รัฐประหารกับการเมืองไทย
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อนำเสนอ (1) บริบททางการเมืองไทย เกี่ยวกับการรัฐประหารในไทยตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน และ (2) ตัวแบบการรัฐประหาร ของการเมืองไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ผลการศึกษา พบว่า (1) บริบททางการเมืองของไทยตั้งแต่สมัยรัฐจารีต รัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ถึงยุครัฐสมัยใหม่ในปัจจุบัน การรัฐประหารกับการเมืองไทยยังคงวนเวียนเป็นวงจรอุบาทว์ จนถึงปัจจุบัน และสามารถสรุปได้ว่า การรัฐประหารของไทยนั้น เกิดจากความขัดแย้งระหว่างชนชั้นนำของไทย ที่ช่วงชิงการครองอำนาจนำระหว่างกันเอง (2) ตัวแบบการรัฐประหารกับการเมืองไทยนั้น ขึ้นอยู่กับการรักษาสมดุลอำนาจระหว่างไตรภาคีอำนาจ คือ กลุ่มพลังเก่า กลุ่มพลังใหม่ และกลุ่มพลังภายนอก (ทุนนิยมโลก) โดยหากเกิดความไม่สมดุลอำนาจขึ้น กลุ่มพลังเก่าและพลังใหม่จะแย่งชิงการครองอำนาจนำ (Hegemony) โดยใช้วาทกรรมเป็นเครื่องมือสร้างความชอบธรรมทางการเมืองในการเข้าช่วงชิงในพื้นที่สังคมอุดมการณ์ แต่กลุ่มพลังที่จะได้ครองอำนาจนำ จะต้องได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มพลังภายนอก อันหมายถึงกลุ่มทุนนิยมโลกนั้นเอง ดังนั้นกลุ่มพลังภายนอกจึงเป็นกลุ่มพลังชี้ขาดการครองอำนาจนำรัฐอย่างแท้จริง
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารบริหารธุรกิจและสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารบริหารธุรกิจและสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารบริหารธุรกิจและสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำบทความทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อ หรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารบริหารธุรกิจและสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
กุลลดา เกษบุญชู มี้ด. (2549). ทุนนิยมอังกฤษกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในศตวรรษที่ 19. ฟ้าเดียวกัน, 4(4), 94-109
กุลลดา เกษบุญชู มี้ด. (2556). กระบวนการเข้าสู่ความเป็นสากลของระบบทุนนิยมและลัทธิเสรีนิยมใหม่. วารสารสังคมศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 43(2), 7-43.
จิตติภัทร พูนขำ. (2556). ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศแนววิพากษ์ กุลลดา เกษบุญชู มี๊ด กับตำแหน่งแห่งที่ทางวิชาการในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ. วารสารสังคมศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 43(2), 44-65.
ชัยอนันต์ สมุทวาณิช. (2552). รัฐ. กรุงเทพมหานคร: สถาบันนโยบายการศึกษา.
ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์. (2550). “ข้ออ้าง” การปฏิวัติ – รัฐประหาร – กบฏในเมืองไทยปัจจุบัน: บทวิเคราะห์และเอกสาร. กรุงเทพฯ: มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์.
นิธิ เอียวศรีวงศ์. (2549). การเมืองไทย สมัยพระนารายณ์. กรุงเทพฯ: มติชน
นิธิ เอียวศรีวงศ์. (2550). การเมืองไทยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี. กรุงเทพฯ: มติชน
เพลิง ภูผา. (2559).13 รัฐประหารยึดอำนาจ บทเรียนประชาธิปไตยไทย. กรุงเทพฯ: สยามความรู้.
โรม บุนนาค. (2549). คู่มือรัฐประหาร. กรุงเทพฯ: ส.เอเชียเพรส (1989) จำกัด.
ศักดิภัท เชาวน์ลักษณ์สกุล. (2557). การสร้างรัฐ-ชาติสยามกับการควบรวมนครรัฐในล้านนา สมัยรัชกาลที่ 5. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
สนั่น เหล่าประวัติชัย. (2558). รูปแบบการแก้ไขความขัดแย้งทางการเมืองในสังคมไทย. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2550). การรัฐประหารในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร.
สุชิน ตันติกุล. (2557). รัฐประหาร 2490. กรุงเทพฯ: มติชน.
สุรชาติ บำรุงสุข. (2558). เสนาธิปไตย:รัฐประหารกับการเมืองไทย. กรุงเทพฯ: มติชน.
อุดม ตะนังสูงเนิน. (2535). พัฒนาการทางการเมืองในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: เอ บี ดี ซี กรุ๊ฟการพิมพ์.
Cox, R. W. (1986). Social force, states. And word orders: Beyond international relations theory. In Keohane, R. O. (Ed.), Neorealism and its critics (204-254). New York: Columbia University Press.
Foucault, M. (1978). The history of sexuality: An introduction. New York: Vitage Books.
Foucault, M., & Sheriden, A. (1972). The archaeology of knowledge. New York: Panthcon Book.
Glassman, Jim. (2004). Thailand at the margins: Internationalization of the state and the transformation of labour. London: Oxford University Press.