การศึกษาแนวโน้มการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองไทยของแฟนเพจสื่อมวลชนกับการสร้างความเกลียดชัง
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาถึงสภาพปัญหา รูปแบบ การนำเสนอข่าวการเมืองไทยของสื่อมวลชนผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจช่วงการประกาศเลือกตั้งจากรัฐบาล คสช.ที่สร้างความเกลียดชัง และแนวโน้มการแสดงความคิดเห็นของสมาชิกแฟนเพจ กำหนดวิธีวิจัย(methodology) เชิงคุณภาพ(Qualitative research) ในการสัมภาษณ์นักวิชาการสื่อสารมวลชน 2 คนและนักวิชาชีพสื่อสารมวลชน 2 คน และวิเคราะห์การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนและพฤติกรรมการมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นของผู้เปิดรับข่าวสารจากเฟซบุ๊กแฟนเพจ คมชัดลึก และ Voice TV21 จำนวน 17 ข่าว ภายใต้เกณฑ์คัดเลือกเพื่อให้สอดคล้องกับประเด็นพฤติกรรมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของสมาชิกแฟนเพจโดยกำหนดระดับความรุนแรงของการสื่อสารที่สร้างความเกลียดชัง 3 ระดับ
ผลการศึกษาจากการสัมภาษณ์นักวิชาการและนักวิชาชีพ พบว่าการแสดงความคิดเห็นของสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวการเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองช่วงที่มีการประกาศเลือกตั้งของรัฐบาล คสช.ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจคมชัดลึก และ Voice TV21 พบว่า แฟนเพจ “คมชัดลึก” แสดงความคิดเห็นอยู่ในระดับการโน้มน้าวใจผู้อื่นให้เกิดความเกลียดชังต่อกลุ่มเป้าหมาย 2 ข่าว ระดับไม่มีการชี้นำให้เกิดความเกลียดชัง 4 ข่าว และระดับการแสดงความเกลียดชังโดยไม่ระบุวัตถุประสงค์ชัดเจน 1ข่าว สื่อมวลชนแฟนเพจ “Voice TV21” พบว่า แสดงความคิดเห็นอยู่ในระดับการโน้มน้าวใจผู้อื่นให้เกิดความเกลียดชังต่อกลุ่มเป้าหมาย 6 ข่าว ระดับเกลียดชังโดยไม่มีวัตถุประสงค์ชัดเจน 3 ข่าว และ ระดับไม่มีการชี้นำให้เกิดความเกลียดชัง 1 ข่าว จากการวิเคราะห์พฤติกรรมการร่วมแสดงความคิดเห็นหลังจากเปิดรับข่าวสารจากสื่อมวลชน พบว่า สมาชิกแฟนเพจ “คมชัดลึก” มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นอยู่ในระดับการโน้มน้าวใจผู้อื่นให้เกิดความเกลียดชังต่อกลุ่มเป้าหมาย 7 ข่าว และสมาชิกแฟนเพจ “Voice TV21” พบว่า แสดงความคิดเห็นอยู่ในระดับการโน้มน้าวใจผู้อื่นให้เกิดความเกลียดชังต่อกลุ่มเป้าหมาย 8 ข่าว และ ระดับ การโน้มน้าวใจหรือยุยงให้ผู้อื่นกระทำการรุนแรงต่อกลุ่มเป้าหมายจนถึงขั้นการทำล้ายล้าง 2 ข่าว จากการศึกษาการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชลจากมุมมองของนักวิชาการและนักวิชาชีพด้านสื่อมวลชนรวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลจากเฟซบุ๊กแฟนเพจคมชัดลึก และ Voice TV21 เกี่ยวกับการนำเสนอข่าว พบว่ารูปแบบการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน(ภาษาการพาดหัวข่าว, รูปภาพ) มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการแสดงความคิดเห็นของผู้รับสาร
Article Details
ข้อความและความเห็นในวารสารนิเทศศาสตร์และนวัตกรรม นิด้า เป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน มิใช่ของคณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
เอกสารอ้างอิง
ชนกนันท์ เสรีธรรมาชนและรุจน์ โกมลบุตร. (2561). การปรับทัศนคติ: เครื่องมือจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ. วารสารนิเทศศาสตร์และนวัตกรรม นิด้า, 5(1), 62
นัทกานต์ ทองพูน. (2553). การบริหารการผลิตรายการโทรทัศน์ท้องถิ่นด้านปกิณกะบันเทิงของสถานีเฉินเจียนวินเจริญ(KCTV) 2010 วารสารศาสตรมหาบัณฑิต คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
พิรงรอง รามสูตร. (2557) ทีวีการเมืองก่อนและหลังรัฐประหาร 2557 คอลัมน์ มองสื่อสะท้อนสังคม เว็บไซต์ กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/623211
ภาวนีย์ เจนกิติวรพงศ์และปัทมา สุวรรณภักดี. (2561). การเปิดรับสื่อ ทัศนคติ พฤติกรรม และการรู้เท่าทันในการใช้วาจาสร้างความเกลียดชัง ของวัยรุ่นไทย ในเขตกรุงเทพมหานครผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก (Facebook). วารสารการสื่อสารและการจัดการ นิด้า, 4(3), 84
วรมน เมตไตรพันธ์. (2554). ความคิดเห็นและความคาดหวังของผู้อ่าน ต่อการรายงานข่าวอาชญากรรมเกี่ยวกับความรุนแรงต่อสตรีในหนังสือพิมพ์รายวัน.(วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์). มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ศูนย์ศึกษานโยบายการสื่อสาร (2556) จริยธรรมในวิชาชีพสื่อมวลชน มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
สุกัญญา บูรณเดชาชัย. (2549). จรรยาบรรณ : การควบคุมกันเองยังมีปัญหา วารสารวิชาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, สืบค้นจาก www.lib.buu.ac.th
สมชัย สุวรรณบรรณ. (2557). การเสวนาวิชาการเรื่อง “จริยธรรมสื่ออาเซียน: โอกาสและความเป็นไปได้” ณ โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค กทม.
Molek, (2017) “Echo Chamberเมื่อออนไลน์ทำให้เราอยู่แต่ในกะลา” เว็ปไซต์ Makettingoops https://www.marketingoops.com/exclusive/echo-chamber/