แนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย - ลาว : กรณีศึกษาจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องตาอู อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี
คำสำคัญ:
การท่องเที่ยว, แนวทางการส่งเสริม, จุดผ่อนปรนทางการค้าบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาสภาพทั่วไปบริเวณจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องตาอู อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี 2) เพื่อศึกษาศักยภาพการท่องเที่ยวบริเวณจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องตาอู อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี และ 3) เพื่อศึกษาแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องตาอู อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ 5 แห่ง จำนวน 5 คน ผู้นำชุมชน/ชาวบ้าน จำนวน 20 คน และนักท่องเที่ยว จำนวน 260 คน ดำเนินการวิจัยโดยการสำรวจ สอบถาม และสัมภาษณ์ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา นำเสนอผลการวิจัยในรูปแบบการพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า (1) สภาพทั่วไปบริเวณจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องตาอู อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบุณฑริก - ยอดมน สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) อยู่ห่างจากตัวอำเภอบุณฑริก ประมาณ 14 กิโลเมตร จุดผ่อนปรนทางการค้าช่องตาอูเปิดอย่างไม่เป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2535 ตามข้อตกลงระหว่างอำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี กับเมืองสุขุมา แขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ต่อมาได้เปิดตามประกาศจังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ. 2539 เปิดทำการในวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 - 15.00 น. (2) จากการศึกษาศักยภาพการท่องเที่ยวของจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องตาอู พบว่า จุดผ่อนปรนทางการค้าช่องตาอูมีศักยภาพการท่องเที่ยวอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาจุดเด่นและจุดด้อย ตลอดจนความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวที่มีต่อแหล่งท่องเที่ยว การบริการการท่องเที่ยว และการตลาดการท่องเที่ยว (3) สำหรับแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องตาอู พบว่า (3.1) ประเด็นที่ควรพัฒนาปรับปรุงในด้านแหล่งท่องเที่ยวได้แก่ สาธารณูปโภคและการปรับปรุงตลาดการค้าของไทยให้เอื้อต่อการค้าและมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงพอ (3.2) ประเด็นที่ควรปรับปรุงในด้านการบริการการท่องเที่ยว ได้แก่ การขนส่งสาธารณะ ระบบการสื่อสาร และสิ่งอำนวยความสะดวก (3.3) ประเด็นที่ควรปรับปรุงด้านการตลาดการท่องเที่ยว ได้แก่ การประชาสัมพันธ์ การจัดทำแผนส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องตาอู และการจัดกิจกรรมแนะนำตลาดการค้าชายแดนช่องตาอู นอกจากนี้ควรสนับสนุนให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องตาอู
เอกสารอ้างอิง
บุญชม ศรีสอาด. การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาสน์, 2546.
ปาริฉัตร สิงห์ศักดิ์ตระกูล และพัชรินทร์ เสริมการดี. การศึกษาศักยภาพและแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของชุมชนบ้านทุ่งมะปรัง อำเภอควนโดน และบ้านโตนปาหนัน อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล. สุทธิปริทัศน์ (วารสารออนไลน์) 27; 83 (กรกฎาคม- กันยายน 2556): 97-112.
ปิยะพร ศรีสมุทร. แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวชายแดนแม่สาย - ท่าขี้เหล็ก อำเภอแม่สายจังหวัดเชียงราย. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2558.
ภาณุรังษี เดือนโฮ้ง. การศึกษาแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดมุกดาหารให้เป็นเมืองท่องเที่ยวชายแดน. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2550.
วรรณา วงษ์วานิช. ภูมิศาสตร์การท่องเที่ยว. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2546.
ณวัฒน์ แดงแก้ว และปาริชาติ ราชประดิษฐ์. แนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดการค้าชายแดนไทย - ลาว บริเวณจุดผ่อนปรนการค้าช่องภูดู่ อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์. (ออนไลน์) 2556 (อ้างเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2560). จาก https://www.bec.nu.ac.th/becweb/ graduate/Article/ 2556/mba/ %E0% B8% B8% A7.pdf
ศิรินันทน์ พงษ์นิรันดร, อชัญญา บัวธรรม และชัชชญา ยอดสุวรรณ. แนวทางในการพัฒนาศักยภาพการจัดการท่องเที่ยว อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา. วารสารวิทยาลัยบัณฑิตศึกษาการจัดการ มข. 9, 1 (มกราคม – มิถุนายน. 2559): 234-259.
สวนศรี มธุรา. แนวทางการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสะท้อนอัตลักษณ์ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ. วารสารกระแสวัฒนธรรม. (ออนไลน์) 2560 (อ้างเมื่อ ธันวาคม 2560).จาก www.culturalapproach. siam.edu/images/magazine/w17ch31/cul04.pdf
เสริมพันธ์ สาริมาน. ความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวที่มีต่อสถานที่ท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการในอุทยานแห่งชาติน้าตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี. ปัญหาพิเศษรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยบูรพา, 2543.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจความถูกต้องทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกอย่างน้อย 2 คน ความคิดเห็นในวารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนมิใช่ความคิดเห็นของผู้จัดทำ จึงมิใช่ ความรับผิดชอบของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี และบทความในวารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี สงวนสิทธิ์ตามกฎหมายไทย การจะนำไปเผยแพร่ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากกองบรรณาธิการ