สภาพการบริหารงานงบประมาณตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ศรีสะเกษ ยโสธร
คำสำคัญ:
การบริหารสถานศึกษา , งบประมาณ, ธรรมภิบาลบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการบริหารงานงบประมาณตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหาร สถานศึกษา เปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูปฏิบัติหน้าที่งานงบประมาณด้านตำแหน่ง ประสบการณ์ในตำแหน่ง และขนาดสถานศึกษา ศึกษาปัญหาและแนวทางการพัฒนาการบริหารงานงบประมาณตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาศรีสะเกษ ยโสธร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นผู้บริหารสถานศึกษาจำนวน 83 คน ครูปฏิบัติหน้าที่งานงบประมาณ จำนวน 249 คนรวมทั้งสิ้น332 คนโดยผู้วิจัยใช้ประชากรทั้งหมดเป็นกลุ่มเป้าหมายในการศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับและแบบสอบถามปลายเปิดค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามเท่ากับ 0.969 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ผลได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ในการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างตัวแปร ใช้สถิติการวิเคราะห์การทดสอบที การทดสอบเอฟ และการทดสอบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ่
ผลการวิจัยพบว่า
- สภาพการบริหารงานงบประมาณตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาศรีสะเกษ ยโสธร โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ หลักความมีส่วนร่วม ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูปฏิบัติหน้าที่งานงบประมาณ ที่มีต่อสภาพการบริหารงานงบประมาณตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาศรีสะเกษ ยโสธร โดยภาพรวมพบว่า ด้านประสบการณ์ในตำแหน่งมีความแตกต่างกันที่ระดับนัยสำคัญ .01 ด้านตำแหน่งและขนาดสถานศึกษาไม่แตกต่างกัน
- ปัญหาและแนวทางการพัฒนาสภาพการบริหารงบประมาณตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาศรีสะเกษยโสธร พบว่า ปัญหาส่วนมากบุคลากรขาดจิตสำนึกในการใช้ทรัพยากรและการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าในสถานศึกษาแนวทางในการพัฒนาผู้บริหารสถานศึกษาเสนอให้มีการ จัดกิจกรรมเพื่อสร้างความเข้าใจและกระตุ้นให้บุคลากรใช้ทรัพยากรและงบประมาณได้อย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ มากที่สุด
เอกสารอ้างอิง
จีรนันท์ สมน้อย และฐิตินันท์ ด้วงสุวรรณ. สภาพและแนวทางการบริหารงบประมาณตามหลักธรรมาภิบาลของโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 2. วิทยานิพนธ์หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์, 2559.
ทวีวัฒน์ อินทรประเสริฐ. การปฏิบัติงานตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 17. ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต วิทยาลัยมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี, 2559.
นโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน, สำนัก. ปัจจัยที่ทำให้โรงเรียนขนาดเล็ก อยู่ได้อย่างมีคุณภาพ. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, 2557.
“พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542,” ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 116, ตอนที่ 74ก. หน้า 3-4. 19 สิงหาคม 2542.
“รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย,” ราชกิจจานุเบกษา. เล่มที่ 134 ตอนที่ 40. หน้า. 1-94. ปี 2560.
รัตนาภรณ์ ส่งเสริม และสุวิมล โพธิ์กลิ่น. การบริหารโรงเรียนตามหลักธรรมาภิบาลของ ผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 2558.
วิรัช วิรัชนิภาวรรณ. แนวคิดทางรัฐประศาสนศาสตร์ การประยุกต์ และการพัฒนา. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์, 2549.
สุพจน์ นันทะเทศ. ปัญหาและแนวทางการพัฒนาการบริหารงบประมาณของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้ว เขต 2. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 2559.
สุรเดช โสมาบุตร. แนวทางการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา
ขอนแก่น เขต 4. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัญฑิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 2560.
แสงเทียน จิตรโชติ. แนวทางการบริหารงบประมาณตามหลักธรรมาภิบาลสำหรับสถานศึกษาขยายโอกาส ในเขต
อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2562.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจความถูกต้องทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกอย่างน้อย 2 คน ความคิดเห็นในวารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนมิใช่ความคิดเห็นของผู้จัดทำ จึงมิใช่ ความรับผิดชอบของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี และบทความในวารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี สงวนสิทธิ์ตามกฎหมายไทย การจะนำไปเผยแพร่ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากกองบรรณาธิการ