การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงผลิตภาพร่วมกับ การจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน เรื่อง รูปเรขาคณิตสามมิติ เพื่อส่งเสริมความรู้สึกเชิงปริภูมิและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

Main Article Content

Safeenah Khunpalad
Vorrapot Saelee

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้เชิงผลิตภาพร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน เรื่อง รูปเรขาคณิตสามมิติ เพื่อส่งเสริมความรู้สึกเชิงปริภูมิและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากนั้นหาประสิทธิภาพ
และผลสัมฤทธิ์ของชุดกิจกรรมดังกล่าว แล้วทำการศึกษาผลการพัฒนาความรู้สึกเชิงปริภูมิ โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนนาวาวิทย์ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี จำนวน 30 ซึ่งได้จากการเลือกแบบกลุ่ม (Cluster Ramdom Sampling) ผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลโดยให้กลุ่มตัวอย่างทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและวัดความรู้สึกเชิงปริภูมิก่อนเรียนแล้วดำเนินการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรม ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น


จากนั้นทำแบบทดสอบหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ผู้วิจัยวิเคราะห์ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมตามเกณฑ์ E1/E2เท่ากับ 75/75 จากนั้นใช้สถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ การทดสอบที เพื่อเปรียบเทียบคะแนน ความรู้สึกเชิงปริภูมิก่อนและหลังเรียน เพื่อเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยชุดกิจกรรมที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น และเปรียบเทียบคะแนนความรู้สึกเชิงปริภูมิหลังเรียนกับเกณฑ์ร้อยละ 75 และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประศึกษาปีที่ 6 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง รูปเรขาคณิตสามมิติ โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงผลิตภาพ ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน 


            ผลการวิจัยพบว่า  1) ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์มีค่าเท่ากับ76.08/77.17  2) คะแนนเฉลี่ยความรู้สึกเชิงปริภูมิของนักเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05  3) คะแนนเฉลี่ยความรู้สึกเชิงปริภูมิของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05  4) คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ 0.05


 

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย (Research Articles)