การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์โดยใช้สมองเป็นฐานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนขยายโอกาส สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ศรีสะเกษ เขต 1
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน เรื่องการให้เหตุผลทางเรขาคณิต รายวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานของกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม ในโรงเรียนขยายโอกาส สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 และ 3) เพื่อศึกษาระดับการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนบ้านตำแยหนองเม็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาศรีสะเกษเขต 1 จำนวน 1 ห้องเรียน นักเรียนจำนวน 16 คน เป็นกลุ่มทดลอง และนักเรียนโรงเรียนบ้านเปือยประชาสามัคคี จำนวน 16 คน เป็นกลุ่มควบคุม ใช้การสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม โดยใช้โรงเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง การให้เหตุผลทางเรขาคณิตโดยสมองเป็นฐานสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2 แบบสังเกตพฤติกรรมการให้เหตุผล จำนวน 3 ฉบับ แบบทดสอบระหว่างเรียนของแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 3 ชุด แบบทดสอบวัดระดับการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ จำนวน 3 ข้อ และ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ เรื่องการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบที
ผลการวิจัยพบว่า
- การจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน เรื่อง การให้เหตุผลทางเรขาคณิต รายวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในโรงเรียนขยายโอกาส สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.79/81.25
- ผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานในโรงเรียนขยายโอกาส สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 ของกลุ่มทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
- ระดับการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ส่วนใหญ่อยู่ใน ระดับ 2 คิดเป็นร้อยละ 56.25 ของจำนวนตัวอย่าง รองลงมา ได้แก่ ระดับ 3 คิดเป็นร้อยละ 18.75 ของจำนวนตัวอย่าง, ระดับ 4 และระดับ 1 คิดเป็นร้อยละ 12.5 ของจำนวนตัวอย่างตามลำดับ
เอกสารอ้างอิง
เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษเขต 1, สำนักงาน. ข้อมูล DMC 2566, (ออนไลน์) 2566 (อ้างเมื่อ 16ธันวาคม 2566) จาก http://data.ssk.in.th/661/index.php
จิรารัตน์ บุญส่งค์. ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 2559
ทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ, สถาบัน. รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET). (ออนไลน์) 2566
(อ้างเมื่อ 16 ธันวาคม 2566). จาก http://www.newonetresult.niets.or.th/AnnouncementWeb/Login.aspx
วราภรณ์ เพ็ชชะ. การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ วิชาคณิตศาสตร์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสมองเป็นฐาน (Brain Based Learning : BBL) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี, 2563
ศศิมา สุขสว่าง. 5 ขั้นตอนในการตัดสินใจอย่างสร้างสรรค์ ที่ดีสำหรับผู้นำ โดยศศิมา สุขสว่าง. (ออนไลน์) 2566 (อ้างเมื่อ 10 มกราคม
. จาก https://www.sasimasuk.com
ศึกษาธิการ, กระทรวง. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, 2560
ศุภณัฐ ดิลกคุณธรรม. รายงานการจัดกิจกรรมตามแนวคิดสมองเป็นฐาน (BBL) วิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง เศษส่วน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 2; 15 มีนาคม 2565. กำแพงเพชร: มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร, 2565.หน้า 37
สมชาย รัตนทองคำ. เอกสารประกอบการสอนทางกายภาพบำบัด. ขอนแก่น: คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 2556
สมวงษ์ แปลงประสพโชค. ผลสำรวจสาเหตุเด็กไทยอ่อนคณิตศาสตร์และแนวทางแก้ไข, (ออนไลน์) 2553 (อ้างเมื่อ 10 มกราคม 2567).
จาก: http://www.intermathschool.com/th/news?id=5
Connell. The Global Aspects of Brain-Based Learning. (online) 2009 (cite 10 January 2024) from https://files.eric.ed.gov /fulltext/EJ868336.pdf
Jensen. Brain-Based Learning. Mahwah: Lawrence Erlbaum, 2000
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจความถูกต้องทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกอย่างน้อย 2 คน ความคิดเห็นในวารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนมิใช่ความคิดเห็นของผู้จัดทำ จึงมิใช่ ความรับผิดชอบของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี และบทความในวารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี สงวนสิทธิ์ตามกฎหมายไทย การจะนำไปเผยแพร่ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากกองบรรณาธิการ