การศึกษาความต้องการจำเป็นและแนวทางในการพัฒนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเพชรบูรณ์ เขต 1

ผู้แต่ง

  • เอกพจน์ สิงห์คำ สาขาวิชาบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
  • สุกัญญา แช่มช้อย สาขาวิชาบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

คำสำคัญ:

การประเมินความต้องการจำเป็น, แนวทางในการพัฒนาภาษาอังกฤษของผู้บริหาร, ผู้บริหารสถานศึกษา, ทักษะภาษาอังกฤษ

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความต้องการจำเป็นและแนวทางในการพัฒนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์เขต 1 มีขั้นตอนในการวิจัย 2 ขั้นตอน  ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาความต้องการจำเป็นในการพัฒนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์เขต 1 ตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 113 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ได้แก่  ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าดัชนีความสำคัญของลำดับความต้องการจำเป็น และขั้นตอนที่ 2 ศึกษาแนวทางในการพัฒนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของผู้บริหารสถานศึกษา โดยการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

  1. ความต้องการจำเป็นในการพัฒนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของผู้บริหารสถานศึกษา ทั้ง 4 ทักษะ พบว่า ค่าดัชนีลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็นเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ ด้านที่ 1 ทักษะการอ่าน พบว่า มีความต้องการจำเป็นที่จะต้องพัฒนามากที่สุด คือ ความสามารถอ่านและเข้าใจความหมายแฝง ด้านที่ 2 ทักษะการเขียนพบว่ามีความต้องการจำเป็นที่จะต้องพัฒนามากที่สุด ความสามารถเขียนวาระการประชุมเป็นภาษาอังกฤษได้ ด้านที่ 3 ทักษะการฟัง พบว่า มีความต้องการจำเป็นที่จะต้องพัฒนามากที่สุด คือ ความสามารถอ้างอิงกับเรื่องที่ฟังตามบริบทหรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ด้านที่ 4 ทักษะการพูดพบว่า มีความต้องการจำเป็นที่จะต้องพัฒนามากที่สุด คือ ความสามารถในการพูดบรรยายและนำเสนอได้อย่างดีเยี่ยมใกล้เคียงกับเจ้าของภาษา
  2. แนวทางการพัฒนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของผู้บริหารสถานศึกษา ได้แก่ ด้านที่ 1 ทักษะการอ่านประกอบด้วยแนวทางการพัฒนา 2 แนวทาง ด้านที่ 2 ทักษะการเขียน ประกอบด้วยแนวทางการพัฒนา 2 แนวทาง ด้านที่ 3 ทักษะการฟัง ประกอบด้วยแนวทางการพัฒนา 3 แนวทาง ด้านที่ 4 ทักษะการพูด ประกอบด้วยแนวทางการพัฒนา 3 แนวทาง

 

เอกสารอ้างอิง

คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, สำนักงาน. ความเป็นมาและความสำคัญของภาษาอังกฤษ. (ออนไลน์) 2559 (อ้างเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2559). จากhttp://english.obec.go.th/english/2013/index.php/th/2012-08-08-06-24-42/2012-08-08-06-25-22

จิตพิสุทธิ์ จันตะคุต. ความสำคัญของภาษาอังกฤษ. ห้องเรียนครูจิตพิสุทธิ์. (ออนไลน์) 2559 (อ้างเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2559). จาก https://sites.google.com/site/krujitpisut/khwam-sakhay-khxng-phasa-xangkvs

จรรยา ชาญสมุทร. การศึกษาการใช้เอกสารจริงเพื่อการพัฒนาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. สารนิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2551.

ณศิญา เชลี. การเขียนเพื่อสื่อความหมาย. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภา, 2555.

ณิชกานต์ สมสะอื้น และคณะ. การพัฒนาชุดกิจกรรมตามแนวทฤษฎีผังมโนทัศน์ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยนเรศวร, 2552.

ต่อตระกูล บุญปลูก. การเตรียมความพร้อมด้านการจัดการเรียนรู้ของครูและผู้บริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ. 2558: กรณีศึกษาโรงเรียนบ้านเวียง พานในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3. สาระนิพนธ์ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง, 2557.

นายกรัฐมนตรี, สำนัก. พระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติ พ.ศ. 2542. กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิค, 2542.

บุญเกิด กลมทุกสิ่ง. “การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมภาษาอังกฤษสำหรับผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรีเขต 1,” วารสารการบริหารการศึกษามหาวิทยาลัยบูรพา. 8, 2 (เมษายน-กันยายน 2557): 58-68.

พระมหาประยูร สุยะใจ. องค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อปัญหาการเรียนภาษาอังกฤษของนิสิต คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วัดมหาธาตุ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร. สารนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2548.

ภิธาร คำสีทา.การพัฒนากิจกรรมการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ เรื่อง เกี่ยวกับปัญหาวัยรุ่นโดยวิธีการสอนของเมอร์ด็อค (MIA). การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองการศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยนเรศวร, 2559.

มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. การอ่านภาษาอังกฤษ English Reading. กรุงเทพฯ: ประชุมช่าง, 2545.

วรรณิสา บัวเผื่อน. การพัฒนาชุดกิจกรรมที่ส่งเสริมการเขียนภาษาอังกฤษโดยการใช้เรียนแบบร่วมมือ STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองการศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยนเรศวร, 2555.

วาทพันธ์ สาระจูม และคณะ. การพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีเรียนตรวจแก้งานด้วยตนเองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยนเรศวร, 2547.

วาสนา สิงห์ทองลา. การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาเพื่อการสื่อสาร. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตร์ มหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น, 2555.

วิชัย วงษ์ใหญ่. การพัฒนาหลักสูตรระดับอุดมศึกษา. กรุงเทพฯ: อาร์ แอนด์ ปริ้นท์, 2554.

ศึกษาธิการ, กระทรวง. หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544. กรุงเทพฯ: พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว), 2544.

ศึกษาธิการ, กระทรวง. แนวปฏิบัติตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่องนโยบายการปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จํากัด, 2557.

ศิลนภา ปัญญาพิม. แนวทางการพัฒนาความสามารถภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 26 สู่ประชาคมอาเซียน. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 2558.

สุวิมล ว่องวานิช. การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น. กรุงเทพฯ: วี.พริ้นท์, 2558.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-04-25

รูปแบบการอ้างอิง

สิงห์คำ เ. ., & แช่มช้อย ส. . (2020). การศึกษาความต้องการจำเป็นและแนวทางในการพัฒนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเพชรบูรณ์ เขต 1 . วารสารพิชญทรรศน์, 15(1), 213–228. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/Pitchayatat/article/view/241643

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย