ความได้เปรียบทางการแข่งขันที่มีผลต่อการตัดสินใจเพิ่มโอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิต และส่งออกไวน์ของประเทศไทย ในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน: กรณีศึกษา บริษัท สยามไวเนอรี่ จำกัด

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาปัจจัยด้านความได้เปรียบทางการแข่งขันที่มีผลต่อการตัดสินใจเพิ่มโอกาสการลงทุนอุตสาหกรรมการผลิต และส่งออกไวน์ของประเทศไทย (2) ศึกษาอุปสรรคที่มีผลต่อการตัดสินใจเพิ่มโอกาสการลงทุนอุตสาหกรรมการผลิตและส่งออกไวน์ของประเทศไทย (3) ศึกษาจุดแข็ง จุดอ่อน วิกฤต และโอกาส (SWOT) ที่มีผลต่อการตัดสินใจเพิ่มโอกาสการลงทุนอุตสาหกรรมการผลิต และส่งออกไวน์ของประเทศไทย
ผู้วิจัยใช้วิธีการศึกษาวิจัยเชิงปริมาณโดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากพนักงานของบริษัท สยามไวเนอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือจำนวน 280 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การ
ถดถอยพหุ ซึ่งการเลือกกลุ่มตัวอย่างในงานวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้กำหนดการเลือกกลุ่มตัวอย่างที่เป็นไปตามโอกาสทางสถิติ (Probability Sampling) แบ่งการสุ่มเป็นแบ่งชั้นภูมิ (Stratified Random Sampling) ตามระดับตำแหน่งงาน คือ คณะผู้บริหารระดับสูง ผู้บริหารระดับกลาง ผู้บริหารระดับต้น และพนักงานที่มีประสบการณ์ในการทำงานกับบริษัทมากกว่า 5 ปี โดยใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย (simple random sampling)
ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 53 มีอายุ 20-30 คิดเป็นร้อยละ 53 มีสถานภาพโสด คิดเป็นร้อยละ 50 มีระดับการศึกษาปวส./ปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 87 มีอายุงาน 6-10 ปี คิดเป็นร้อยละ 47 มีรายได้ต่อเดือน 9,001-20,000 บาทขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 63 และมีตำแหน่งงานระดับพนักงานคิดเป็นร้อยละ 73 ส่วนปัจจัยภายนอกองค์กรประกอบด้วย 5 มิติ ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณในด้านทำเลที่ตั้ง 0.205 ด้านเสถียรภาพทางการเมือง 0.196 ด้านกฏหมาย 0.173 ด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจ 0.162 และด้านโครงสร้างพื้นฐาน 0.119 ตามลำดับ โดยมีระดับนัยสำคัญทางสถิติน้อยกว่า 0.05 จึงสรุปได้ว่าปัจจัยเหล่านี้มีอิทธิพลทางบวกต่อการตัดสินใจเพิ่มโอกาสการลงทุนและสามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน