การพัฒนาตราสัญลักษณ์ของที่ระลึก ปินตู กรือบัง มลายู มัสยิดบ้านน้ำใส จังหวัดปัตตานี
คำสำคัญ:
ตราสัญลักษณ์, ของที่ระลึก, ปินตูกรือบังมลายู, มัสยิดบ้านน้ำใสบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาตราสัญลักษณ์ของที่ระลึก ปินตู กรือบัง มลายู มัสยิดบ้านน้ำใส จังหวัดปัตตานี โดยมีวิธีดำเนินงานวิจัยด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลจากการสนทนากลุ่ม การปฏิบัติการพัฒนาตราสัญลักษณ์ และการใช้แบบสอบถามจากกลุ่มเป้าหมายวิจัย ซึ่งเป็นภาคีที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยคณะกรรมการดำเนินงาน ปินตู กรือบัง มลายู มัสยิดบ้านน้ำใส จังหวัดยะลา และ ผู้เชี่ยวชาญด้านงานออกแบบตราสัญลักษณ์ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาชมปินตู กรือบัง มลายู มัสยิดบ้าน น้ำใส จังหวัดปัตตานี ทั้งนี้ข้อมูลที่ได้จากการสนทนากลุ่มและการปฏิบัติการพัฒนาตราสัญลักษณ์ จะถูกนำไปวิเคราะห์เชิงเนื้อหาและเขียนพรรณนาเชิงเหตุผลถึงแนวคิดและการออกแบบตราสัญลักษณ์ ส่วนข้อมูลจากแบบสอบถาม จะถูกนำไปประมวลผลโดยใช้โปรแกรมสถิติสำเร็จรูปหาค่าความถี่ และค่าร้อยละ ได้ผลการวิจัยดังนี้ การพัฒนาตราสัญลักษณ์ของที่ระลึก ปินตู กรือบัง มลายู มัสยิดบ้านน้ำใส จังหวัดปัตตานี ควรจัดทำเป็นภาพกราฟฟิกที่ถอดแบบมาจากเรือปือตาลาสักตีศรีวังซา โทนสีดำและสีทอง ตัวอักษรเป็นภาษาอาหรับหรือภาษามลายู ส่วนปีตามปฏิทินอิสลาม เน้นสะท้อนบุคลิกภาพที่ผสมผสาน ทั้งมิติวัฒนธรรม ศาสนา และศิลปะ โดยให้เป็นเรือที่มีประวัติศาสตร์น่าสนใจ บ่งบอกความ เป็นมลายูอิสลาม รวมถึงวิจิตรงดงาม ตระการตา สวยงาม ได้อารมณ์ศิลป์ ทั้งนี้ตราสัญลักษณ์ของที่ระลึก ปินตู กรือบัง มลายู มัสยิดบ้านน้ำใส จังหวัดปัตตานี แบบที่ 1 ซึ่งเป็นภาพหัวเรือปือตาลาสักตีศรี วังซา นักท่องเที่ยวมีความพึงพอใจมากที่สุด คิดเป็นค่าร้อยละ 52.00 ส่วนความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวที่มีต่อประเภทของที่ระลึกที่ต้องการซื้อ พบว่าเป็นพวงกุญแจ ร่ม และเสื้อ คิดเป็นร้อยละ 23.16, 20.50 และ 17.41 ตามลำดับ
เอกสารอ้างอิง
Armstrong, G. (2023). Principles of Marketing, Global Edition 19th Edition. Englewood Cliffs, New Jersey: Prentice – Hall International.
Bangkokbiznews. (2024). Soft Power Index shows “Thailand” is number 3 in ASEAN, “national brand” is strong. https://shorturl.asia/iDdKp.
Chaikheaw, N. (2023). Soft Power Knowledge Management of the Office of the Permanent Secretary, Ministry of Culture. https://shorturl.asia/gQiqC.
Chailor, C. and Songpra, C. (2017). Product Development as Souvenir from Koh Yor Fabric in SongKhla. Songkhla: Rajamangala University of Technology Srivijaya.
E-sor, A. & Vasoh, A. (2021). Logo Design of Liquid Borneo Camphor and Herbal Inhalant Products of Umong Piyamtr 1 Community, Betong District, Yala Province. Journal of Design Echo, 2(2), 12-22.
Hong Rattanaram Community, Bangkok Yai District: Bangkok. Tharaporn, A. (2019). A Study of Cultural Capital for Promoting Creative Economic Tourism: A Case of Holen Thai Souvenir Design. Humanities and Social Sciences Journal of Pibulsongkram Rajabhat University. 18(2), 693-706.
Liyan, B. (2019). Research on the Design of Cultural Creativity Products Based on Zigong Well Salt Culture. Earth and Environmental Science. 223(2), 1-6.
Marzouki, S. Y. (2020). Studying the Vital Role of Souvenirs Industry as an Essential Component of Tourist Experience: A Case Study of the United Arab Emirates (UAE). Journal of Tourism, Hospitality and Sports, 46, 24-33.
Ministry of Culture and Chulalongkorn University. (2022). Project to Study Consumer Demand for Thai Cultural products. https://shorturl.asia/rVAP2.
Ruangnarong, P. ( 2015). Malay names of towns and cities in the southern peninsula of Thailand. https://www.damrongjournal.su.ac.th/upload/pdf/81_1.pdf.
Somsaruay, P, Somsaruay, N and Sueaseenak, D. (2024). Development of Tourism Souvenir Products in The Wat
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
