สภาพการบริหารการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษายุคดิจิทัล ในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 1
คำสำคัญ:
การบริหารการเปลี่ยนแปลง , การบริหารโรงเรียนยุคดิจิทัลบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการบริหารการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษายุคดิจิทัลในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 1 2) เปรียบเทียบสภาพการบริหารการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษายุคดิจิทัลในโรงเรียนประถมศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 1 จำแนกตามตำแหน่ง ประสบการณ์ในการทำงาน และขนาดโรงเรียน และ 3) ศึกษาแนวทางการบริหารการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษา
ยุคดิจิทัลในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 1 โดยศึกษาสภาพการบริหาร
การเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษายุคดิจิทัลในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 1 ใน 4 ด้าน คือ ด้านโครงสร้างองค์การ ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ด้านบุคลากร และด้านวัฒนธรรมองค์การ ตัวอย่างที่ใช้ ได้แก่
1) ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 31 คน และครูผู้สอน จำนวน 310 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 341 คน ได้มาโดยการกำหนดขนาดตัวอย่างจากตารางสำเร็จรูป Krejcie และ Morgan โดยใช้การสุ่มแบบชั้นภูมิอย่างเป็นสัดส่วน 2) กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการสัมภาษณ์ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน จำนวน 6 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .98 และแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง สถิติที่ใช้ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที การทดสอบเอฟ และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
- สภาพการบริหารการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษายุคดิจิทัลในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 1 พบว่า โดยภาพรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมาก
- การเปรียบเทียบสภาพการบริหารการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษายุคดิจิทัลในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 1 จำแนกตามตำแหน่งและประสบการณ์การทำงาน โดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน ส่วนจำแนกตามขนาดสถานศึกษา โดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
- แนวทางการบริหารการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษายุคดิจิทัลในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 1 พบว่า 1) ด้านโครงสร้างองค์การ ผู้บริหารสถานศึกษาศึกษาสถานการณ์ปัจจุบัน
ของสถานศึกษา กำหนดนโยบาย และทิศทางการบริหารที่มีความยืดหยุ่น เน้นการมีส่วนร่วม ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการขับเคลื่อนการบริหารงาน 4 ฝ่าย ส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2) ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ผู้บริหารสถานศึกษาใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความเข้าใจและตระหนักต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ส่งเสริมและสนับสนุนงบประมาณ สื่อ วัสดุ อุปกรณ์ที่มีความทันสมัย 3) ด้านบุคลากร ผู้บริหารสถานศึกษามีการสื่อสาร สร้างความเข้าใจ การยอมรับต่อการเปลี่ยนแปลง สร้างแรงจูงใจในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง นำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ในการปฏิบัติงานและจัดการเรียนรู้ ส่งเสริมให้ครูและบุคลากรพัฒนาตนเองในด้าน ICT อย่างสม่ำเสมอ 4) ด้านวัฒนธรรมองค์การ ผู้บริหาร
มีการปรับกระบวนการคิด วิสัยทัศน์และความเชื่อมั่น สร้างค่านิยมและบรรทัดฐานการทำงานแบบใหม่ภายใต้การนำเทคโนโลยี
มาใช้ในการอำนวยความสะดวก ให้เป็นแนวทางใหม่ของการดำเนินงานของสถานศึกษา
เอกสารอ้างอิง
คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ, สำนักงาน. การจัดการความรู้กับการบริหารราชการแนวใหม่. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการ
พัฒนาระบบราชการ, 2552.
ฐานิตา ลิ่มวงศ์ และยุพาภรณ์แสงฤทธิ์. “ห้องเรียนกลับด้าน: การเรียนรู้แนวใหม่สำหรับศตวรรษที่ 21 (21st Century Skills), ”
วารสาร Mahidol R2R e-Journal. 6, 2 (กรกฏาคม-ธันวาคม 2562): 9-17.
ณัฏฐพันธ์ เขจรนันทน์. พฤติกรรมองค์การ. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2551.
นครินทร์ ธิยะภูมิ. “การบริหารการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่,”
วารสารนาคบุตรปริทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช, 2, 12 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2563): 143-144.
ปัณรส มาลากุล. การบริหารการเปลี่ยนแปลง. กรุงเทพฯ: ภาควิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2552
พระมหาวีรศักดิ์ สุรเมธี. “แนวทางการบริหารการเปลี่ยนแปลงของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยในทศวรรษหน้า,” วารสารวิชาการ
มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น. 8, 1 (มิถุนายน-พฤศจิกายน 2557): 143-152.
วีรยุทธ กองหล้า. การบริหารการเปลี่ยนแปลงของสถานศึกษา กลุ่มโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 4. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยพะเยา, 2565.
ศึกษาธิการ,กระทรวง. หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2551.
สงบ อินทรมณี. การบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยี
อีสเทิร์น, 2562.
สุเทพ เชาวลิต. การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: เสมาธรรม, 2551
สุพิษา มีตา. “การศึกษาแนวทางการพัฒนาการบริหารการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธ์,” วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม. 17, 3 (กันยายน-
ธันวาคม 2566): 329-338.
อภิชญา ใช้ไหวพริบ. “การบริหารการบริหารการเปลี่ยนแปลงในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานอำเภอแม่วงก์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 2 ตามทัศนคติของครู,” วารสารวิจยวิชาการ, 2, 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2562): 69-86.
อุ่นเรือน อ่ำบุญ. การบริหารการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารโรงเรียนในจังหวัดลพบุรี สังกัดสํานักงานเขตพื้นทีการศึกษามัธยมศึกษา
เขต 5. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยพะเยา, 2558.
เอกชัย กี่สุขพันธ์ และคณะ. การบริหารการเปลี่ยนแปลง. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2553.
. การบริหารสถานศึกษายุคดิจิทัล (School Management in Digital Era). (ออนไลน์) 2559 (อ้างเมื่อ 18 ตุลาคม 2566)
จาก http://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/
Brandt, Julie. Transforming Education with Talent Management. School Business Affairs. 77, 1 (January 2011) 30-31.
Gurr, David. The Impact of Information and Communication Technologies on Informal Scholarly Scientific
Communication. A naturalistic inqury Approach. 64, 6 (September 2015) 428-445.
Kotter, J.P. Leading Change. Massachusetts: Harvard Business School Press, 1996.
Krejcie, R.V., and D.W. Morgan. “Determining Sample Size for Research Activities”. Educational and Psychological
Measurement. 30, 3 (1970): 607-610.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจความถูกต้องทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกอย่างน้อย 2 คน ความคิดเห็นในวารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนมิใช่ความคิดเห็นของผู้จัดทำ จึงมิใช่ ความรับผิดชอบของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี และบทความในวารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี สงวนสิทธิ์ตามกฎหมายไทย การจะนำไปเผยแพร่ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากกองบรรณาธิการ