Labor Shortage and Demand for Migrant Workers Employment of Hotel Business in Phuket Province การขาดแคลนแรงงานและความต้องการแรงงานต่างด้าวกลุ่มประเทศอาเซียนของธุรกิจโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต

Main Article Content

นงเยาว์ ประสมทอง

Abstract

การศึกษาการขาดแคลนแรงงานและความต้องการแรงงานต่างด้าวกลุ่มประเทศอาเซียนของธุรกิจโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต เป็นงานวิจัยเชิงสำรวจใช้เครื่องมือคือแบบสอบถามที่นักวิจัยพัฒนาขึ้นเอง ประกอบด้วยคำถามปลายปิดและปลายเปิด เป้าหมายการศึกษา คือโรงแรมประเภท 3 และประเภท 4 ในจังหวัดภูเก็ต จำนวน 146 แห่ง ใช้สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ค่าแจกแจงความถี่ ร้อยละ ได้ผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ดังนี้


  1. สถานการณ์การขาดแคลนแรงงานพบว่าสถานประกอบการธุรกิจโรงแรมในจังหวัดภูเก็ตมีสภาวะขาดแคลนแรงงานทุกแห่ง กระจายไปยังแผนกต่าง ๆ และมากที่สุดในแผนกต้อนรับส่วนหน้า รองลงมาคือแผนบริการอาหารและเครื่องดื่ม สาเหตุของการขาดแคลนคือผู้มาสมัครงานมีคุณสมบัติไม่ตรงตามที่ต้องการ

  2. สถานการณ์การจ้างแรงงานต่างด้าวในปัจจุบันของธุรกิจโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต มีจำนวนทั้งสิ้น 110 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 75.34 และมีลูกจ้างแรงงานต่างด้าวคิดเป็นสัดส่วนต่อสถานประกอบการเฉลี่ย 3.26 คนต่อสถานประกอบการ และสถานประกอบการยังมีความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าวในอนาคตจำนวน 29 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 19.86 ความต้องการแรงงานต่างด้าวในกลุ่มประเทศอาเซียน พบว่าต้องการแรงงานจากประเทศฟิลิปปินส์มากที่สุด ร้อยละ 45.61 รองลงมาคือเมียนมา ร้อยละ 25 ต้องการแรงงานต่างด้าวในกลุ่มประเทศอาเซียน +4 คือ แรงงานจากประเทศจีน ร้อยละ 58.63 โดยต้องมีคุณลักษณะที่สำคัญเป็นอันดับแรกคือความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษในขั้นพื้นฐาน รองลงมาคือสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้

  3. วิธีการปรับตัวต่อสภาพการขาดแคลนแรงงานที่นิยมมากที่สุดคือ บรรจุคนที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับที่ประกาศรับสมัครไว้ รองลงมาใช้วิธีการเพิ่มจำนวนชั่วโมงการทำงานล่วงเวลา (over time) ให้แก่พนักงานเดิม

Article Details

How to Cite
ประสมทอง น. (2020). Labor Shortage and Demand for Migrant Workers Employment of Hotel Business in Phuket Province: การขาดแคลนแรงงานและความต้องการแรงงานต่างด้าวกลุ่มประเทศอาเซียนของธุรกิจโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต. International Thai Tourism Journal, 15(2), 121–137. retrieved from https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jitt/article/view/201182
Section
Research Article