THE MODEL OF PUBLIC RELATIONS ADMINISTRATION IN SCHOOLS IN THE NEW NORMAL ERA UNDER THE SECONDARY EDUCATIONAL SERVICE AREA OFFICE LOEI–NONG BUA LAM PHU
Main Article Content
Abstract
The purposes of this research were 1) to examine the current and desirable conditions, and need for public relations (PR) administration in schools in the new normal era, 2) to develop the model for PR administration in schools in the new normal era, and 3) to assess the model of PR administration in schools in the new normal era. The research was divided into three phases: Phase 1 investigated the current and desirable conditions, as well as the needs of 311 school administrators and teachers, selected using Krejcie & Morgan’s table and stratified random sampling, with questionnaires as the research tool. Phase 2 developed the model of PR administration in schools in the new normal era, with two stages: Stage 1 was a multi–case study using semi–structured interviews with a target group of three school administrators. Stage 2 was a focus group discussion with nine experts for data confirmation, using a focus group recording form as a research tool. Phase 3 was a model assessment by five experts, using a form of assessing the developed model. Statistics for quantitative data analysis included mean, mean, standard deviation, and Modified Priority Needs Index (PNIModified). Qualitative data were analyzed using the content analysis method.
The results revealed that: current conditions were overall at a high level, while desirable conditions were overall at the highest level. The need in terms of gathering feedback was ranked as the highest priority The components of the developed model consisted of six aspects: 1) title, 2) principles, 3) objectives, 4) six approaches, including information inquiries, school PR planning, PR communication, PR action, and monitoring and evaluation, 5) success conditions, and 6) evaluation methods. The evaluation results from the developed model were rated at a high level, in descending order: utility, feasibility, and propriety.
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความทุกบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ถือว่าเป็นลิขสิทธิ์ของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
References
กรรณิการ์ อัศวดรเดชา. (2550). การสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจ. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2547). ปฏิรูปการศึกษายุคใหม่. กรุงเทพฯ: องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.
_______. (2553). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์ การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
เกรียงไกร สุพรรณ. (2561). รูปแบบการบริหารจัดการการประชาสัมพันธ์ในสถานศึกษาเอกชน ในเขตกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ ค.ม. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ.
จารุวรรณ อรุณฤกษ์. (2552). การประชาสัมพันธ์. เพชรบุรี: สถาบันราชภัฏเพชรบุรี.
จินดา ศรีญาณลักษณ์. (2561). วิเคราะห์องค์ประกอบของปัญหาและแนวทางแก้ไขการบริหารงานประชาสัมพันธ์ในโรงเรียน. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.
จิรายุ คุณสืบพงษ์พันธ์. (2563). รูปแบบการบริหารงานประชาสัมพันธ์ของโรงเรียนเอกชนในยุคดิจิทัลสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน จังหวัดชลบุรี. วิทยานิพนธ์ ค.ม. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ.
จุฑามาศ กิจเจริญ. (2559). สื่อสารโฆษณา. กรุงเทพฯ: ศูนย์ตำราอาจารย์นิมิตร จิวะสันติการ.
ทาลินี แตรรูปวิไล. (2560). รูปแบบการบริหารการประชาสัมพันธ์ของวิทยาลัยเทคโนโลยีธุรกิจการอาหารไทยและนานาชาติ. วิทยานิพนธ์ ค.ม. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธนบุรี.
พรทิพย์ วรกิจโภคาทร และคณะ. (2554). เอกสารประกอบการบรรยายวิชาการใช้สื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
วิรัช ลภิรัตนกุล. (2553). การประชาสัมพันธ์ (ฉบับสมบูรณ์). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ศศลักษณ์ บุณยรักษ์. (2565). รูปแบบการบริหารการประชาสัมพันธ์ที่มีประสิทธิผลโดยใช้สื่อสังคมออนไลน์ของโรงเรียนอนุบาลเอกชนในกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ ค.ม. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ.
สมาน อัศวภูมิ. (2550). การพัฒนารูปแบบการบริหารการประถมศึกษาระดับจังหวัด. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี, 2(7), 83–84.
สุภาภรณ์ พรหมบุตร. (2563). New normal กับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลง. เข้าถึงได้จาก https://dsp.dip.go.th/th/category/2017–11–27–08–04–02/2020–06–29–14–39–49. 25 กรกฎาคม 2563.
สุวิทย์ หอมสมบัติ (2565). การพัฒนารูปแบบการประชาสัมพันธ์ที่มีประสิทธิผลของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2. วิทยานิพนธ์ ค.ม. สกลนคร: มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
สุวิมล ว่องวาณิช. (2550). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อรอนงค์ โวหารา. (2553). ความต้องการพัฒนางานประชาสัมพันธ์โรงเรียน ในโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดกรมสามัญศึกษา จังหวัดอุดรธานี. มหาสารคาม: งานวิจัยมหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
Krejcie, R.V., & D.W. Morgan. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607–610.
Likert, R. (1967). The human organization: its management and values. New York: McGraw–Hill.