Textual Analysis and Decoding of Youthful Beauty Discourse in Advertisement

Main Article Content

พรรณพิลาศ กุลดิลก

Abstract

This study was aimed at analyzing semiotic denotation of youthful beauty discourse in advertisements representing anti-aging products and analyzing semiotic decoding model of middle-aged women towards the advertising representations. In this qualitative research, there were two main data sources to be studied: the textual analysis of 16 screenplays of anti-aging products for women and the in-depth interviews of 30 middle-aged women viewing those advertisement videos. The result revealed that all of the female ant-aging product advertisements constructed denotation of beauty for the middle-aged women by a combination of non-verbal and verbal components. The constructed denotation of beauty of middle-aged women was youthful wrinkleless beauty because a wrinkle was a signifier of growing age, thus a signified of no beauty which became a meaningful problem facing all women in their middle ages. Moreover, the interviews showed that all of the participants decoded the message of the advertisement in a reading model of negotiated position as they were all able to interpret the meaning precisely the way the encoder intended, but were not willing to accept all the message.

Article Details

Section
บทความวิชาการ

References

กชกรณ์ เสรีฉันทฤกษ์. (2551). วาทกรรมความงามของผู้หญิงในสังคมไทย: มุมมองพหุมิติ. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

กาญจนา แก้วเทพ. (2557). ปรัชญานิเทศศาสตร์และทฤษฎีการสื่อสาร. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

กาญจนา แก้วเทพ และสมสุข หินวิมาน. (2551). สายธารนักคิดทฤษฎีเศรษฐศาสตร์การเมืองกับสื่อสารศึกษา.กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนจำกัดภาพพิมพ์.

จันทิมา ปัทมธรรมกุล. (2550). วิเคราะห์การสร้างวาทกรรมความงามของโฆษณาผลิตภัณฑ์บำรุงผิว. วิทยานิพนธ์วารสารศาสตรมหาบัณฑิต (สื่อสารมวลชน). มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ชลธิชา พันธุ์พานิช. (2537). สิทธิคุณค่าของความเป์นมนุษย์กับการประกวดนางงาม. วิทยานิพนธ์สังคม สงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

โชติรส หอเจริญและเอื้อบุญ เอกะสิงห์. (2559). ส่วนประสมการตลาดที่มีผลต่อผู้หญิงในอำเภอเมืองลำปางในการซื้อผลิตภัณฑ์ต้านริ้วรอยบนใบหน้า. วารสารบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2 (1), 112-132.

ไชยรัตน์ เจริญสินโอฬาร. (2543). วาทกรรมการพัฒนา: อำนาจ ความรู้ ความจริง เอกลักษณ์และความเป็นอื่น.(พิมพ์ครั้งที่2). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์วิภาษา.

ฐานเศรษฐกิจ. (2557). พฤติกรรมการเสพสื่อทีวีที่เปลี่ยนไป. วันที่ค้นข้อมูล 15 ตุลาคม 2558. เข้าถึงได้จากhttp://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=241120

ณัฐวิภา สินสุวรรณ. (2553). การวิเคราะห์ตัวบทและการถอดรหัสความหมายเชิงสัญญะของโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสังคมไทย. วิทยานิพนธ์นิเทศศาสตรดุษฎีบัณฑิต. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

บุญรักษ์ บุญญเขตมาลา. (2537). ฐานันดรที่สี่ จากระบบโลกถึงรัฐไทย. กรุงเทพฯ: โครงการจัดพิมพ์คบไฟ.

รัชนินท์ พงศ์อุดม. (2548). ความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับค่านิยมเกี่ยวกับความงาม: การศึกษาวาทกรรมโฆษณา เครื่องสำอางในภาษาไทย. วิทยานิพนธ์อักษรศาสตรมหาบัณฑิต. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สื่อเพื่อสุขภาวะทางสังคม. (2551).รู้ทันสื่อ. วันที่ค้นข้อมูล 29 กันยายน 2558. เข้าถึงได้จากhttp://inetfoundation.or.th/icthappy/download/media/2012/8.bookMedia.pdf.

อนุชนา วิชเวช. (2560). ดันอุตสาหกรรมความงามไทยติดท็อปเท็นโลกใน 5 ปี. วันที่ค้นข้อมูล 8 มกราคม 2561, เข้าถึงได้จาก http://mgronline.com/business/detail/9600000044032.

อริยา อินทามระ. (2538). สตรีไทยกับศัลยกรรมเสริมความงาม. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหิดล.

อุ่นใจ เจียมบูรณะกุล. (2547). วาทกรรมความสวย อัตลักษณ์ วัฒนธรรมการบริโภค: กรณีศึกษานักศึกษาหญิงมหาวิทยาลัยเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. คณะสังคมศาสตร์.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

อุไรวรรณ รัตนพันธ์. (2552). มายาคติในโฆษณาครีมหน้าขาวสาหรับผู้หญิงของไทย ปี 2550. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหิดล.
ภาษาอังกฤษ

Decoopman. I., Gentina, E., Fosse-Gomez, M.H. (2010). A Confusion of Generation: Identity Issues around the Exchange of Clothing between Mothers and their Adolescent Daughters. Recherche et Applications en Marketing, 25 (3), 7-26.

Kathy Davis. (1995). Reshaping the Female Body: The Dilemma of Cosmetic Surgery. Routledge.