กลยุทธ์การตลาดการเมืองไทยปี 2562 กรณีศึกษา : พรรคอนาคตใหม่

Main Article Content

พันธกานต์ ทานนท์

บทคัดย่อ

การเมืองไทยกับมิติการสื่อสาร ถือเป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจศึกษาที่จะสามารถทำให้เห็นมุมมอง วิธีคิด การออกแบบสาร และกลยุทธ์ในการใช้สื่อ การประชาสัมพันธ์นโยบายต่าง ๆ ของพรรคการเมืองที่ถูกสร้างสรรค์ออกมาให้ดูสวยหรู น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารด้วยข้อความผ่านแผ่นป้ายหาเสียง อีเว้นท์ปราศรัย การลงพื้นที่หาเสียง และโดยเฉพาะการสื่อสารในสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปรากฎการณ์การสื่อสารที่ถูกออกแบบและใช้กลวิธีในการสื่อสารของพรรคการเมือง เพื่อช่วงชิงพื้นที่ในการแสดงตัวตน ภาพลักษณ์ จุดยืน เพื่อจะดึงความสนใจของประชาชน และเรียกคะแนนนิยมให้เข้าร่วมเจตนารมณ์ของพรรคของตน เพื่อเป้าหมายสูงสุดคือ การชนะการเลือกตั้ง โดยจุดมุ่งหมายของบทความวิชาการครั้งนี้ ผู้เขียน
หยิบยกกรณีศึกษาของพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งวิเคราะห์การสื่อสารของพรรคอนาคตใหม่ในช่วงการหาเสียงจนถึงก่อนวันเลือกตั้ง โดยหาคำตอบเกี่ยวกับกลยุทธ์การตลาดการเมือง การใช้สื่อในการรณรงค์หาเสียงของพรรคอนาคตใหม่ พร้อมทั้งนำแนวคิดการตลาดการเมืองมาวิเคราะห์หาคำตอบและอธิบายปรากฎการณ์ดังกล่าว


จากการศึกษาพบว่า พรรคอนาคตใหม่นำแนวคิดเกี่ยวกับการตลาดการเมืองมาใช้อย่างเต็มรูปแบบทั้งการวางเรื่องนโยบายที่ชัดเจน สื่อสารผ่านสมาชิกของพรรค และสโลแกนของพรรคไปในทิศทางเดียวกัน รวมทั้งประเด็นเรื่องภาพลักษณ์ของพรรคการเมืองแบบใหม่ที่สร้างภาพลักษณ์แบบคู่ตรงข้ามใหม่-เก่า เพื่อเป็นพื้นที่ให้กับคนรุ่นใหม่ที่จะอาสาเข้ามาล้มล้างระบบการเมืองแบบเก่า เป็นพรรคการเมืองที่กล้าต่อรองกับอำนาจรัฐรวมทั้งมีการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน และการสร้างจุดเด่นเฉพาะตัวของสมาชิกในพรรคให้มีประเด็นในการสื่อสาร หรือธีมเรื่องที่ถนัดของแต่ละคนให้มีความแตกต่างกัน มีเครือข่ายสมาชิกของพรรคที่กระจายครอบคลุมในหลายภูมิภาค สร้างจุดเด่นเรื่องสมาชิกพรรคในกลุ่มชาติพันธ์ และใช้สื่อออนไลน์เป็นเครื่องมือหาเสียงด้วยช่องทางสื่อสังคมออนไลน์จากตัวพรรคที่มีความหลากหลายและครอบคลุม การสร้างกระแสในโลกออนไลน์ที่สามารถช่วงชิงพื้นที่ในสื่อมวลชนหลัก และผลการสำรวจความนิยมจากหลายสำนักก็ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสื่อสารการเมืองของพรรคอนาคตใหม่เพื่อเรียกคะแนนนิยม

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิชาการ

เอกสารอ้างอิง

ปฐมาพร เนตินันทน์. (2553). การตลาดเพื่อการเมืองกับประชาธิปไตยในยุคมวลชน : ศึกษาเฉพาะกรณีการรณรงค์เลือกตั้งหาเสียงในประเทศไทย. สืบค้นจากhttps://www.bu.ac.th/knowledgecenter/epaper/may_july2010/pdf/page86.pdf. (เข้าถึงเมื่อ 22 มีนาคม 2562)

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์.(2562). “ธนาธร” เผยผลโพลอนาคตใหม่ ชี้มีความนิยมคว้า 50-75 ที่นั่ง วางเป้าทะลุร้อยเสียง. สืบค้นจาก https://www.prachachat.net/politics/news-282834 (เข้าถึงเมื่อ 20 มีนาคม 2562)

พรรคอนาคตใหม่. (2562). สืบค้นจาก https://futureforwardparty.org/about-fwp/our-policies.(เข้าถึงเมื่อ 18 มีนาคม 2562)

ราชกิจจานุเบกษา. (2561). พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพ.ศ.2561. สืบค้นจาก http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/A/068/40.PDF. (เข้าถึงเมื่อ 20 มีนาคม 2562)

ลลิตพรรณ นุกูลวัฒนวิชัย. (2559). การตลาดการเมือง: ศึกษาเปรียบเทียบกลยุทธ์การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2556. รัฐศาสตรมหาบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

วิเชียร ช่วยหนู. (2557). การสื่อสารทางการเมือง ยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์.รัฐศาสตรมหาบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง. (2562). ข้อมูลพรรคการเมืองที่ยังดำเนินการอยู่ ณ วันที่ 22 มกราคม 2562. สืบค้นจาก https://www.ect.go.th/ect_th/download/article/article_20190124073441.pdf (เข้าถึงเมื่อ 20 มีนาคม 2562)

สำนักวิชาการ สำนักงานเลขาสภาผู้แทนราษฎร. (2557). การตลาดเพื่อการเมือง:ชัยชนะของการเลือกตั้ง. สืบค้นจาก https://library2.parliament.go.th/ejournal/content_af/2557/feb2557-2.pdf. (เข้าถึงเมื่อ 20 มีนาคม 2562)