การวิเคราะห์อภิมานในงานวิจัยด้านการจัดการเรียนการสอน
คำสำคัญ:
การสังเคราะห์งานวิจัย, การวิเคราะห์อภิมาน, การจัดการเรียนการสอนบทคัดย่อ
การสังเคราะห์งานวิจัยด้านการจัดการเรียนการสอนด้วยวิธีวิเคราะห์อภิมานเป็นเทคนิคการวิเคราะห์งานวิจัยที่ใช้วิธีการทางสถิติมาสังเคราะห์งานวิจัยเชิงปริมาณหลายเรื่อง ที่ศึกษาเกี่ยวกับผลของการจัดการเรียนการสอนด้วยแนวทางเทคนิควิธีต่าง ๆ เพื่อหาข้อสรุปอย่างมีระบบ เพื่อให้ได้ผลการวิจัยที่มีความถูกต้อง มีแก่นสาร น่าเชื่อถือ จึงเป็นแนวทางที่สำคัญอย่างยิ่งในการได้มาซึ่งองค์ความรู้ที่สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างสูงสุดในด้านการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ เกิดผลสำเร็จตามความมุ่งหวัง และทำให้ผู้เรียนเกิดจากเรียนรู้ได้อย่างแท้จริง ในการวิเคราะห์อภิมานสามารถทำได้กับงานวิจัยเชิงการศึกษาความสัมพันธ์และงานวิจัยเชิงทดลอง ข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์งานวิจัยประกอบด้วยข้อมูลสองส่วน ส่วนแรกเป็นข้อมูลจากผลการวิจัยในแต่ละเรื่อง วัดในรูปดัชนีมาตรฐาน ได้แก่ ดัชนีขนาดอิทธิพล และดัชนีสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ ข้อมูลส่วนที่สองเป็นข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะงานวิจัยที่นำมาสังเคราะห์ บทความนี้ได้นำเสนอแนวคิดของการวิเคราะห์อภิมาน การนำการวิเคราะห์อภิมานมาใช้ในการสรุปองค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัยเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน ประโยชน์ของการวิเคราะห์อภิมาน ขั้นตอนการวิเคราะห์อภิมานซึ่งประกอบไปด้วย ขั้นตอนที่ 1 การกำหนดปัญหา และวัตถุประสงค์การวิจัย ขั้นตอนที่ 2 การศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย ขั้นตอนที่ 3 การรวบรวมข้อมูล ขั้นตอนที่ 4 การวิเคราะห์ข้อมูล และขั้นตอนที่ 5 การสรุปและนำเสนอรายงาน รวมถึงข้อจำกัดของการวิเคราะห์อภิมานและการแก้ไขข้อจำกัดเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ถูกต้อง แม่นยำ และน่าเชื่อถืออย่างแท้จริง
เอกสารอ้างอิง
นงลักษณ์ วิรัชชัย. วิเคราะห์อภิมาน (Meta-Analysis). กรุงเทพฯ: นิชินแอดเวอร์ไทซิ่งกรุฟ, 2542.
นงลักษณ์ วิรัชชัยและสุวิมล ว่องวานิช. การสังเคราะห์งานวิจัยทางการศึกษาด้วยการวิเคราะห์อภิมานและการวิเคราะห์เนื้อหา. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี, 2541.
พิชิต ฤทธิ์จรูญ. การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ปฏิบัติการวิจัยในชั้นเรียน. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2553.
สุพัฒน์ สุกมลสันต์. การอภิวิเคราะห์และการสังเคราะห์ งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ในระหว่างปี พ.ศ. 2515-2530. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิตสาขาการสอนภาษาอังกฤษ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2535.
สุวัฒนา สุวรรณเขตนิคม. “การพัฒนาครูมืออาชีพด้วยการวิจัยในชั้นเรียน,” วารสารครุศาสตร์. 29, 3 (มีนาคม – มิถุนายน 2544): 15–25.
Cohen, J. Statistical Power Analysis for Behavioral Sciences. New York: Academic Press, 1976.
Glass, G.V. B. McGaw and M.L. Smith. Meta – Analysis in Social Research. Beverly Hills: Sage Publications, 1981.
Hedges, L. V., and I. Olkin. Statistical methods for meta-analysis. Orlando: Academic Press, 1985.
Hunter, J.E, F.L. Schmidt and G.B. Jackson. Meta Analysis: Cumulating Reseach Findings Across studies. Beverly Hills: Sage Publications, 1982.
Jain, V., R. Sharma and S. Sing. “Doing Meta- Analysis in Research: A Systematic Approach,” Indian Journal of Dermatology Venereology and Leprology. 78, 3 (May–June 2012): 242-250.
Mullen, Brian. Advanced Basic Meta-Analysis. New Jersey: Lawrence Erlbaum Associates, Inc, 1989
Rosenthal, R. Meta-analytic procedure for Social Research. Newbury Park: Sage Publications, 1991
Slavin, R. E. “Best-evidence synthesis: An alternative to meta-analytic and traditional reviews,” Journal of Clinical Epidemiology. 49, 1 (January 1995): 5-11.
Sutton AJ, Higgins JPT. “Recent developments in meta-analysis,” Statistics in Medicine. 27, 5 (June 2008): 625-50
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2021 วารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจความถูกต้องทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกอย่างน้อย 2 คน ความคิดเห็นในวารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนมิใช่ความคิดเห็นของผู้จัดทำ จึงมิใช่ ความรับผิดชอบของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี และบทความในวารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี สงวนสิทธิ์ตามกฎหมายไทย การจะนำไปเผยแพร่ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากกองบรรณาธิการ