แรงจูงใจ การเปิดรับข่าวสาร การตัดสินใจ และรูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวของผู้พิการ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มุ่งสำรวจแรงจูงใจ การเปิดรับข่าวสาร การตัดสินใจ พฤติกรรมการท่องเที่ยว และรูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวของผู้พิการ เพื่อให้ได้ความรู้ในมุมมองด้านของการท่องเที่ยวของกลุ่มการตลาดแนวใหม่ ซึ่งเริ่มมีอิทธิพลในสังคมโลกในปัจจุบันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
วิธีการวิจัยใช้วิธีการวิจัยเชิงสำรวจ ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลในกลุ่มตัวอย่างผู้พิการ 3 ประเภท ได้แก่ ผู้พิการทางการมองเห็น ผู้พิการทางการได้ยิน และผู้พิการทางการเคลื่อนไหว จำนวน 415 คน
ผลการวิจัยพบว่า ผู้พิการมีแรงจูงใจในการท่องเที่ยวทั้งแบบปัจจัยผลักดันและแบบปัจจัยดึงดูดอยู่ในระดับมาก มีการเปิดรับข่าวสารการท่องเที่ยวในด้านแหล่งข้อมูล เนื้อหา และช่องทางอยู่ในระดับปานกลาง มีการตัดสินใจท่องเที่ยวแบบวางแผนไว้ล่วงหน้าในระดับมาก และท่องเที่ยวในรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติมากที่สุด ในด้านพฤติกรรมทางการท่องเที่ยวพบว่าผู้พิการเดินทางท่องเที่ยว 1-2 ครั้งต่อปี ใช้เวลา 2 วัน ในการท่องเที่ยวแต่ละครั้ง ท่องเที่ยวในวันหยุด ใช้จ่ายในการท่องเที่ยวแต่ละครั้ง 1,000-3,000 บาท เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ท่องเที่ยวกับครอบครัว และจัดการท่องเที่ยวด้วยตัวเองมากที่สุด พฤติกรรมระหว่างการท่องเที่ยวพบว่า ผู้พิการมีการถ่ายภาพขณะท่องเที่ยว และโพสต์ภาพหลังการท่องเที่ยว รวมทั้งเล่าถึงแหล่งท่องเที่ยวที่อำนวยความสะดวกที่ดีให้กับผู้พิการท่านอื่น ๆ และทบทวนถึงปัญหาที่พบ เพื่อพิจารณาในการท่องเที่ยวครั้งต่อไป
Article Details
ข้อความและความเห็นในวารสารนิเทศศาสตร์และนวัตกรรม นิด้า เป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน มิใช่ของคณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
เอกสารอ้างอิง
เกษวดี พุทธภูมิพิทักษ์ . (2553). ประสบการณ์การท่องเที่ยวของผู้พิการในประเทศไทย. พิษณุโลก :มหาวิทยาลัยนเรศวร.
ธนิศา แสวงพรรค. (2560). แรงจูงใจ การแสวงหาข้อมูล และการตัดสินใจท่องเที่ยวภายในประเทศของผู้บริโภคหญิงโสดวัยทำงาน. วารสารการสื่อสารและการจัดการ นิด้า, 3(2), 61-70.
ธีร์ ตรงจิตพิทักษ์. (2556). พฤติกรรมการท่องเที่ยวของคนพิการทางการเคลื่อนไหวในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล. (ปริญญาวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.
ประชาไท. (2559). เผยไทยมุ่ง 'ออกแบบเพื่อทุกคน' ส่งเสริมเข้าถึงท่องเที่ยวเท่าเทียม, 22 กุมภาพันธ์ 2561. https://prachatai.com/journal/2016/07/66636
ปัทมอร เส็งแดง. (2552). การท่องเที่ยวของคนพิการทางการเคลื่อนไหวในสังคมไทย. (ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต), มหาวิทยาลัยศิลปากร, นครปฐม.
พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ และแก้วตา โรหิตรัตนะ. (2557). อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอาเซียนและแนวคิดระบบข้อมูลในโซ่อุปทาน. กรุงเทพฯ : สุมนพับลิชชิ่ง.
พิกัดข่าวเช้า. (2559). ประชุมท่องเที่ยวโลก ไทยชูท่องเที่ยวเท่าเทียม ดันรายได้, 22 กุมภาพันธ์ 2561. http://www.now26.tv/view/88938/ประชุมท่องเที่ยวโลก-ไทยชูท่องเที่ยว เท่าเทียม-ดันรายได้.html
ภพพรหมินทร์ วโรตม์วัฒนานนท์. (2558). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการสื่อสารแบบปากต่อปากในยุคดิจิทัล. วารสารการสื่อสารและการจัดการ นิด้า, 1(1), 86-100.
มนฤดี ทองกลอย. (2551). การเข้าถึงสื่อมวลชนของเยาวชนพิการในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
สุภาภรณ์ ประสงค์ทัน. (2560). การศึกษาข้อจํากัดทางการท่องเที่ยวและความต้ังใจในการเดินทางท่องเที่ยวของคนพิการในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล. วารสารสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 20(มกราคม-ธันวาคม 2560), 298-312.
MGR Online. (2560). ตลาดการท่องเที่ยวผู้สูงอายุ เงินสะพัดร่วม 2 แสนล้านบาท, 22 กุมภาพันธ์ 2561.https://today.line.me/th/pc/article/ตลาดการท่องเที่ยวผู้สูงอายุ+ เงินสะพัดร่วม+2+แสนล้านบาท-a0df017d6f2afbc17a72d80eaa7cf 99e5076a3ad8e92a8d4fffed49bb5d9cebb
SMARTNEWS ONLINE. (2559). รายงานพิเศษ..ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยมุ่งตลาดคนพิการ-ผู้สูงอายุ,22 กุมภาพันธ์ 2561. http://true4u.truelife.com/index.php?name=smartnews&action =detail&news_id=56
Dann, G. (1977). Anomie, ego-enhancement and tourism. Annals Of Tourism Research, 4(4), 184-194.
Maslow, A. H. (1954). Motivation and Personality, NY: Harper.
Yamane, Taro. (1967). Statistics, An Introductory Analysis, 2nd ed., New York : Harperand Row.