็นพนักงาน จำนวน 87 คน คิดเป็นร้อยละ 96.7 มีระยะเวลาที่ทำงานส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง น้อยกว่า 2 ปี จำนวน 28 คน คิดเป็นร้อยละ 31.1 มีรายได้ส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 5,000 – 10,000 บาท จำนวน 53 คน คิดเป็นร้อยละ 58.9
2. ความพึงพอใจในการทำงานของพนักงานโรงแรมอิมพีเรียล จังหวัดสกลนคร โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก คือ ด้านลักษณะงาน รองลงมาด้านความสัมพันธ์กับเพื่อน ด้านเงินเดือน ด้านผลประโยชน์ ด้านสภาพการทำงาน ด้านการนิเทศงาน ด้านการบริหารงาน ด้านการได้รับการยอมรับนับถือ และด้านการเลื่อนตำแหน่งงาน ตามลำดับ
3. ความผูกพันต่อองค์การของพนักงานโรงแรมอิมพีเรียล จังหวัดสกลนคร โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก คือ ด้านความเต็มใจที่จะทุ่มเทความพยายามที่จะปฏิบัติงานเพื่อองค์การ รองลงมาด้านความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะดำรงความเป็นสมาชิกขององค์การ และด้านความเชื่อมั่นและการยอมรับในเป้าหมายขององค์การ ตามลำดับ
4. ความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจในงาน และความผูกพันต่อองค์การ ของพนักงานโรงแรมอิมพีเรียล จังหวัดสกลนคร พบว่า มีความสัมพันธ์อยู่ในระดับสูง โดยมีค่าสหสัมพันธ์ (r = .738**) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ความพึ่งพอใจในด้านการบริหารงาน มีความสัมพันธ์อยู่ในระดับสูง (r = .734**) รองลงมาได้แก่ด้านการนิเทศงาน มีความสัมพันธ์อยู่ในระดับสูง (r = .721**) และด้านลักษณะงาน มีความสัมพันธ์อยู่ในระดับปานกลาง (r = .681**)
ABSTRACT
The purposes of this study were: 1) to investigate a degree of job satisfaction of employees of Imperial Hotel, Sakon Nakhon province, 2) to examine a degree of organizational commitment of the employees of Imperial Hotel, Sakon Nakhon province, and 3) to examine the relationship between job satisfaction and organizational commitment of employees of Imperial Hotel, Sakon Nakhon province. The target group population used in this study was 90 employees of Imperial Hotel, Sakon Nakhon province who did their job in 2014. The instrument used was a checklist and 5-rating scale questionnaire whose reliability coefficient was .86.Statistics used for data analysis were percentage, frequency, mean, standard deviation, and Pearson’s product moment correlation coefficient.
The findings were as follows:
1. General data of the target group showed that most of them were 56 females or 62.2%; 30 of them or 33.3% had an age in the 31-40 age range; 29 of them or 32.3% had their educational attainment at lower secondary school level; 87 of them or 96.7% had their position as an employee; 28 of them or 31.1% had their work experience of ‘lower than 2 years’; 53 of them or 58.9% had their income in the 5,000-10,000 baht range.
2. Job satisfaction of employees of Imperial Hotel, Sakon Nakhon province as a whole was at high level. The first ranking aspect was of work itself. The secondary aspects were of relations with co-workers, salary, benefit, working condition, supervision, management, being recognized, and position mobility respectively.
3. Organizational commitment of employees of Imperial Hotel, Sakon Nakhon province as a whole and each aspect was at high level. The first ranking aspect was of willingness to be dedicated to the endeavor to work for the organization. The secondary aspects were of strong desire to maintain their membership in the organization and of confidence in and admission of the targets of organization.
4. Job satisfaction and organizational commitment of employees of Imperial Hotel, Sakon Nakhon province were highly correlated (r = .738**). Considering job satisfaction by aspect in relation with organizational commitment, the aspects of job satisfaction found being highly related to organizational commitment comprise ‘being satisfied with management’ and ‘supervision’, which showed a significantly high relationship (r = .734 ** and r = .721 **) respectively at the .01 level. One aspect of job satisfaction related to organizational commitment was that of ‘work itself’ which showed a significantly moderate relationship (r = .681**) at the .01 level.
Article Details
บทความทุกบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ถือว่าเป็นลิขสิทธิ์ของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร